posttoday

อิซากายะตำรับอีสาน สองผสานที่ลงตัว

09 มกราคม 2561

อาหารสำรับใหม่ ที่เกิดจากการผสมผสานกันระหว่างอาหารปิ้งย่างสไตล์อิซากายะตำรับญี่ปุ่น กับอาหารอีสานรสแซ่บ


เวลาแห่งการเฉลิมฉลองปีใหม่ยังเพิ่งเริ่มต้น พร้อมกับลมหนาวอันแผ่วเบา ขอต้อนรับความสุขและสนุกสนานด้วยอาหารสำรับใหม่ ที่เกิดจากการผสมผสานกันระหว่างอาหารปิ้งย่างสไตล์อิซากายะตำรับญี่ปุ่น กับอาหารอีสานรสแซ่บของเรา กลายเป็นอาหารจานใหม่นามว่า อีสานกายะ นับเป็นอาหารลูกครึ่งที่มีความอร่อยที่ลงตัวและคุ้นเคยที่สุด

อีสานกายะมีจุดเริ่มต้นเกิดขึ้นจากความคิดของ เข่ง-พฤฒิพร สินธวานนท์ ผู้เป็นเจ้าของร้านที่มักจะแฮงเอาต์กับเพื่อนหลังเลิกงานเป็นประจำตามร้านปิ้งย่างแบบอิซากายะของญี่ปุ่น และอาหารอีสานรสแซ่บที่โปรดปราน ทำให้เขาติดใจในรสชาติของเมนูของอาหารทั้งสองสัญชาตินี้เป็นนักหนา

จนกระทั่งมีร้านเป็นของตนเองจึงได้รวมคอนเซ็ปต์อาหารที่ตนเองชอบ อย่างอาหารอีสานริมข้างทาง และเมนูปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน อาหารของร้านเข่งนี้จึงเป็นแนวอีสานกายะอย่างที่เขาตั้งใจ 

 

อิซากายะตำรับอีสาน สองผสานที่ลงตัว

 

เข่ง พฤฒิพร หนุ่มสถาปัตย์เจ้าของร้านคนเก่งบอกเล่าถึงแรงบันดาลใจในการรังสรรค์เมนูใหม่นี้มาให้ได้ลิ้มลองกันนั้น เริ่มต้นจากความชื่นชอบในอาหารของสัญชาตินี้เป็นชีวิตจิตใจ

“ผมเป็นคนชอบกินอาหารสไตล์อิซากายะของญี่ปุ่น และอาหารอีสานบ้านเราเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว กินกันตั้งแต่สมัยเรียน พอมาเปิดร้านผมจึงเกิดไอเดียที่จะนำอาหารสองอย่างมารวมกัน แม้ว่าจะดูแปลกตา แต่มันเป็นรสชาติที่คุ้นเคยครับ ทีแรกผมกะจะขายอาหารทั้งสองอย่างในร้านเดียวกัน เพื่อนๆ ก็แนะนำว่าทำไมไม่จับเอาจุดเด่นของทั้งสองมามิกซ์กันเลยล่ะ ผมก็เลยคุยกับเชฟและก็ร่วมกันทำเมนูนี้ออกมา ผมมีความรู้สึกว่าอาหารสองสัญชาตินี้มีจุดเด่นเหมือนกันๆ คือเรื่องของวัตถุดิบซึ่งจะเป็นของท้องถิ่น จะต่างกันก็ตรงรสชาติ แต่สามารถรวมกันได้ ผมว่าคนบ้านเราน่าจะชอบนะครับ”

ทางด้าน เชฟยา-สุริยา คำยอดใจ เชฟคู่หูคู่ครัวที่เป็นคนรังสรรค์เมนูอีสานกายะเล่าให้ฟังต่ออย่างออกรสว่า

 

อิซากายะตำรับอีสาน สองผสานที่ลงตัว

 

“ผมว่าคนไทยส่วนใหญ่จะชื่นชอบอาหารรสแซ่บแบบอีสาน ในขณะเดียวกันก็ยังชื่นชอบอาหารที่สัมผัสได้ถึงธรรมชาติและวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ผมและคุณเข่งก็เลยคุยกันโดยการจับสองอาหารมาผสมผสานกัน ด้วยความที่อาหารทั้งสองชาตินี้เราจะคุ้นเคยอยู่แล้ว จึงไม่รู้สึกว่ารสชาติแปลกใหม่ แต่สิ่งที่สังเกตเห็นก็คือหน้าตาที่ดูมีลูกเล่นมากยิ่งขึ้น นับเป็นการผสมผสานที่ลงตัวครับ” 

ฟังเชฟและเจ้าของร้านวัยหนุ่มสร้างสรรค์บอกเล่านับเป็นการกล่อมน้ำย่อยให้เข้าที่ ก่อนจะเริ่มลิ้มรสเมนูแรก อย่าง กุ้งเทมปุระอัญชัน เป็นซิกเนเจอร์เมนูของร้านที่ผสมน้ำอัญชันในแป้ง ซึ่งเป็นดอกอัญชันที่เก็บมาจากบ้านของเจ้าของร้านเอง จากนั้นนำไปคลุกกับกุ้งญี่ปุ่นและทอดจนกรอบฟู ให้สีน้ำเงินดูแปลกตา พร้อมเพิ่มรสชาติด้วยน้ำจิ้มแจ่วผสมถั่วลิสง แนะนำว่าให้รับประทานร้อนๆ จะอร่อยมาก

 

อิซากายะตำรับอีสาน สองผสานที่ลงตัว

 

มาถึงเมนูไฮไลต์ ตำอีสานกาย่า เป็นตำถาดลูกผสมไทย ญี่ปุ่น ที่มาพร้อมเครื่องเคียง 7 อย่างที่บางชนิดถูกย่างด้วยเตาถ่านหอมกลิ่นฟุ้งมาเลย ได้แก่ ปลาไข่ย่าง แคบหมู แซลมอนซาชิมิ ทาโกะวาซาบิ หมูทงคัตสึ ไก่คาราเกะ และข้าวเหนียวอัญชัน จับคู่กับส้มตำไทยไข่เค็ม หรือจะสั่งเป็นส้มตำไทยกุ้งสด และส้มตำปูปลาร้า ก็รสนัวไม่ใช่เล่น

จานเด่นจากดอกอัญชันอีกจานที่แอบชอบ ยำวุ้นเส้นอัญชันกุ้งสด รสจัดจ้าน แฝงลูกเล่นไว้ตรงวุ้นเส้นสีน้ำเงินจากน้ำดอกอัญชัน เมื่อคลุกเคล้ากับน้ำยำรสจัดจ้านที่เสิร์ฟแยกมา พอราดบนวุ้นเส้นรสเปรี้ยวจากมะนาวจะค่อยๆ เปลี่ยนวุ้นเส้นสีน้ำเงินให้กลายเป็นสีม่วงสวยล่อตาล่อใจ

ต่อด้วย ต้มยำแซลมอน ครบเครื่องเรื่องต้มยำแบบไทย ทั้งจัดจ้านและเข้มข้น กับเนื้อปลาแซลมอนที่อยู่คู่กับอาหารญี่ปุ่น มาพร้อมกับเห็ดนางฟ้า ความอร่อยที่เข้าขากัน

 

อิซากายะตำรับอีสาน สองผสานที่ลงตัว


หรือจะเป็น กุ้งแม่น้ำย่างชีส กุ้งแม่น้ำย่างชีสด้วยเตาถ่าน ท็อปด้วยซอสสไปซี่ และมอสซาเรลล่าชีส พร้อมด้วยไข่กุ้ง หอมกลิ่นเตาถ่าน และเพิ่มรสชาติด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ด

ตบท้ายด้วยของหวาน อย่าง วุ้นชาเขียว ข้าวเหนียวมูนอัญชัน วุ้นผสมกับชาเขียวมัทฉะนุ่มเด้งที่ทางร้านทำขึ้นเอง เพิ่มความนุ่มด้วยน้ำกะทิอัญชัน และเสิร์ฟคู่กับข้าวเหนียวอัญชันสีสวย ท็อปด้วยมะพร้าว นับเป็นการปิดท้ายมื้อที่อิ่มเอมที่สุด

สัมผัสอีสานกายะได้ที่ ร้านเข่ง (Raan-Keng) กลางซอยประดิพัทธ์ 14 เปิดบริการ (หยุดทุกวันพุธ) ตั้งแต่เวลา 12.00-14.00 น. และ 18.00-24.00 น. โทร. 02-279-1555 Facebook :  facebook.com/raankeng