ตามไปชม 7 ของที่ระลึกจากงาน APEC Thailand 2022
ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพงานเอเปค เผยแพร่อัตลักษณ์ความเป็นไทย เสริมสร้างคุณค่า ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์โมเดลเศรษฐกิจ BCG และแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ผ่าน 7 ของที่ระลึกจากงานประชุม APEC 2022 สำหรับผู้นำเขตเศรษฐกิจและคู่สมรส
ของขวัญและของที่ระลึกทั้งหมด 7 รายการนี้ นำเสนอเอกลักษณ์ความเป็นไทย บอกเล่าเรื่องราวและคุณค่า ส่งเสริมแนวคิดการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และโมเดลเศรษฐกิจ BCG อันสอดคล้องกับแนวคิดหลักของการประชุม Opem. Connect. Balancce. เปิดกว้าง สร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันสู่สมดุล เพื่อให้ผู้นำทุกเขตเศรษฐกิจประทับใจในการเตรียมการต้อนรับของไทย ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่มีการจัดทำขึ้นสำหรับวาระนี้โดยเฉพาะ และผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการคัดสรรมาอย่างดี
ผลิตภัณฑ์ที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับผู้นำและคู่สมรส 3 รายการ
1. ภาพดุนโลหะ “รัชตะแสนตอก” (สำหรับผู้นำ) ภาพพระบรมมหาราชวังและกระบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคจากมุมมองของผู้นำที่จะได้ชมจากหอประชุมกองทัพเรือในค่ำคืนของงานเลี้ยงรับรอง ใช้เทคนิคดุนลายหรือตอกเงิน มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติที่สืบทอดมากว่า 700 ปี บนแผ่นโลหะรีไซเคิล พื้นหลังแสดงลายนูนต่ำ ลวดลาย ‘ชะลอม’ ที่พัฒนาขึ้นจากตราสัญลักษณ์การประชุมเอเปค โดยผูกร้อยขึ้นสี่มุมให้เป็นรูปทรงลายประจำยาม หนึ่งในลายไทย ส่วนกรอบรูปดุนลายขึ้นเป็นลายพื้นเมืองล้านนา ซึ่งทั้งภาพและกรอบนี้ใช้วัสดุโลหะรีไซเคิลสีเงิน (รัชตะ) โดยผ่านการดุนหรือตอกนับแสนครั้ง จึงเป็นที่มาของชื่อภาพ ‘รัชตะแสนตอก’ ผลิตจากชุมชนคุณธรรมฯ วัดศรีสุพรรณ (วัวลาย) จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเทคนิคการดุนโลหะของชุมชนนี้ ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น
2. กล่องเครื่องประดับดุนโลหะ “รัชตะหมื่นตอก” (สำหรับคู่สมรส) ใช้เทคนิคดุนลายบนแผ่นโลหะรีไซเคิลสีเงิน (รัชตะ) ตรงกลางกล่องแสดงลายตอกนูนต่ำตราสัญลักษณ์การเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย “ชะลอม” โดดเด่นบนพื้นรูปชะลอมที่เรียงร้อยเข้าทั้งสี่มุมเป็นลายประจายาม กล่องรัชตะหมื่นตอกได้รับการดุนลายด้วยการตอกนับหมื่นครั้งต่อหนึ่งชิ้นงาน ด้านในของกล่องบุด้วยผ้าไหมสีแดงชาด ผลิตจากชุมชนคุณธรรมวัดศรีสุพรรณ (วัวลาย) จังหวัดเชียงใหม่
3. ชุดผลิตภัณฑ์ผ้า “จตุราภรณ์” ผ้าไหมทอมือย้อมสีธรรมชาติด้วยสีจากเปลือกมะพร้าว อันเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นจาก อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา พิมพ์ลาย “ชะลอม” ร้อยเรียงขึ้นเป็นลายไทยประจำยาม จตุราภรณ์ หรือ อาภรณ์ ทั้งสี่ชิ้นเชื่อมผ้าไหมและวัฒนธรรมไทย ประกอบด้วย เนกไท ผ้าคลุมไหล่ ผ้าเช็ดหน้า และหน้ากากผ้า นอกจากนี้ ยังได้นำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาต่อยอดกับความร่วมสมัยในการทำผ้าคลุมไหล่ โดยนำเทคนิคการทอเส้นใยจากโลหะรีไซเคิลหลากหลายประเภทมาใช้ตกแต่งด้านปลายของผ้าคลุมไหล่ทั้ง 2 ข้าง พร้อมประดับลูกปัดจากวัสดุธรรมชาติ อาทิ ลูกปะเกือม สอดคล้องลงตัวกับสัมผัสเส้นใยของผ้าไหมทอมือย้อมสีธรรมชาติ ที่นำลวดลายตราสัญลักษณ์ชะลอมมาจัดเรียงเป็นลายไทยรูปทรงตราประจำยาม โดยใช้เทคนิคการแกะและปั๊มลายที่ละเอียดอ่อนและมีความซับซ้อนเพื่อให้ตราสัญลักษณ์มีความโดดเด่นบนผืนผ้า นอกจากนี้ตรงชายยังได้มีการนำเศษผ้าจากเปลือกไหมย้อมสีธรรมชาติซึ่งมีผิวสัมผัสที่มีเอกลักษณ์ เป็นการนำสิ่งที่มีอยู่ในชุมชนมาใช้อย่างคุ้มค่าตามแนวคิดลดขยะให้เป็นศูนย์ (Zero Waste) และส่งเสริมชุมชนให้มีความเข้มแข็ง
ซึ่งของที่ระลึกทั้ง 3 รายการ นอกจากตัวผลิตภัณฑ์จะมีที่มาจากแนวคิด BCG แล้ว ตัวบรรจุภัณฑ์ก็ผ่านการออกแบบให้สอดคล้องกัน โดยผลิตจากไม้ยางพาราอบฆ่าเชื้อตามมาตรฐานการส่งออก ประดับโลหะสีเงินฉลุลายตราสัญลักษณ์ APEC 2022 ที่มีความละเอียดอ่อนสวยงาม
ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการคัดสรรจากสถาบันสิริกิติ์ 2 รายการ
นอกจากของที่ระลึกที่สอดคล้องกับแนวคิดหลักของการประชุมทั้ง 3 รายการข้างต้นแล้ว รัฐบาลยังจัดเตรียมของของที่ระลึกอันทรงคุณค่าจากศิลปหัตถกรรมชั้นสูงจากสถาบันสิริกิติ์ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการคัดสรรมามอบให้ผู้นำและคู่สมรส มี 2 รายการคือ
1. กรอบรูปถมเงิน พร้อมภาพพระราชทานของผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ในระหว่างการเข้าเฝ้าฯ เป็นงานฝีมือถมเงิน ซึ่งเป็นงานศิลปหัตกรรมชั้นสูง ที่น่าภาคภูมิใจในภูมิปัญญาของคนไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเห็นคุณค่าของเครื่องถมไทยที่นับวันจะสูญหายไป จึงโปรดให้ช่างสถาบันสิริกิติ์ที่ทรงคัดเลือกจากครอบครัวที่ยากจนไม่มีที่ทำกินจากทั่วทุกภาคของประเทศ ให้มาฝึกเรียนวิธีทาเครื่องถมตามแบบโบราณ ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้ครอบครัวแล้ว ยังเป็นการอนุรักษ์งานฝีมือขั้นสูงนี้ให้คงอยู่เป็นศิลปะประจาชาติไทยต่อไป โดยเทคนิคการถมเงินนี้มีความละเอียดอ่อนมาก ทั้งการตีแผ่นเงินเพื่อขึ้นรูปให้เป็นรูปทรงตามที่ต้องการ ทั้งการทำลวดลายด้วยการสลักหรือด้วยวิธีเขียนลาย และใช้น้ำกรดกัดผิวเงินรอบลวดลายให้ต่ำลงเพื่อให้ยาถมไหลเติมเต็มไปตามร่องลายนั้น รวมทั้งการตะไบยาถมให้เรียบเนียนเสมอผิวหน้าของเนื้อเงิน ไปจนถึงขั้นตอนการเพิ่มรายละเอียดของลวดลาย จนได้งานฝีมืออันสวยงาม ทรงคุณค่า เหมาะสมที่จะมอบเป็นของที่ระลึกแก่ผู้นำ
2. กล่องลิเภาเลี่ยมขอบเงิน ตกแต่งเงินลงยาสี โดย “ลิเภา” หรือ “ย่านลิเภา” (ตามภาษาท้องถิ่นภาคใต้) เป็นไม้เถาเลื้อยตระกูลเฟิร์นหรือเถาวัลย์ ลาต้นเมื่อแก่จะมีสีเข้มเป็นมันเหนียวทนทาน คนไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาและต้นกรุงรัตนโกสินทร์ จึงนำลำต้นลิเภามาสานเป็นภาชนะ เครื่องใช้พื้นบ้านต่างๆ งานจักสานย่านลิเภาเป็นงานละเอียด ประณีต ที่ต้องใส่ใจ ใช้ความพยายามและความอดทนทุกขั้นตอน ความสวยงามของรูปทรงเกิดจากทักษะการใช้สองมือในการขึ้นรูปจนได้งานศิลปหัตถกรรมที่ประณีตใช้งานได้อย่างดีและคงทน กล่องจักสานย่านลิเภานี้จึงเปรียบเสมือนเป็นสื่อที่แสดงถึงภูมิปัญญาคนไทยที่เพียบพร้อมด้วยศิลปะสวยงามและความตั้งใจ
ผลิตภัณฑ์ที่รัฐบาลพิจารณาเห็นสมควรจัดทำขึ้นในวาระพิเศษครั้งนี้ 2 รายการ
1. สมุดรายนามผู้ผลิตผ้าไหมและผู้ประกอบการทั่วประเทศ ฉบับพิเศษ หรือใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า “Thai Silk for All” จัดทำโดยสำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ด้วยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีพระวิริยอุตสาหะ ในการส่งเสริมเรื่อง “ผ้าไทย” จากสิ่งทอท้องถิ่นที่สูญหายไป ให้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ตลอดจนเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของชาติ สืบสานและต่อยอดมรดกภูมิปัญญาผ้าไทยให้คงอยู่ต่อไป
2. เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค โดยกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังจัดทำขึ้นเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเผยแพร่พระเกียรติคุณให้แผ่ไพศาลไปทั้งในประเทศและนานาประเทศ รวมทั้งเพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสการเป็นเจ้าภาพของประเทศไทย และเผยแพร่ชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้แพร่หลายยิ่งขึ้น โดยเป็นเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิเกิล) ชนิดมูลค่า 20 บาท ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอแลกได้ที่กรมธนารักษ์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งเมื่อคราวที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 2003 (พ.ศ.2546) ก็ได้มีการจัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกในวาระดังกล่าวเช่นกัน