posttoday

5 ทศวรรษ แห่งฝั่งธนฯ “ลุงทู” ภัตตาคารอิ่มละ 10 บาท

21 เมษายน 2563

เรื่องราวอัศจรรย์ของร้านอาหารริมฟุตบาทที่ขายราคาแค่ 10 บาท ในกรุงเทพฯ ที่ไม่ว่ากาลเวลาหรือวิกฤตพิษแค่ไหนก็ลอยเหนือการขาดทุนมีแต่กำไรได้กว่าเกือบ 50 ปี

เรื่อง : รัชพล ธนศุทธิสกุล

ภาพ : ณัฐพล โลวะกิจ

หากคุณคิดว่าอาหารหนึ่งจาน 10 บาท ที่มีรสชาติอร่อยและปริมาณอิ่มท้องจะมีเฉพาะในต่างจังหวัด คุณคิดผิด!

เพราะที่ย่านพญาไม้ตรงข้ามสวนสมเด็จย่า (อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี) มีร้านแบบนี้ตั้งตระหง่านเปิดให้บริการมานานกว่าเกือบ 50 ปี ที่ชื่อร้าน “ลุงทู” หรือ "นายสุรพันธ์ ถิรธาดา"  

โดยเมนูของทางร้านที่ขึ้นชื่อได้แก่ ข้าวกะเพราหมู ข้าวหมูกระเทียม ข้าวหมูผัดพริกและราดหน้า ซึ่งหากเพิ่มไข่ดาวเพิ่มอีก 10 บาทเป็นราคา 20 บาท เท่านั้น...

5 ทศวรรษ แห่งฝั่งธนฯ “ลุงทู”  ภัตตาคารอิ่มละ 10 บาท

เพื่อลูก เพื่อหลาน

“แรกๆ ที่เปิด ลูกค้าประจำคนแถวนี้ทั้งนั้น เด็กๆ อะไรพวกนี้มาทาน ลูกค้าประจำทานกันจนกระทั่งมีครอบครัว มีลูกหลานเป็นอา เป็นน้า เป็นปู่ และลูกหลานก็มากินที่ร้าน เราก็คิดว่าเอานะมาขายของอย่างนี้ก็ช่วยๆ กันไป” ชายชราในวัย 73 เบื้องหน้าเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการขายข้าวในราคาถูกเพราะเกิดและเติบโตในชุมชนแห่งนี้เมื่อปี พ.ศ. 2491

“แต่ก่อนก็ไม่ได้คิดฝันเป็นพ่อครัวทำอาหาร” ลุงทูพาย้อนอดีตชีวิตในชุมชนสวนสมเด็จย่าที่มาตามวีถีไม่ต่างไปจากแหล่งกำเนิดภัตตาคาร 10 บาท โดยเริ่มต้นจากชีวิตเด็กไม่ชอบเรียนแต่ก็จบชั้นป.7 ซึ่งในยุคนั้นการเรียนเมื่อถึงระดับนี้ก็ออกทำงานหาเลี้ยงตัวสร้างชีวิต

“ทำงานมาตั้งแต่เด็กๆ งานทุกอย่างที่เป็นอาชีพสุจริตทำหมด พอมีสงครามเวียดนามอยากเป็นทหารเพราะเห็นทหารไทยรุ่นจงอางศึก แต่ทางบ้านห่วงเลยไม่ได้ไป จากนั้นทำงานเป็นพนักงานบริการ เป็นบ๋อยในภัตตาคารและขึ้นตำแหน่งมาเป็นกัปตัน”   

ด้วยหน้าที่ในสวนอาหารชื่อดังในอดีตอย่าง ร้านอาหารสวนกุหลาบ (โค้ว ฮวด หลี) ย่านสะพานพุทธ การคอยดูแลควบคุมเด็กเสิร์ฟไปจนถึงประสานงานรับฟังเสียงจากลูกค้าไปสู่พ่อครัวเรื่องรสชาติ นั้นจึงทำให้เขาได้เรียนรู้เรื่องของการทำอาหารให้อร่อยโดยปริยาย

5 ทศวรรษ แห่งฝั่งธนฯ “ลุงทู”  ภัตตาคารอิ่มละ 10 บาท

“มันมีอะไรผิดแปลกจากลูกค้าเราก็เข้าไปในครัว ประสานกับในครัว รสชาติอย่างนี้ๆ ก็เห็นเขาผัด เขาต้ม” แก่ว่า

จากทำอาหารไม่เป็น ทอดไข่ก็ไม่ได้ มาทำงานถือแต่ปากกาทั้งวัน มาหัดจับตะหลิวได้ตอนตกงานเพราะไม่รู้จะทำอะไร คิดในใจไหนๆ ก็ไหนๆ ลองๆ ดู เปิดร้านลอง เนื่องจากมันไม่มีใครเกิดมาเป็นทุกอย่าง อะไรไม่เป็นก็ต้องหัด ลุงทูก่อนเปิดร้านก็เลยศึกษาต่อที่ไหนใครบอกอร่อยก็ไปลองชิม จนเจอร้านขายราดหน้าให้วิชาเพิ่มและมานำมาดัดแปลงกระทั่งเป็นสไตล์ของตัวเอง

ในปีพ.ศ. 2515 ร้านลุงทูจึงเกิดขึ้น ซึ่งแม้ว่าจะเป็นร้านที่เปิดใหม่แต่ก็สร้างยอดขายวันละ 300-400 บาทเลยทีเดียว ท่ามกลางสมรภูมร้านอาหารใกล้เคียงที่อยู่ในละแวกเดียวกันที่มีอยู่ถึงกว่า 5 ร้าน

“หักลบกลบทุนก็กำไรวันละ 50 บาท ทำงาน 1 อาทิตย์ เท่ากับเงินเดือนทั้งเดือนสมัยพนักงานเงินเดือน 300 บาท เราอยู่ได้ก็ไม่รู้จะขึ้นราคาทำไมตอนนั้นที่ขาย 3 บาทเริ่มแรก 20 ปีถึงขึ้นเป็น 5 บาท และ 10 บาท ช่วงปี 2555 และก็ไม่ขึ้นอีก”

5 ทศวรรษ แห่งฝั่งธนฯ “ลุงทู”  ภัตตาคารอิ่มละ 10 บาท

เพื่อเพื่อนและพวกพ้อง   

จิตวิญญาณของพ่อค้าสำหรับใครหลายคน คือการค้าเอากำไรที่ยิ่งเงินมากเท่าไร่ยิ่งดี ทว่าในกรณีของพ่อครัวเฒ่าวัย 73 ปีผู้นี้ เลือกที่จะรับเงินน้อยๆ แต่เน้นปริมาณ โดยหลักที่ใครๆ ปรามาสว่าไม่ฉลาดเลยในมุมของเขานั้น เขากลับคิดง่ายๆ แบบไม่ต้องเป็นนักคณิตศาสตร์คำนวณภาพกราฟยอดตัวเลข ภาพของการขาย 10 บาท เปอร์เซ็นต์สูงเกินครึ่งที่จะสั่ง 2 จาน ในขณะที่เพิ่มแพงกว่าเพียง 5 บาท เป็นจานละ 15 บาท ลูกค้าก็จะกินเพียงจานเดียวเท่านั้น  

“อีกส่วนหนึ่งคือเราเคยลำบากมาก่อนเราก็อยากจะช่วย พอช่วยในราคาแบบนี้ คือเรามองทั่วๆ ไปแล้วว่าราคานี้มันไม่มีเลยในกรุงเทพฯ คนมีหรือไม่มีก็มาทานได้ราคานี้ และเวลามาทานลูกค้ามาทานเขาก็ยิ้มแย้มแจ่มใสออกจากร้าน เพื่อนฝูงก็เพียบตามมา

“มีพรรคพวกเยอะแยะมีอะไรก็ช่วยเหลือกัน คืออย่างน้อยที่เห็นเลยคือช่วยคลายเหงาที่ร้าน ลูกค้ามาเยอะๆ เราก็ได้เยอะไปเอง มันทำได้ ผมยังสงสารที่เห็นลูกค้าบางคนเจอร้านค้าธรรมดา 40 บาท ใส่ไข่ 50 บาท”

5 ทศวรรษ แห่งฝั่งธนฯ “ลุงทู”  ภัตตาคารอิ่มละ 10 บาท

และมันก็ขายได้กำไรได้จริงด้วย ยอดจำนวนเน้นเรียกปริมาณลูกค้าในราคาถูกซึ่งลุงทูบอกว่าร้านของเขานั้นมียอดขายต่อวันหนึ่งกำไรเฉลี่ยถึงกว่า 1,000 บาทเศษ ทั้งๆ ที่ใช้ของดีมีคุณภาพ หมู ผัก ซื้อร้านเกรดดีไม่ใช้ซี้ซั้ว ไม่ว่าเศรษฐกิจจะแย่สักแค่ไหน วิกฤตการณ์บ้านเมืองจะอย่างไรก็ตาม

“ยอดขายตกลงแค่ 20% ตอนนี้ที่ไวรัสโควิดระบาด ก่อนหน้านี้น้ำท่วมใหญ่ 2539 ต้มยำกุ้ง 2540 ม็อบการเมืองสีต่างๆ เจอมาหลากหลายวิกฤตก็รอดมาตลอด (หัวเราะ) คือร้านอาหารเราต้องซื่อสัตย์ ซื่อตรงกับลูกค้า ขายของในราคาที่เขาอยู่ได้เราก็อยู่ได้”

5 ทศวรรษ แห่งฝั่งธนฯ “ลุงทู”  ภัตตาคารอิ่มละ 10 บาท

เพื่อสุขกับความสบายใจ

หลังจากลัดเลาะจุดเริ่มต้นและเส้นทางการเป็นร้านอาหาร 10 บาท ซึ่งในทุกๆ ครั้งที่เสิร์ฟส่งถึงมือลูกค้านัยยะได้ว่าคือการแบ่งบุญเกื้อหนุนแก่เพื่อนมนุษย์ ลุงทูบอกว่าทำแล้วมันสบายใจ พอสบายใจมันก็มีความสุข เป็นเบื้องลึกที่ผลักให้ทำกระทั่งปัจจุบันนี้เป็นระยะเวลากว่าเกือบ 50 ปี

“ทำแบบนี้เราสบายใจทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าถามว่ารู้สึกยังไงกับการช่วยเหลือที่เราช่วยได้มาตลอด มันทำให้เราสบายใจ เราสุข และให้แล้วอย่าไปคิดหวังผลประโยชน์สิ่งตอบแทน”   

ลุงทูย้ำวิธีทำให้เราทำไปแล้วเราสบายใจ เดี๋ยวสิ่งนั้นมันก็ย้อนกลับมาเองแบบตัวเขาที่วันนี้เป็นทั้งคุณตาและปู่ พ่วงท้ายตำแหน่งกุ๊กภัตตาคารที่ไม่ใช่ญาติแต่ใครๆ ก็เรียกนับศักดิ์พี่น้องเรียกเฮียทูร้านอาหารที่ถูกที่สุดในกรุงเทพฯ ที่น้อยคนนักจะไม่รู้จัก

5 ทศวรรษ แห่งฝั่งธนฯ “ลุงทู”  ภัตตาคารอิ่มละ 10 บาท

“เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ผมก็เป็นประธานชุมชน ได้รางวัลชุมชนดีเด่นจากเขตคลองสาน” พ่อครัววัยดึกเผยก่อนจะกล่าวทิ้งท้ายเรื่องราวอาหารราคาย่อมเยาแต่ปริมาณและความอร่อยคุณภาพคับจานที่จะทำต่อไปจนกว่าจะหมดแรงกันไปข้างหนึ่ง

“ทุกวันนี้ก็ไม่ได้รวยแค่มีพอกินไปวันๆ แต่มีความสุข ถ้าอยากรู้สึกว่าเป็นยังไงต้องลองดู ความสุข ความสบายใจที่ว่า ต้องลองแล้วจะรู้”

5 ทศวรรษ แห่งฝั่งธนฯ “ลุงทู”  ภัตตาคารอิ่มละ 10 บาท