‘My Little Traveller’ การเดินทางอันแสนวิเศษของเจ้าตัวน้อย
เธอเป็นแม่ที่มีความสุขที่สุด เธอมีลูกที่มีความสุขที่สุด และเธอมีครอบครัวที่มีความสุขที่สุด
โดย...ฤดูกาล
เธอเป็นแม่ที่มีความสุขที่สุด เธอมีลูกที่มีความสุขที่สุด และเธอมีครอบครัวที่มีความสุขที่สุด
เธอคือ จี๊ป-สาธิยา ศิริพจนากร เจ้าของหนังสือสุดน่ารักเรื่อง "My Little Traveller : เพื่อนร่วมทางตัวเล็กที่รัก" ของคุณแม่วัย 32 ปี ที่พาลูกสาว "น้องมาดี" ร่วมเดินทางตั้งแต่แบเบาะ จนตอนนี้เวลาล่วงไปเกือบ 2 ปี เธอได้เห็นเรื่องมหัศจรรย์มากมายที่เกิดขึ้นระหว่างเดินทาง
จี๊ปพาน้องมาดีออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 3 เดือน โดยเริ่มจากจังหวัดใกล้ๆ อย่างพัทยา หัวหิน เขาใหญ่ เพื่อให้ลูกสาวคุ้นเคยกับการเดินทางและการเปลี่ยนสถานที่
เธอเล่าว่า ตั้งแต่มีลูกได้วางแผนกับสามีจะให้ลูกได้เดินทางไกล เพราะทั้งสองคนรักการเดินทางเป็นทุนเดิม พอมีเจ้าตัวเล็กเพิ่มเข้ามาจึงอยากพาไปเที่ยวด้วยกัน
“คนโบราณชอบพูดว่า การพาเด็กไปเที่ยว เด็กจะไปรู้เรื่องอะไร แต่จี๊ปคิดว่าถ้าเด็กจะจำอะไรไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะคนที่จำได้คือพ่อแม่ การเดินทางด้วยกันมันคือเมมโมรี่ ซึ่งเมมโมรี่นั้นสามารถออกแบบเองได้จากคนเป็นพ่อเป็นแม่นี่แหละ จริงๆ แล้วจี๊ปกับแฟนคุยกันตั้งแต่ก่อนมีน้องมาดีแล้วว่า ถ้าเรามีลูกเราจะไม่สูญเสียชีวิตส่วนตัวนะ เพราะหลายคนไม่อยากมีลูกเพราะกลัวลำบาก แต่ถ้าเรามีลูกแล้วเราจะเป็นพ่อและแม่ที่มีความสุขให้ได้ และลูกของเราต้องเป็นเด็กที่มีความสุขที่สุดด้วย”
รายละเอียดของการเดินทางแต่ละครั้งย่อมปรับเปลี่ยนไปตามกิจวัตรประจำวันของลูกสาว เช่น การนอนกลางวัน การให้นม การรับประทานอาหาร การตื่นนอน และการเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นของเด็ก แต่ไม่ว่าอย่างไร การเดินทางที่มีลูกน้อยไปด้วยต้องยังมีความสนุก ความสุข และไม่ฝืนไลฟ์สไตล์ของพ่อแม่จนเกินไป
“ตอนลูกอายุสี่เดือนเราพาเขาไปโตเกียว" เธอเล่าต่อ
"เราเลือกเมืองนี้เพราะเป็นเมืองที่เหมาะกับเด็ก เหมาะกับการพาลูกเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก จากนั้นตอนลูกอายุเก้าเดือนเราได้พาไปลอนดอน ถามว่ายากไปไหมในการพาลูกเที่ยวไกลๆ จี๊ปว่าถ้าเราเลี้ยงลูกเอง เราจะรู้ว่าลูกต้องการอะไร เช่น ร้องไห้แบบนี้คือง่วง แบบนี้คือหิวนม ดังนั้นเราจะบาลานซ์เวลาเที่ยวไม่ให้แน่นเกินไป ถึงเวลากินต้องกิน เวลานอนต้องอย่าไปไหน เมื่อเราไม่บังคับหรือปรับเปลี่ยนเวลาของเขา ลูกจะไม่งอแงเลย
"รวมถึงการเลือกโรงแรมหรือร้านอาหารก็ต้องเหมาะกับเด็ก ควรมีที่ให้เด็กได้คลานได้กลิ้งได้ออกจากเป้ อุ้มไปยืดเส้นยืดสาย เพราะลูกไม่ใช่ตุ๊กตาที่จะอยู่นิ่งได้ตลอดเวลา เราต่างหากที่ต้องเคลื่อนไหวไปพร้อมๆ กับลูก”
เคล็ดลับของแต่ละครอบครัวจึงแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับกิจวัตรของเด็กแต่ละคน ซึ่งจี๊ปเห็นด้วยว่า การพาลูกเที่ยวเป็นเรื่องที่เหนื่อย แต่เป็นความเหนื่อยที่มีความสุข และเธอเข้าใจหลายคู่ที่อยากไปสวีตกับสามีสองต่อสอง แต่เธอเชื่อว่าแม่ทุกคนต้องการอยู่กับลูกตลอดเวลา เพราะทราบดีว่าเวลาที่ลูกจะอยู่ใกล้พ่อแม่นั้นมีไม่นาน
“เสาร์อาทิตย์คือวันแฟมิลี่ เราจะมีกิจกรรมทำตลอด เช่น ไปสวนสัตว์ ไปปิกนิก หรือในหนึ่งเดือนเราจะไปต่างจังหวัดสองครั้ง ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องใกล้หรือไกล เพราะเราได้ใช้เวลาร่วมกัน อยู่กับลูกทุกวัน ก็มีค่ามากๆ แล้ว ซึ่งการเดินทางหรือการที่ลูกได้ออกจากบ้านทำให้ลูกเซอร์ไพรส์เราเสมอ
"เราเห็นดวงตาของลูกที่รู้สึกตื่นเต้น ได้ยินสิ่งที่ลูกพูดออกมา จี๊ปเชื่อว่าลูกสามารถคิดตามได้เหมือนที่เราคิดนี่แหละ แต่แค่ไม่สามารถพูดออกมาเหมือนเราก็เท่านั้นเอง และจี๊ปก็ไม่สนด้วยว่าลูกจะจำได้หรือเปล่า เพราะสิ่งสำคัญกว่านั้นคือความสุขที่เกิดขึ้น ณ ตอนนั้น ดังนั้น พ่อแม่มีหน้าที่เก็บเกี่ยวความทรงจำกับลูกให้มากที่สุด และต้องสร้างความทรงจำให้ลูกมากที่สุดด้วย”
ติดตามเรื่องราวของการเดินทางอันแสนวิเศษของเจ้าตัวน้อยได้ในหนังสือ My Little Traveller : เพื่อนร่วมทางตัวเล็กที่รัก หนังสือบันทึกความรักที่จี๊ปทำเอง พิมพ์เอง ขายเอง ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวกล้าพาลูกออกเดินทาง