สัญญาณเตือนจาก 'เล็บ' ที่ไม่ควรมองข้าม
"เล็บ" เปรียบเสมือนปราการด่านหนึ่งที่ช่วยปกป้องผิวหนังชั้นใต้เล็บ และทำหน้าที่สำคัญในการหยิบจับสิ่งของ การมีเล็บสุขภาพดีจึงบ่งบอกถึงสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงเช่นกัน
"เล็บ" เปรียบเสมือนปราการด่านหนึ่งที่ช่วยปกป้องผิวหนังชั้นใต้เล็บ และทำหน้าที่สำคัญในการหยิบจับสิ่งของ การมีเล็บสุขภาพดีจึงบ่งบอกถึงสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงเช่นกัน
เล็บที่มีสุขภาพดี คือเล็บที่มีสีผิวของเนื้อข้างใต้เล็บเป็นสีชมพูอ่อนๆ พื้นผิวเล็บเรียบไม่ขรุขระ ผิวหนังรอบเล็บไม่ถอยร่นเป็นขุยหรือมีผื่น เนื้อเล็บมีความหนาพอดีๆ ไม่มากหรือน้อยไป และแข็งแรงพอที่จะใช้หยิบจับของได้
ส่วนเล็บที่ผิดปกตินั้น ต้องสังเกตว่าเป็นที่ตัวเล็บหรือผิวหนังรอบๆ เล็บ เนื่องจากผิวหนังรอบเล็บอาจมีส่วนทำให้ผิวเล็บเกิดความผิดปกติได้เช่นกัน ปัญหาที่พบบ่อย คือปลายเล็บบาง แตกเปราะง่าย ซึ่งมักเกิดกับคนที่ทำเล็บเป็นประจำ ล้างมือบ่อย หรือผู้ที่มีการใช้เล็บกับน้ำมากเกินไป
อีกกรณีคือผิวหนังรอบเล็บมีอาการบวมแดง เล็บจึงดูเปลี่ยนแปลงไป เช่น เป็นขุย มีสีเขียว รอบเล็บขรุขระเหมือนเป็นเชื้อรา แต่ไม่ใช่เชื้อรา อาการดังกล่าวมักเจอในแม่บ้าน หรือคนที่ทำงานบ้านเอง เมื่อเล็บโดนน้ำยาทำความสะอาดก็จะทำให้ผิวหนังรอบเล็บเปื่อย พอโดนสารเคมีซ้ำๆ จึงทำให้เกิดการอักเสบ และบวมแดงได้
สัญญาณเตือนจากเล็บที่ไม่ควรมองข้าม
สังเกตได้เองจากเล็บว่าหนาผิดปกติหรือไม่ เช่น หนาบริเวณปลายเล็บ สันนิษฐานได้ว่าอาจเป็นโรคเชื้อรา หรือโรคสะเก็ดเงิน โดยทั้งสองโรคนี้มีความคล้ายคลึง แต่ต่างกันตรงที่โรคเชื้อรามักเกิดขึ้นเพียงไม่กี่เล็บ แต่โรคสะเก็ดเงินมักเป็นหลายเล็บ หรือเป็นหมดทั้งเล็บ
นอกเหนือจากนี้ คืออาการเล็บบางและมีรูปร่างผิดปกติ เช่น มีลักษณะแอ่นเหมือนช้อน สันนิษฐานว่าอาจมีภาวะโรคเลือดจาง หรือขาดธาตุเหล็ก และเล็บมีสีที่ผิดปกติหรือไม่ เช่น เล็บขาวครึ่งเล็บ (หมายถึงผิวหนังใต้เล็บมีสีผิดปกติ) เป็นลักษณะที่พบได้ในผู้มีภาวะไตวายเรื้อรังและบวมน้ำ ซึ่งหากเป็นสีขาว 2 ใน 3 ของเล็บ มักเป็นอาการของผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคตับแข็ง หรือโรคหัวใจวาย สำหรับบางคนที่พบจุดขาวๆ ปรากฏบนเล็บ โดยเฉพาะหากเป็นหลายเล็บ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าอยู่ในภาวะขาดสารอาหารบางอย่าง สำหรับวิธีที่ดีที่สุดคือการไปพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อให้การรักษาที่ถูกต้องและถูกกับโรค
ถนอมกันสักนิดเพื่อสุขภาพเล็บที่แข็งแรง
ควรปล่อยให้เล็บได้หยุดพักหายใจจากการทาสีเล็บบ้าง โดยเฉพาะยาทาเล็บสีแดงกับสีส้มที่ทำให้เล็บเหลืองได้ง่ายกว่าสีอื่นๆ ควรเว้นช่วงการทาสีครั้งใหม่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ส่วนการต่อเล็บไม่ควรทำต่อเนื่องกันนานกว่า 3 เดือน และควรเว้นสัก 1 เดือนก่อนจะต่อเล็บครั้งใหม่ นอกจากนี้ ควรทาครีมบำรุงเพื่อช่วยลดความหยาบและลดการเป็นขุย