6 สัญญาณความร่วงโรยของผิว
อัพเดทเทรนด์ “Confidence to be…” ความงามที่ยังคงความเป็นตัวเอง พร้อมสำรวจ 6 สัญญาณความร่วงโรยของผิว เพื่อพร้อมรับมือกับทุกปัญหา โดยแพทย์หญิงอัจจิมา สุวรรณจินดา
“คำว่าแก่… พูดเบาๆ ก็เจ็บ” งานนี้ แพทย์หญิงอัจจิมา สุวรรณจินดา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผ่าตัดผิวหนัง มะเร็งผิวหนัง และเลเซอร์ผิวหนังเพื่อเติมความมั่นใจ พร้อมเผยวิธีการทำให้เหล่าหนุ่มสาวได้ตกหลุมรัก(ษ์) ผิวหน้าและตัวเองซ้ำๆ แบบไม่ต้องใช้กระจกวิเศษที่ไหนมาช่วยยืนยัน
สำหรับปี 2021 หลายคนคงเริ่มได้ยินกันบ้างเกี่ยวกับเทรนด์ “Confidence to be…” ความงามที่ยังคงความเป็นตัวเอง ซึ่งก่อนจะไปลงลึกเรื่องนี้ เรามาพูดถึงปัญหาที่คนส่วนใหญ่หนักใจกันก่อน นั่นคือปัญหาผิวร่วงโรย ผิวแก่ตามวัย (ที่บางทีก็มาก่อนวัยอันควร) ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น มลพิษ ความเครียด พฤติกรรมการกิน-ดื่ม-สูบ รวมไปถึงปัจจัยภายในอย่าง โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) หรือ ‘ฮอร์โมนแห่งความหนุ่มสาว’ ที่ค่อยๆ ลดลง เมื่อชีวิตก้าวเข้าสู่วัย 25 อัพ ที่ล้วนแต่ส่งผลให้เกิด 6 สัญญาณความร่วงโรยของผิวที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง
ลองมองตัวเองในกระจกแล้วเช็กดูซิว่าเราเข้าใกล้ “ความแก่” กันแล้วหรือยัง
- ริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาหรือรอยตีนกา เกิดจากการแสดงออกทางทางสีหน้า หรือการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาซ้ำๆ
- ร่องลึกใต้ตาลึกและคล้ำเกิดได้จากโครงสร้างหน้าลักษณะพันธุกรรมที่มีมาแต่กำเนิดไปจนถึงความเครียดและการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
- ผิวหน้าหย่อนคล้อยผลพวงจากการที่มวลกระดูกที่ลดน้อยลงทำให้จากเดิมที่โครงสร้างและกรอบของใบหน้าที่เคยดูเป็นทรวดทรงเริ่มมองเห็นได้ไม่ชัดและเกิดเป็นปัญหาร่องแก้มตามมา
- ผิวหน้าแห้งกร้านไม่สดใสจากแสงแดดที่ทำร้ายมลภาวะต่างๆและการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนภายในร่างกายรวมถึงวัยใกล้หมดประจำเดือน
- มุมปากตกหน้าบึ้งอีกผลพวงเมื่อมวลกระดูกลดลงตามอายุที่มากขึ้นส่งผลให้โครงหน้าเริ่มเปลี่ยน
- ริมฝีปากไม่อวบอิ่มและเล็กลง
ใครไม่แคร์ “Self-Care” ดูแลและรัก(ษ์)ตัวเอง จากภายในสู่ภายนอก
แพทย์หญิงอัจจิมา ผู้ซึ่งเชื่อในพลังของการรักตัวเอง และกฎแห่งความสมดุลของร่างกายและจิตใจ ได้พูดถึงแนวทางการดูแลความงามไว้ว่า ถ้าสุขภาพภายในดีก็จะช่วยให้ภายนอกดูดีขึ้นได้ ดังนั้น ใครที่กำลังมีปัญหา อยากให้ลองกลับมาดูแลตัวเองขั้นพื้นฐาน ตามคอนเซ็ปต์ Eat Well-Exercise Well-Live Well ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร หันมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และทำจิตใจให้ผ่องใส แต่ปัจจัยภายในอย่างโกรทฮอร์โมนที่ลดลงเรื่อยๆ ตามวัย รวมถึงอีกหลายปัจจัยแวดล้อมที่ยากเกินควบคุม ก็มีผลให้เกิดความเสื่อมสภาพของผิวหน้า จึงเป็นที่มาของอีกวิธีดูตัวเองสำหรับหนุ่มสาวยุคนี้ ก็คือ Beauty Well ที่นอกจากการดูแลผิวด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอแล้วสำหรับบางปัญหาผิวก็จำเป็นต้องได้รับการดูแลและแก้ไขจากโครงสร้างผิวอย่างล้ำลึก
ทั้งนี้ แพทย์หญิงอัจจิมา ได้กล่าวทิ้งท้ายสำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะเดินเข้าคลินิกความงามว่า สำหรับเรื่องความสวยความงาม ไม่มีอะไรที่เป็น One Size Fits All ทุกคนมีปัญหาผิวที่แตกต่างวิธีแก้ไขจึงแตกต่างกันเราต้องรู้ใจและรู้ตัวเองก่อนว่ามีความกังวลในส่วนใดเพื่อที่จะได้แก้ปัญหาได้ตรงจุดการวิเคราะห์ปัญหาผิวอย่างถูกต้องคือที่มาของความสำเร็จในการรักษาซึ่งในแต่ละกรณีก็จำเป็นต้องใช้วิธีที่หลากหลายและแตกต่างกันไป
นอกจากนี้ ผู้รับบริการก็ควรตรวจสอบข้อมูลของทั้งผลิตภัณฑ์และคลินิกความงามให้ถ่องแท้เสียก่อน ยิ่งสมัยนี้ที่มีการโฆษณาและทำการตลาดเกินจริงกันอย่างครึกโครม ยิ่งต้องระวัง การรับคำปรึกษา จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองจากสถาบันที่เชื่อถือได้จะช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างได้ผล รวมถึงไม่เสี่ยงอันตรายจาก การให้บริการและเครื่องมือที่ไม่ได้มาตรฐานอีกด้วย