ทวี-DSI สอบ "สมเกียรติ" ปม ถูกปลอมลายเซ็น คุมสร้างตึกสตง.
“ทวี” พร้อม "DSI" สอบ "สมเกียรติ" ปม ถูกปลอมลายเซ็น-แอบอ้างชื่อ คุมก่อสร้างตึก สตง. ด้าน สมเกียรติ ยัน ไม่ได้คุ้มก่อสร้างมาแล้ว 20 ปี ปัดไม่รู้จัก “ปฏิวัติ” กรรมการ PKW
จากกรณีที่นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานคลินิกช่าง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ถูกแอบอ้างชื่อและปลอมลายเซ็นเป็นผู้ควบคุมงาน กิจการร่วมค้า PKW (ประกอบด้วย บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด บริษัท ว. และสหายคอลซัลแตนตส์ จำกัด และบริษัท เคพี คอนชัลแทนส์ จำกัด) ที่เป็นคู่สัญญาผู้ควบคุมงานก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. และนายสมเกียรติ
วันนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI โดยกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (กองคดีฮั้วประมูล) ได้นายสมเกียรติ มาให้ข้อมูลในประเด็นดังกล่าว โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้เดินทางมาร่วมสอบปากคำด้วย
โดยภายหลังคุยกันนานกว่า 1 ชม. พ.ต.อ.ทวี พร้อมด้วย ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดี DSI และนายสมเกียรติ ได้แถลงข่าวร่วมกัน โดย พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่า วันนี้นายสมเกียรติมาให้ข้อมูลในฐานะพยาน และจะเซ็นลายเซ็นของจริง เพื่อส่งตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์เทียบกับลายเซ็นในเอกสารที่ปรากฏตามเอกสาร
หากตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ตรงกันก็ถือว่าเป็นพิรุธอย่างหนึ่ง ซึ่งสามารถตั้งข้อสังเกตว่า มีการควบคุมงานการก่อสร้างจริงหรือไม่ และควบคุมโดยใคร ซึ่งตามปกติแล้วหน่วยงานราชการที่ต้องการก่อสร้างอาคารจะให้กรมโยธาธิการและผังเมือง หรือกรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบ
แต่อาคาร สตง. ทั้งสองหน่วยงานไม่ได้เป็นผู้ออกแบบ และจากการสอบถามกรมโยธาฯ ชี้แจงว่า สตง. ขอให้เร่งออกแบบภายใน 180 วัน ทางกรมไม่สามารถดำเนินการได้ทัน
จึงต้องไป จ้างบริษัทเอกชนออกแบบซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกแต่จากการตรวจสอบพบว่าผู้ออกแบบมีอายุ 80 ปี ซึ่งทั้งหมดจะต้องได้รับการตรวจสอบ
ด้านนายสมเกียรติ กล่าวว่า วันนี้ย้ำอยู่เพียง 2 เรื่องคือ ตนไม่ใช่ผู้ควบคุมงาน ไม่เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้าง สตง. และถูกปลอมลายเซ็น
ตนได้แจ้งความกับสน.วังทองหลางไว้แล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ปลอมลายเซ็น ส่วนจะมีการฟ้องร้องทางแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายหรือไม่นั้นต้องขอปรึกษาก่อน เพราะการจะทำอะไรต้องทำอย่างรอบคอบ
ยืนยันว่า ไม่รู้นายปฏิวัติ ศิริไทย กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันกับกิจการร่วมค้า PKW แต่ไม่ขอตอบว่ารู้จักใครในบริษัทนี้หรือไม่
ส่วนกรณีที่ใครทฝเดินทางมาชวนไปทำงานด้วยเมื่อปี 2563 นายสมเกียรติ ตอบเพียงว่าเป็นคนที่รู้จักกันมานานแล้ว เพราะแค่ต้องการยืนยันว่าเอกสารใบผู้ควบคุมงานที่ปรากฏตามข่าวเป็นของปลอม
ตนไม่ได้ทำงานควบคุมการก่อสร้างมานานกว่า 20 ปีแล้ว สามารถตรวจสอบจากสภาวิศวกรได้ว่าตนเองเคยไปขออนุญาตควบคุมงานก่อสร้างโครงการนี้หรือไม่
ด้าน ร.ต.อ.สุรวุฒิ เปิดเผยว่า ข้อมูลที่ได้ในวันนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของคดี 3 คนไทย เป็นนอมินีถือครองหุ้นบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 เพราะมีความเชื่อมโยงกันเกี่ยวกับทำงานตั้งแต่การออกแบบจนถึงการก่อสร้าง
การปลอมเอกสารเป็นสาเหตุของเรื่องหลายอย่าง จึงถือเป็นจิ๊กซอว์หนึ่งที่ต่อเชื่อมว่ามีการทำผิดอะไรบ้าง ในการดำเนินคดีจะมีการพูดคุยแลกข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอด
ขณะนี้ยังถึงขั้นต้องไปตรวจสอบย้อนหลังว่ามีเคสปลอมแปลงลายเซ็นของบริษัท PKW หรือไม่เพราะต้องตรวจสอบตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ แต่หากมีข้อมูลก็จะต้องขยายผลอย่างแน่นอน