คาเวียร์มื้อพิเศษแห่งการเฉลิมฉลองแสนอร่อย
คาเวียร์ไม่ได้แพงอย่างที่คิด คาเวียร์สามารถเป็นมื้อพิเศษของเราได้... ประโยคแรกที่ อเล็กซีย์ ทูทิน หนุ่มรัสเซียประเทศเจ้าตำรับคาเวียร์
โดย...ปณิฏา สุวรรณปาล ภาพ กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร
คาเวียร์ไม่ได้แพงอย่างที่คิด คาเวียร์สามารถเป็นมื้อพิเศษของเราได้... ประโยคแรกที่ อเล็กซีย์ ทูทิน หนุ่มรัสเซียประเทศเจ้าตำรับคาเวียร์ และเป็นหุ้นส่วนบริษัท คาเวียร์ เฮาส์ (Caviar House) เริ่มพูดคุยสนทนาเกี่ยวกับไข่ปลาสเตอร์เจิน โดยเขาบอกว่าในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองใดๆ ก็ตาม ให้คาเวียร์เป็นของขวัญแก่ผู้อื่นหรือตัวเอง นับเป็นหนึ่งในของขวัญแสนอร่อย มากคุณค่า คนให้ก็เก๋คนรับก็ปลื้ม (ประโยคหลังดิฉันกล่าวเอง)
“ผมจำได้ว่าตอนเด็กๆ เวลาถึงวันครบรอบวันเกิด หรือวันคริสต์มาส ที่บ้านเราก็จะมีคาเวียร์กินกันบนโต๊ะอาหาร เพราะฉะนั้นคาเวียร์เป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่สิ่งที่เกินเอื้อมหรือจับต้องไม่ได้แต่อย่างใด” อเล็กซีย์ ย้ำ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมาเปิดตัวบริษัท คาเวียร์ เฮาส์ ของเขาร่วมกับหุ้นส่วนคนไทย เพื่อนำเข้าและจัดจำหน่ายคาเวียร์ 4 ชนิด จากฟาร์มในรัสเซียและจีน นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมบริษัท ไทยสเตอร์เจิน ฟาร์ม ที่ก่อตั้งโดยนักลงทุนไทยและรัสเซีย ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นฟาร์มที่ทั้งขายเนื้อปลาสำหรับการบริโภค และผลิตคาเวียร์สีดำจำหน่ายด้วย โดยเพิ่งปล่อยปลาสู่บ่อเลี้ยงในเดือน พ.ค. 2559 อีกไม่นานคงจะมีผลผลิตคาเวียร์สีดำออกมาให้ได้รับประทานกัน เช่นเดียวกับที่โครงการหลวงทำได้
การรับประทานคาเวียร์สีดำบ่งบอกถึงความสมบูรณ์พูนสุขและเป็นสิ่งที่ปฏิบัติต่อๆ กันมานานนับศตวรรษในหมู่ชนชั้นสูงของยุโรป โดยเฉพาะในพระราชสำนักของรัสเซีย โดยเรียกปลาสเตอร์เลต ซึ่งเป็นสเตอร์เจิน
ขนาดเล็กว่า “ปลาของพระเจ้าซาร์” ที่เสิร์ฟเนื้อให้คนในราชวงศ์รัสเซีย ทั้งเมนูปลาอบ ต้ม หรือเมนูพาย และซุป นอกเหนือจากไข่ปลา ซึ่งกลายเป็นคาเวียร์
นอกจากมูลค่าที่สูงแล้ว คาเวียร์สีดำยังเปี่ยมไปด้วยประโยชน์ทางโภชนาการ โดยประกอบไปด้วยวิตามิน เอ บี ซี ดี รวมทั้งสารอาหารมากมายอย่างไอโอดีน สังกะสี โพแทสเซียม โซเดียม และแมกนีเซียม นอกจากนี้ยังมีสารเลซิทินและกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 รวมทั้งอะเซทิล คลอรีนอีกด้วย
คาเวียร์สีดำผลิตจากจากปลาสกุลสเตอร์เจินเท่านั้น เดิมทีมีถิ่นอาศัยในทะเลแคสเปียน แม่น้ำวอลการ์ และแม่น้ำอาร์มูร์ ทว่าด้วยความที่เป็นที่ต้องการอย่างมาก จึงได้มีการพัฒนาเทคนิคต่างๆ ในการทำฟาร์มปลาสเตอร์เจิน ปลาสเตอร์เลต และปลาเบลูกา รวมถึงการผลสมพันธุ์ข้ามสายในสกุลเดียวกัน ทำให้ได้คาเวียร์ที่มีรสชาติและคุณสมบัติใหม่ๆ ขึ้นมา
สำหรับคาเวียร์สีดำ 4 ชนิด (ราคาระหว่าง 2,000-3.5 หมื่นบาท) จากฟาร์มในรัสเซียและจีน ที่บริษัท คาเวียร์ เฮาส์ นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ประกอบด้วย คาเวียร์แบบคลาสสิก (Classic Stur
geon Caviar) ซึ่งผลิตจากปลาสเตอร์เจินวัย 5-7 ปี ลักษณะมีสีดำเป็นเม็ดเล็กๆ ราว 2.4-2.5 มม. รสชาตินุ่มนวล สำหรับคนที่ชอบรสชาติอ่อนๆ
คาเวียร์แบบพรีเมียม (Premium Sturgeon Caviar) ผลิตจากปลาสเตอร์เจินจากรัสเซียวัย 12 ปีขึ้นไป ลักษณะมีสีดำแกมน้ำตาลเข้ม เป็นเม็ดเล็กๆ ราว 2.8-3.0 มม. รสชาติเข้มข้นจัดจ้านกว่าคาเวียร์แบบคลาสสิก ขณะที่ รอยัล คาเวียร์ (Royal Oscietra Caviar) เป็นคาเวียร์จากปลาพันธุ์ผสมระหว่างเบลูกากับสเตอร์เจินจากไซบีเรีย ซึ่งให้ไข่ปลาขนาดใหญ่เกือบเท่าคาเวียร์จากปลาเบลูกาแท้ๆ คือ 3.0-3.2 มม. สีสันน้ำตาลเข้ม อ่อนกว่า 2 ชนิดแรก รสชาติเข้มข้น สดชื่น ครีมมี่ และทิ้งรสชาติอยู่ในปากนานกว่า 2 ชนิดแรกอีกด้วย
ปิดท้ายด้วยคาเวียร์ที่อร่อยและแพงที่สุด อย่างเบลูกา คาเวียร์ (Beluga Caviar) ผลิตจากปลาเบลูกาซึ่งปกติอาศัยอยู่ในทะเลแคสเปียน ให้ไข่ปลาที่มีขนาดใหญ่ถึง 3.5-3.6 มม. สีสันออกโทนน้ำตาลทอง เมื่อชิมแล้วรสชาติอิ่มเต็ม เข้มข้น และครีมมี่มากๆ
คาเวียร์ เฮาส์ แนะนำว่าสามารถเสิร์ฟคาเวียร์คู่กับเนยหั่นบาง หรือครีมชีส และผักชีลาว นอกจากนี้ยังไปได้ดีกับแครกเกอร์ ขนมปังปิ้ง หรือแพนเค้ก รวมทั้งไข่ มันฝรั่ง หอยนางรม เนื้อกุ้ง ปู และหอยเชลล์ และอาจเสริมรสชาติด้วยแชมเปญ ดรายจิน หรือวอดก้า
ปาร์ตี้ปีใหม่นี้ ใครยังนึกอะไรไม่ออก ลองลงขันกันจัดคาเวียร์เทสติงดู หรือใครอยากโชว์ฝีมือทำอาหาร จัดหอยนางรมอบแต่งหน้าด้วยคาเวียร์ หรือคาปาโชกุ้งแดง ทาร์ทาร์หอยเชลล์ โรยคาเวียร์ รวมทั้ง
พาสต้าเย็น แต่งหน้าด้วยไข่กวนและคาเวียร์ ไม่ก็มันฝรั่งอบ โปะครีมชีสและคาเวียร์ ก็ Good Idea นะคะ