ปลุกชีวิต ‘แอคคอร์เดียน’ เครื่องดนตรีที่ใกล้สูญ
ในอีกสามวันข้างหน้ากลุ่มคนเล็กๆ กลุ่มหนึ่งจะรวมตัวกัน เพื่อบรรเลงเพลงจาก “แอคคอร์เดียน”
โดย...กาญจนา อายุวัฒน์ธนชัย ภาพ... แอคคอร์เดียนปาร์ตี้, อีพีเอ
ในอีกสามวันข้างหน้ากลุ่มคนเล็กๆ กลุ่มหนึ่งจะรวมตัวกัน เพื่อบรรเลงเพลงจาก “แอคคอร์เดียน” เครื่องดนตรีที่แทบจะสาบสูญไปจากประเทศไทย ในงานพบปะประจำปี “แอคคอร์เดียนปาร์ตี้ ครั้งที่ 2” ของนักดนตรีกลุ่มน้อยที่ช่วยกันจัดขึ้นในวันที่ 21-22 ม.ค.ศกนี้
นักดนตรีคนหนึ่งกล่าวไว้ว่า แอคคอร์เดียนไม่ใช่เครื่องดนตรีของวณิพก แต่เป็นสุดยอดเครื่องดนตรีที่นักดนตรีควรเล่น
สุรวุฒิ โพธิภิรมย์ หรือลุงจุ่น อายุ 58 ปี หนึ่งในตัวตั้งตัวตีที่ทำให้เกิดแอคคอร์เดียนปาร์ตี้ ครั้งที่ 1 เล่าว่า สนใจเครื่องดนตรีชนิดนี้เมื่อ 6 ปีก่อน หลังจากเลิกเล่นเปียโนไปเกือบ 10 ปี แอคคอร์เดียนทำให้เขาตื่นเต้นได้อีกครั้ง
“มันเป็นเครื่องดนตรีที่มหัศจรรย์” ลุงจุ่นกล่าว “ผมเคยเห็นมันตอนสมัยเด็กๆ ในยุคนั้นนำมาเป็นเครื่องดนตรีประกอบกับเพลงลูกทุ่ง บรรเลงเป็นเมโลดี้ ยืนข้างๆ นักร้อง ซึ่งไม่เคยสะดุดใจเรา จนผมเลิกเล่นดนตรีไปเพราะความเบื่อ แต่อยู่ดีๆ ภาพแอคคอร์เดียนมันก็จุดประกายขึ้นมาในหัว และทำให้ผมกลับมาหมกมุ่นกับเสียงดนตรีอีกครั้ง”
เขาอธิบายต่อว่า แอคคอร์เดียนเป็นเครื่องดนตรีที่สามารถเล่นได้คนเดียว ทั้งจังหวะ เบส คอร์ด และเมโลดี้ โดยลุงจุ่นหัดเล่นด้วยตัวเอง ศึกษาการทำงานของปุ่มต่างๆ จนสามารถเล่นเป็นเพลงได้
“ฝึกเองไม่ถึงเดือน ใช้ทักษะการเล่นคีย์บอร์ดและใช้ความรู้สึก ปล่อยให้เล่นไปตามเมโลดี้ ไปตามคอร์ด ให้เวลากับมันจริงๆ จนตอนนี้ผมเล่นได้อยู่เป็นร้อยเพลง บางเพลงก็คิดทำนองขึ้นมาเอง เพราะไม่มีต้นฉบับตายตัวกับเครื่องดนตรีชนิดนี้”
หลังจากเล่นแอคคอร์เดียนคนเดียว 1 ปี เขาได้เปลี่ยนไปเล่นให้คนอื่นฟัง ด้วยการเปิดหมวกที่ตลาดน้ำอัมพวา ด้วยความตั้งใจที่อยากนำเสียงดนตรีไปให้คนจำนวนมากฟัง หลังจากเปิดหมวกไปได้ 1 ปี มีคนมากระทุ้งว่าทำไมไม่ทำคู่มือ หรือรับสอนเพื่อไม่ให้มันสูญไป ลุงจุ่นจึงเขียนหนังสือแบบฝึกแอคคอร์เดียนพื้นฐาน ทำซีดีเพลงประกอบ โดยเขียนจากความรู้สึกและประสบการณ์ แล้วนำไปวางขายที่อัมพวาได้กว่า 500 ชุด กระทั่งมีคนติดต่อมาและเสนอว่า น่าจะจัดรวมพลคนชอบแอคคอร์เดียนในเมืองไทยดูสักครั้ง ว่าจะเป็นไปได้ไหม เพื่อเปิดเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยน และทำให้แอคคอร์เดียนมีพลัง หลังกระจัดกระจายจนเหมือนไม่มีอยู่จริง
“เมื่อปีที่แล้วตัดสินใจจัดปาร์ตี้และเวิร์กช็อปมีคนสมัครเข้มา 27 คน รวมผู้ติดตามด้วยเป็น 50 คน ซึ่งถือว่าน้อย แต่เราก็ทำใจไว้แล้ว เพราะจัดเป็นครั้งแรกและจัดที่ราชบุรีบ้านผมด้วย แต่ทำไปทำมากลุ่มเล็กๆ กลายเป็นเรื่องที่ดี เพราะทุกคนได้พูดจากัน มีการแนะนำให้กันและกัน โดยเราได้คุยกันถึงทิศทางของแอคคอร์เดียนไว้ว่า จุดแรกคือจะทำอย่างไรให้มันได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มคนหลายๆ วัย โดยเฉพาะให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักเรามากขึ้น และจุดที่สอง คือ เพื่อเป็นการพบปะพูดคุยกันแบบครอบครัว”
1 ปีที่ผ่านมา ลุงจุ่นเห็นชัดว่ามีคนสนใจแอคคอร์เดียนมากขึ้น จากเพจเฟซบุ๊ก แอคคอร์เดียน เซอร์วิส ลุงจุ่น Accordion Service Master tune ที่มีคนติดตามมากขึ้น 200% และคลิปวิดีโอในยูทูบที่มีคนเล่นแอคคอร์เดียนเผยแพร่มากขึ้นกว่าเดิมมาก
“ปีนี้งานปาร์ตี้จัดในกรุงเทพฯ มีกิจกรรมตั้งแต่หัวค่ำ แล้วกลับมาเวิร์กช็อปกันตอนเช้า มีการพูดคุยกัน มีการเล่นแอคคอร์ให้เพื่อนๆ ฟัง โดยปีนี้จะมีการนำวงดนตรีเครื่องสายไทยมาประกอบกับแอคคอร์เดียน เพื่อเป็นอีกมิติของการรวมวง”
ลุงจุ่นได้กล่าวถึงเสน่ห์ของแอคคอร์เดียน ว่า สามารถสร้างความสุขให้กับผู้เล่นได้จริง และเขาจะเล่นไปจนกว่าร่างกายจะไม่ไหว เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะหยุดสร้างความสุขให้กับตนเอง
อีกคนที่ลุงจุ่นพูดถึงบ่อยคือ เตี๋ยง-ธเนศ เอื้ออภิธร ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารโรงเรียนกวดวิชาเอ็นคอนเซ็ปต์ ที่ปีนี้ได้เปิดบ้านให้เป็นสถานที่จัดงาน เขาได้รับสมญานามว่าเป็นผู้รู้และผู้มีแอคคอร์เดียนในครอบครองมากกว่า 20 ตัว ซึ่งเขาได้ศึกษาอย่างจริงจังหลังได้เล่น และพบว่าแอคคอร์เดียนเป็นเครื่องดนตรีที่มีหลักการง่าย เล่นได้ครอบจักรวาล และเปิดวงได้แบบ one-man band หรือการเปิดวงด้วยเครื่องดนตรีเพียงชิ้นเดียว
“การตั้งค่าคอร์ดแบบกดปุ่มเดียวเจอแต่ในแอคคอร์เดียน ข้างในมันมีกลไกซับซ้อนแต่เล่นง่าย ถือเป็นเครื่องอะคูสติกที่เสียงฟูลมาก ผมหลงใหลในเสียงของมัน เป็นซาวด์ซิกเนเจอร์ที่หาที่ไหนไม่ได้ และการเล่นสองมือมันง่ายกว่าเล่นเปียโนหลายเท่า ซึ่งในเมืองไทยมีคนเล่นเปียโนเป็นเยอะ ถ้าหันมาเล่นแอคคอร์เดียนด้วยจะไม่ยาก และจะทำให้เป็นเครื่องดนตรีที่คนรู้จักมากขึ้นด้วย” เตี๋ยงเล่นแอคคอร์เดียนมาได้ 4 ปีเต็ม หลังเจอลุงจุ่นที่อัมพวา โดยชอบเล่นเพลงสุนทราภรณ์มากเป็นพิเศษ
จากการค้นคว้าประวัติศาสตร์ พบว่า แอคคอร์เดียนเป็นเครื่องดนตรีจากยุโรปที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปี 2493-2503 จนกระทั่งมีวัฒนธรรมเพลงป๊อปเข้ามา จึงทำให้คนหันไปสนใจเครื่องดนตรีไฟฟ้า และปล่อยให้แอคคอร์เดียนเป็นสิ่งล้าสมัย และค่อยๆ เสื่อมความนิยมอย่างในปัจจุบัน
“ความเป็นไฟฟ้าทดแทนความเป็นอะคูสติกไม่ได้เลย” เขาย้ำ “ก่อนเล่นจริงจัง ผมเกิดมาเคยเจอแอคคอร์เดียนไม่เกิน 3 ครั้ง แต่เมื่อคนเล่นโซเชียลมีเดียมากขึ้น ทำให้ผมรู้ว่ายังมีคนเล่นอยู่เยอะทั้งในยูทูบและเฟซบุ๊ก แต่สำหรับประเทศไทยความยากของการขยายความนิยม คือ ไม่มีครูสอน คนเล่นอยู่ตอนนี้ก็ไม่ได้อยากเป็นครู แต่อยากส่งข้อความไปถึงคนเล่นดนตรีทุกชนิดว่า ถ้ามีความรู้เรื่องดนตรี เขาควรมาลองเล่นแอคคอร์เดียน มันจะทำให้คุณลืมเครื่องดนตรีทุกชนิดที่เล่นมา”
เตี๋ยงเคยเรียนเปียโน กีตาร์ แซ็กโซโฟน และคลาริเน็ต ผิดจากแอคคอร์เดียนที่พยายามศึกษาด้วยตนเอง และกลับเป็นเครื่องดนตรีที่เล่นได้ก้าวหน้าที่สุด “เพราะมันน่ารักที่สุดในโลก” เตี๋ยงกล่าว
คนเล่นแอคคอร์เดียนส่วนใหญ่มีอายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี ตามค่านิยมของคนรุ่นใหม่ที่แทบไม่รู้จักแอคคอร์เดียนเลย แต่คนหนึ่งที่แตกต่างคือ เอ๊ก-เจนพิจารณ์ จตุรธำรง วัย 29 ปี นักแอคคอร์เดียนอายุน้อยที่สุดในงานปาร์ตี้ครั้งที่แล้ว เล่าว่า ก่อนหน้าที่จะรู้จักกลุ่มแอคคอร์เดียนไทย มีความสนใจและเรียนรู้เองในระดับหนึ่ง โดยส่วนใหญ่จะนำไปเล่นตามค่ายอาสา อีกกิจกรรมที่ชอบทำ
“คนอื่นมีกีตาร์ แต่ผมเล่นเปียโน ซึ่งพกไปด้วยไม่ได้ เลยหันมาสนใจแอคคอร์เดียน พอเสิร์ชในยูทูบเห็นคนเล่นแล้วรู้สึกว่ามันเท่มาก เล่นได้ทั้งมือซ้ายมือขวาดูน่าสนใจดี พอได้ลองเล่นดูแล้วมันจับทางได้ง่าย มารู้ตัวอีกทีก็วางไม่ลงแล้ว เพราะทุกครั้งที่เล่นมันสนุกมาก”
เอ๊กเป็นคนหนึ่งที่เคยคิดว่า แอคคอร์เดียนเป็นเครื่องดนตรีของคนรุ่นเก่าโบราณ แต่เมื่อได้สัมผัสแล้วทำให้เข้าใจว่า มันคือเครื่องดนตรีที่ยังทันสมัยอยู่เสมอ
“ถ้าแอคคอร์เดียนอยู่ในประเทศไหน มันจะมีกลิ่นเพลงของประเทศนั้นอยู่ อย่างรัสเซีย สหรัฐ ไทย จะมีกลิ่นเพลงต่างกัน กลิ่นแบบไทยๆ คือการนำมาเล่นกับเพลงไทยเดิม หมอลำ เรียกได้ว่าเป็นวัฒนธรรมของพื้นถิ่นนั้นๆ ซึ่งมันน่าสนใจเหมือนภาษาที่จะมีกลิ่นสำเนียงของประเทศนั้น พอผมไปเล่นให้คนอิตาลีฟัง เขายังทึ่งเพราะไม่เคยฟังสำเนียงไทยแบบนี้”
เอ๊กยังทำงานเป็นครูสอนดนตรีในกลุ่มดนตรีบำบัด ซึ่งเคยนำแอคคอร์เดียนไปเล่นให้คนไข้ฟัง ปรากฏว่า เสียงของมันได้เติมเต็มคนไข้สูงวัย และสร้างความตื่นเต้นบางอย่างที่ส่งผลดีต่ออารมณ์และจิตใจด้วย
“ผมเชื่อว่าถ้ามีคนเล่นมากๆ แอคคอร์เดียนจะฟื้นคืนมา กลุ่มเล็กๆ ในงานปาร์ตี้จะใหญ่ขึ้นกลายเป็นสังคมที่สามารถมาเจอกันทุกวันทุกสัปดาห์ และความสุขที่หายไปจะได้กลับคืนมาผ่านเสียงแอคคอร์เดียน”
งานแอคคอร์เดียนปาร์ตี้ ครั้งที่ 2 จะจัดขึ้นในวันที่ 21-22 ม.ค.นี้ ณ ไชนิ่งเซ็นเตอร์ ซอยรามคำแหง 118 ค่าเข้าร่วมกิจกรรมคนละ 500 บาท สอบถามหรือสนใจเข้าร่วมติดต่อ ลุงจุ่น 08-9782-2637 หรือเฟซบุ๊ก แอคคอร์เดียน เซอร์วิส ลุงจุ่น Accordion Service Master tune