"กินปลา" เคล็ดลับการใช้ชีวิตในวัยชราแบบบอกลาโรคเรื้อรัง
วงการแพทย์ย้ำกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งพบมากในปลา ถั่ว และผักใบเขียว เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้มีสุขภาพดี โดยเฉพาะกรดไขมันโอเมก้า 3 ในอาหารทะเลที่ส่งผลดีต่อร่างกายที่สุด
วงการแพทย์ย้ำกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งพบมากในปลา ถั่ว และผักใบเขียว เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้มีสุขภาพดี โดยเฉพาะกรดไขมันโอเมก้า 3 ในอาหารทะเลที่ส่งผลดีต่อร่างกายที่สุด
วารสารด้านการแพทย์ BMJ (British Medical Journal) ของอังกฤษ เผยว่า ไขมันที่พบในอาหารทะเลส่งผลดีต่อสุขภาพแม้อายุจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งพบมากในปลา ถั่ว และผักใบเขียว เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้มีสุขภาพดี โดยเฉพาะกรดไขมันโอเมก้า 3 ในอาหารทะเลที่ส่งผลดีต่อร่างกายที่สุด
เฮดี ไล ผู้ร่วมวิจัย กล่าวว่า การศึกษาดังกล่าวได้มุ่งเป้าไปที่การสูงวัยอย่างมีสุขภาวะ กล่าวคือการใช้ชีวิตในวัยชราโดยที่ไม่มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคสมองเสื่อม หรือการเสียชีวิตก่อนอายุ 65 ปีด้วยโรคภัย
“ปัจจุบันคนมีอายุยืนขึ้นก็จริง แต่กลับมีสุขภาพที่ไม่ดี ซึ่งเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากมีชีวิตอยู่กับโรคภัยไปนานๆ” เฮดีให้สัมภาษณ์กับนิตยสารไทม์
การวิจัยดังกล่าวได้เก็บตัวอย่างเลือดของผู้สูงวัยจำนวนมากกว่า 2,600 คน ที่มีอายุเฉลี่ย 74 ปี โดยได้วัดระดับกรดไขมันโอเมก้า 3 จำนวน 46 ชนิดในเลือด ซึ่งทุกคนถูกเช็กแล้วว่ามีสุขภาพดีตั้งแต่เริ่มต้น จากนั้นการวิจัยได้ติดตามกลุ่มคนเหล่านี้นานกว่า 25 ปี พบว่า มีเพียงร้อยละ 11 เท่านั้นที่เข้าข่ายการมีสุขภาพดี และกรดไขมันโอเมก้า 3 มีส่วนสำคัญ โดยเฉพาะในอาหารซีฟู้ด ซึ่งตรงกันกับการตอบแบบสอบถามของผู้ที่สุขภาพดีกลุ่มนี้ที่ระบุว่า พวกเขาบริโภคเนื้อปลาประมาณ 2 เสิร์ฟ/สัปดาห์ ส่วนอีกกลุ่มบริโภคเนื้อปลาเพียง 1 เสิร์ฟ/สัปดาห์
ดังนั้น ปลาน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนสูงวัย อย่างไรก็ตาม นักวิจัยยังระบุว่า กรดไขมันโอเมก้า 3 ที่พบในผลวอลนัตและเมล็ดแฟลกซ์ก็ส่งผลดีต่อร่างกาย แต่ผลลัพธ์ที่ได้คงต้องศึกษาต่อไป