posttoday

'ถ่ายเป็นเลือด' สัญญาณความผิดปกติในลำไส้ใหญ่ กระเพาะอาหาร

18 เมษายน 2564

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเตือน "อาการถ่ายเป็นเลือด" สัญญาณบอกความผิดปกติในลำไส้ใหญ่ กระเพาะอาหาร หรือผลต่อเนื่องจากโรคตับ หนึ่งในอาการไม่ควรนิ่งนอนใจ

\'ถ่ายเป็นเลือด\' สัญญาณความผิดปกติในลำไส้ใหญ่ กระเพาะอาหาร

นายแพทย์สมบุญ รุ่งจิรธนานนท์ แพทย์ประจำศูนย์ทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาล นครธน ผู้เชี่ยวชาญด้านทางเดินอาหารและตับ อธิบายถึงอาการถ่ายเป็นเลือดว่า อาการถ่ายอุจจาระเป็นเลือด บ่งบอกถึงโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ตั้งแต่โรคร้ายแรงที่สุดอย่าง มะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือ เนื้องอกในลำไส้ จนถึงโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง โรคกระเปาะหรือถุงในลำไส้ใหญ่อักเสบ ซึ่งพบบ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุที่ผนังลำไส้เปราะบาง โรคริดสีดวงทวาร โรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร รวมถึงผลต่อเนื่องจากโรคตับแข็ง หลายโรคถ้าไม่ได้รับการรักษาทันท่วงทีจะกลายเป็นโรคเรื้อรัง ต้องมีการรักษาต่อเนื่องยาวนานเพราะหากมีอาการกำเริบของโรค สามารถเป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพได้

การสังเกตอาการเบื้องต้น

แนะนำให้สังเกตสีและลักษณะของอุจจาระ ที่สามารถบ่งบอกโรคและระบุตำแหน่งความผิดปกติในลำไส้หรือกระเพาะอาหารได้ อาทิ อุจจาระกับเลือดผสมกันเป็นเนื้อเดียวมีเลือดสดสีแดงปน แสดงว่ามาจากบริเวณลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย อุจจาระปนเลือดสีคล้ำแสดงความผิดปกติลำไส้ใหญ่ส่วนต้น หรือถ่ายเป็นเลือดดำคล้ำเหมือนยางมะตอยแสดงว่ามีเลือดออกในกระเพาะอาหาร เนื่องจากเลือดผสมกรดที่มีในกระเพาะอาหารจึงเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำๆ และถ้าถ่ายแล้วเป็นเลือดแบบมีเลือดสดพุ่งตามมา บ่งบอกเลือดมาจากลำไส้ใหญ่ส่วนล่างบริเวณใกล้ๆทวารหนัก อาจเป็นโรคริดสีดวงทวาร เป็นต้น

\'ถ่ายเป็นเลือด\' สัญญาณความผิดปกติในลำไส้ใหญ่ กระเพาะอาหาร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังได้แนะนำให้ผู้มีอาการถ่ายเป็นเลือด ควรไปพบแพทย์ทันที เมื่อรู้ตัวว่ามีอาการ เพราะในบางเคสอาจเข้าข่ายภาวะฉุกเฉินถึงขั้นช็อกได้ หรือทิ้งไว้อาจทำให้โรคลุกลามรักษายาก

ผู้ป่วยควรสังเกตความรุนแรงของเลือดออกมีเยอะแค่ไหน ตอนที่มีอาการแล้วพบสัญญาณชีพ ที่ผิดปกติ เช่น ถ่ายเป็นเลือดแล้ว มีความดันต่ำลง ชีพจรเต้นเร็วขึ้น มีอาการเหมือนจะหน้ามืด เวียนศีรษะ ลุก-นั่งแล้วจะเป็นลม แสดงว่ามีภาวะเสียเลือดเยอะ เป็นภาวะที่ต้องรีบรักษาโดยเร่งด่วน และต้องมารักษาที่โรงพยาบาล แต่ถ้าถ่ายเป็นเลือด แล้ว สัญญาณชีพปกติ สามารถตรวจภายหลัง 1-2 วันหลังเกิดอาการ แต่ไม่ควรทิ้งไว้นานเกิน เพราะอาจมีภาวะเสียเลือดเรื้อรังทำให้ร่างกายอ่อนแอลง กระตุ้นการเกิดโรคเลือดจาง และกระตุ้นให้อาการของโรคบางอย่างในตัวลุกลามมากขึ้น โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ จนทำให้ยากต่อการรักษา

ในการตรวจรักษาโรคที่เป็นสาเหตุของอาการถ่ายเป็นเลือด เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร ปัจจุบันทางการแพทย์มีเทคโนโลยีทันสมัยคือ การส่องกล้องทางเดินอาหาร ที่ให้ผลชัดเจน สะดวกรวดเร็ว รู้ผลการตรวจในวันเดียวกัน และสามารถให้การวินิจฉัยและการรักษาได้ในครั้งเดียวกัน มีให้บริการที่ทางศูนย์ทางเดินอาหารและตับ หรือ GI หนึ่งในศูนย์การแพทย์เฉพาะทางของโรงพยาบาลนครธน ได้แก่ การส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนต้นหรือ อีจีดี (Esophagogastroduodenoscopy-EGD ) เพื่อการตรวจวินิจฉัยโรคของหลอดอาหาร กระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น และ การส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนล่างที่เรียกว่า โคโลนอสโคปี (Colonoscopy) เพื่อการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคลำไส้ใหญ่

\'ถ่ายเป็นเลือด\' สัญญาณความผิดปกติในลำไส้ใหญ่ กระเพาะอาหาร

นายแพทย์สมบุญ อธิบายการตรวจรักษาด้วยการส่องกล้องว่า “สามารถตรวจรักษาได้ในคราวเดียว คือ ถ้าส่องกล้องแล้วเจอแผลมีจุดเลือดออกในกระเพาะอาหาร เราก็จะสามารถใช้อุปกรณ์เข้าไปทำการรักษาเพื่อหยุดเลือดหรือฉีดยาเพื่อหยุดเลือด เป็นการรักษาตอนนั้นได้เลย หรือถ้าส่องกล้องลำไส้ใหญ่แล้วพบติ่งเนื้อเราก็สามารถตัดติ่งเนื้อออกมาตรวจได้เลย การส่องกล้องทางเดินอาหารนี้เป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดและทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน”

“ที่ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ รพ.นครธน เรามีทีมแพทย์สหสาขาวิชาชีพ โดยเฉพาะ วิสัญญีแพทย์ ประจำศูนย์ฯ ที่จะให้ยานอนหลับคนไข้ระหว่างการตรวจส่องกล้อง เพราะการตรวจลำไส้ใหญ่และกระเพาะอาหาร ถ้าคนไข้ยังรู้สึกตัวอยู่อาจจะรู้สึกไม่สุขสบาย ในบางโรคที่ซับซ้อนขึ้น อย่าง โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ถ้าตรวจส่องกล้องไปเจอมะเร็ง ก็ต้องประเมินระยะของโรค บางรายต้องผ่าตัด และใช้เคมีบำบัด ต้องรักษาร่วมกับแพทย์สาขาอื่นๆ อย่างเช่น รังสีแพทย์ ศัลยแพทย์ และอายุรแพทย์ด้านมะเร็งวิทยา มาร่วมดูแล เพื่อการรักษาโรคได้ครบถ้วนที่สุด”  นพ.สมบุญ แพทย์ประจำศูนย์ฯ กล่าว

บริการของศูนย์ทางเดินอาหารและตับ รพ.นครธน เป็นแบบวันสตอปเซอร์วิส โดยมี ห้องเตรียมลำไส้ 6 ห้อง สำหรับคนไข้ได้พัก เพื่อรับประทานยาเตรียมลำไส้ และมีห้องน้ำในตัวเพื่อให้คนไข้ถ่ายอุจจาระออกมา และสามารถนอนพักได้ก่อนเข้าตรวจส่องกล้อง มีห้องส่องกล้อง 4 ห้อง และ ห้องพักฟื้น เพื่อให้คนไข้นอนพักผ่อนหลังตรวจเสร็จและรอฟังผลการตรวจได้ภายในวันเดียวกัน ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องนอนค้างในโรงพยาบาล สามารถกลับไปพักผ่อนที่บ้านได้ การมีห้องพักฟื้น ภายในศูนย์ฯ พร้อมพยาบาลวิชาชีพดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากความสะดวกสบาย ที่ผู้ป่วยได้นอนพักผ่อนระหว่างรอฟังผลตรวจแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อน

“หลังส่องกล้องเสร็จ บางคนมีอาการ เช่น ปวดท้อง แน่นท้อง เนื่องจากมีแก๊สในลำไส้ เราก็ช่วยได้รวดเร็วด้วยการให้ยาลดอาการปวด ยาลดลมในลำไส้ พยาบาลวิชาชีพจะคอยดูแลท่านอย่างใกล้ชิด”

ทั้งนี้ นพ.สมบุญ กล่าวย้ำเตือน ผู้มีอาการถ่ายเป็นเลือด บ่งบอกสัญญาณความผิดปกติในลำไส้ใหญ่ กระเพาะอาหาร ควรตรวจรักษาหรือรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ลดขั้นตอนการรักษาและป้องกันความเสี่ยงด้านสุขภาพองค์รวม