posttoday

ศักยภาพต้องระเบิดจากภายใน

24 สิงหาคม 2563

การรับมือกับปัญหาเชิงองค์รวม : สิ่งมีชีวิตจะแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ก็ต่อเมื่อเกิดแรงผลักดันจากภายใน กลายเป็นชีวิตใหม่ที่มีแรงขับเคลื่อนเพื่อความอยู่รอด

- โดย ภก.ดร.จันทรชัย ถวิลพิพัฒน์กุล สถาบันอินทรานส์ Hipot การปฏิรูปศักยภาพมนุษย์อย่างบูรณาการ ศาสตร์ชีวิตองค์รวมเพื่อความมั่นคงยั่งยืน

...ศักยภาพคืออะไร?

ในโลกที่ไม่แน่นอน ซับซ้อน คลุมเครือ เปลี่ยนแปลงอย่างเป็นพลวัต องค์กรธุรกิจได้ตระหนักแล้วว่าการอยู่ในสภาพเดิมๆ นั้น ไม่อาจนำไปสู่ความยั่งยืนได้ เราจึงต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงนั้นเพื่อความอยู่รอด ในการปรับตัวนั้น โดยความหมายแล้วคือ การพัฒนาศักยภาพ

และเมื่อพูดถึงศักยภาพ เราลองมาพิจารณาชีวิตผีเสื้อที่มีวิวัฒนาการมากว่า 280 ล้านปี วงจรชีวิตมันมี 4 ระยะ เริ่มด้วยระยะเป็นไข่ 5-7 วัน จากนั้นจะเป็นตัวหนอน 10-14 วัน ช่วงนี้หากนกเห็น มันจะกลายเป็นเหยื่อแน่นอน แต่หากมันรอด มันจะขับใยเหนียวๆ ออกมาห่อหุ้มตัวมันกลายเป็นดักแด้อยู่ประมาณ 7-10 วัน จากนั้นมันจะใช้ขายันเปลือกให้แตกออก แล้วดันตัวมันเองออกมากลายเป็นชีวิตใหม่เรียกว่า ผีเสื้อ ชีวิตใหม่ที่เกิดขึ้นนี้แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง สามารถแสดงศักยภาพ บินหลบหลีกซ่อนเร้นจากศัตรูได้ สามารถบินหาน้ำหวานเพื่อยังชีพและดำรงเผ่าพันธุ์เพื่อความอยู่รอดต่อไป

คราวนี้เราลองมาพิจารณาไข่ไก่ หากเราใช้แรงตอกไข่ลงในชาม แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นเอาไปทอด เราจะได้ไข่เจียว แต่หากว่าไข่ใบนี้ได้รับการผสมจากเชื้อตัวผู้และเรารอซักพักเพื่อให้มันฟักตัว มันจะมีจะงอยปากแหลมๆ แทงทะลุเปลือกไข่ แล้วดันตัวมันเองออกมาเป็นชีวิตใหม่เรียกว่า ลูกเจี๊ยบ ชีวิตใหม่ที่เกิดขึ้นนี้ก็แตกต่างจากเดิม สามารถแสดงศักยภาพของความเป็นไก่อย่างที่มันเป็น สามารถหาอาหารเลี้ยงชีพและดำรงเผ่าพันธุ์เพื่อความอยู่รอดต่อไป

ศักยภาพต้องระเบิดจากภายใน

จากตัวอย่างของผีเสื้อและไก่ซึ่งเป็นตัวแทนของความมีชีวิต จะเห็นได้ว่ามันจะสามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ก็ต่อเมื่อเกิดแรงผลักดันจากภายใน กลายเป็นชีวิตใหม่ที่สามารถแสดงศักยภาพ มีแรงขับเคลื่อนชีวิตด้วยตัวของมันเองเพื่อความอยู่รอด

มนุษย์เราก็เช่นกัน หากมีแรงจากภายนอกมากระทบ เราจะรู้สึกเหมือนว่าเราโดนกระทำ เหมือนมีคนมาสั่ง มาคอยกำกับ มาคอยชี้นำ เราจะรู้สึกว่าเป็นแรงกดดัน ขาดความเป็นอิสระ ทำให้รู้สึกเครียด เราจะไม่มีความสุข ศักยภาพที่แสดงออกมาก็จะไม่เต็มที่ ต่างกับภาวะที่เราทำงานโดยมีแรงบันดาลใจจากภายใน เราจะมีความรับผิดชอบอย่างมุ่งมั่น เราจะลงมือทำอย่างจริงจัง ไม่ย่อท้อ เราจะยืนหยัด อดทน จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย ภาวะนั้น เราสามารถปลดปล่อยศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่

ศักยภาพดังกล่าวจะเป็นแรงขับเคลื่อนชีวิตด้วยตัวของมันเองเพื่อความอยู่รอดศักยภาพจากภายในนี้เท่านั้นที่จะสร้างการเติบโตสู่ความเข้มแข็งดังนั้นเมื่อพูดถึงศักยภาพที่จะนำชีวิตไปสู่ความมั่นคงยั่งยืนแล้ว

ศักยภาพนั้นต้องระเบิดจากภายใน

หากแรงขับนั้นมาจากภายใน นั่นแสดงว่าเราสามารถกำกับควบคุมมันได้ หากเรากำหนดมันได้ นั่นแสดงว่าเราสามารถนำตนเองได้ หากเรานำตนเองได้ เราจึงสามารถเล่นเชิงรุกได้ และหากเราสามารถจัดการตนเองได้ ปัญหาใดๆ ก็เรื่องเล็ก ดังนั้น การพัฒนาศักยภาพในการนำตนเองเชิงรุกเพื่อมุ่งสู่ความเข้มแข็ง มั่นคงยั่งยืนจึงต้องระเบิดจากภายใน

แล้วอะไรคือแหล่งที่มาของศักยภาพภายใน

เราพบว่ามันมาจากกรอบความคิดอันเป็นฐานรากของชีวิต เพราะ

  1. กรอบความคิดช่วยให้เราเห็นภาพเป้าหมาย ภาพแห่งความสำเร็จดังกล่าวจะสร้างทัศนคติเชิงบวก แรงบันดาลใจ เพื่อมาเสริมทักษะด้านการจัดการให้เป็นจริง
  2. กรอบความคิดช่วยให้เรามองเห็นภาพองค์รวม เกิดแนวคิดเชิงระบบ นำไปสู่การแก้ปัญหาเชิงซับซ้อน และพัฒนาความคิดสร้างสรรค์เพื่อนำไปสู่นวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างองค์กรให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้
  3. กรอบความคิดช่วยให้เราเห็นคุณค่าตนเอง เกิดความเชื่อมั่น ยืนหยัด อดทน มุ่งมั่น มีความมั่นคงทางอารมณ์ ภายในเข้มแข็ง หนักแน่น มีภูมิต้านทาน บุคคลจึงสามารถขับศักยภาพภายในให้ออกมาเสริมทักษะด้านการจัดการได้อย่างเต็มที่
  4. กรอบความคิดช่วยให้เราเห็นคุณค่าในความแตกต่าง ไม่เอาตนเองเป็นศูนย์กลาง เราจึงเปิดใจกว้างรับฟัง เกิดความเข้าใจกัน เชื่อมั่น และไว้วางใจกัน เกิดศรัทธา นำไปสู่การสร้างทีมงานให้ขับศักยภาพออกมาเสริมกันได้อย่างมีพลังร่วมอย่างเป็นหนึ่งเดียว
  5. กรอบความคิดช่วยให้เห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์ เกิดความเข้าใจและยอมรับซึ่งกันและกัน นำไปสู่ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในองค์กร และสร้างทีมงานให้สอดคล้องไปในแนวเดียวกันอย่างมีเอกภาพ

กรอบความคิดจึงเป็นต้นทุนชีวิตที่แท้จริง หากปราศจากกรอบความคิดอันเป็นฐานรากของชีวิตแล้ว ทักษะการบริหารจัดการใดๆ ก็ไม่มีความหมายอะไร เพราะลำพังความสามารถด้านเทคนิคไม่สามารถขับเคลื่อนให้เกิดเป็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมได้

ท่านคิดว่าศักยภาพที่แท้จริงคืออะไร

อะไรคือแหล่งที่มาของศักยภาพของมนุษย์ มันอยู่ในรูปของอะไร อะไรทำให้คนเราแตกต่าง

ศักยภาพต้องระเบิดจากภายใน

ศักยภาพต้องระเบิดจากภายใน

จากความเข้าใจข้างต้น แล้วท่านจะนำความเข้าใจดังกล่าวไปกำหนดเป็นยุทธศาสตร์ เพื่อพัฒนาศักยภาพทีมงานและปลดปล่อยศักยภาพนั้นออกมาอย่างเต็มที่และไปในแนวเดียวกัน เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อสร้างองค์กรให้สมดุล เข้มแข็ง มั่นคงยั่งยืนได้อย่างไร