ไทย-จีน เตรียมร่วมหาสาเหตุการตาย “หลินฮุ่ย”

นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งจากแพทย์ พบอาการผิดปกติ จึงประสานงานตามขั้นตอนและ ให้เจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ ดูแลอย่างใกล้ชิด แต่พบว่า อาการไม่ดีขึ้น จนถึงเวลา 01.00 น. ของวันที่ 19 เมษายน 2566 แพนด้าหลินฮุ่ยมีอาการเกร็ง ทีมสัตวแพทย์ได้ทำการรักษาตามคำแนะนำของทางจีน ผ่าน วีดีโอคอล วีแชท จนสุดความสามารถ 

ในเวลา 01.10 น. หมีแพนด้าหลินฮุ่ย จากไปอย่างสงบ ซึ่งหลังจากนี้ต้องรอทางการจีนมาดำเนินการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง โดยต้องมีการทำงานร่วมกันระหว่างทางการจีนและไทย เพื่อหาสาเหตุในการเสียชีวิตที่แท้จริง อีกครั้ง

ด้านสัตวแพทย์หญิง กรรณิการ์ จันทรังษี หัวหน้างานวางแผนและจัดสรรงบประมาณ สวนสัตว์เชียงใหม่ ทีมดูแลแพนด้าหลินฮุ่ย กล่าวว่า อาการเลือดออกจมูก ถือว่าเป็นอาการที่เกิดขึ้น ทำให้ทีมแพทย์รู้ว่า หลินฮุ่ยป่วย เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีอาการบ่งชี้ เพราะตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกวัน เพราะหลินฮุ่ยอายุมากแล้ว 

ส่วน นายเดชบุญ มาประเสริฐ ประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยเผยว่า หลังได้รับแจ้งจากสวนสัตว์เชียงใหม่ ถึง อาการของ แพนด้าหลินฮุ่ยที่ป่วยกระทันหัน มีเลือดซึมออกทางจมูก จึงรายงานให้กับ รัฐมนตรี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามขั้นตอน และ ย้ำให้ ทางสวนสัตว์เชียงใหม่ประสานงานกับผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องประเทศจีน โดยมีศูนย์อนุรักษ์แพนด้าที่เฉิงตู ได้เข้ามาร่วมรักษาอาการของหลินฮุ่ยทันที ขณะเดียวกันได้ประสานงานกับทางกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประเทศจีนประจำเชียงใหม่ให้รับทราบและในช่วงเดียวกันได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาสังเกตการณ์ในการรักษาหลินฮุ่ย

ข้อมูลจากองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากลระบุว่า อายุขัยเฉลี่ยของแพนด้าในป่าอยู่ระหว่าง 14-20 ปี แต่หากอยู่ในกรงอาจมีชีวิตนานถึง 30 

สำหรับ “หลินฮุ่ย” แม่ของหลินปิงนั้น เป็นชื่อของแพนด้ายักษ์เพศเมียที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ให้ประเทศไทยยืมจัดแสดงที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ในฐานะทูตสันถวไมตรีไทย-จีน เป็นเวลา 20 ปี โดยจัดแสดงคู่กับช่วง ช่วง แพนด้ายักษ์เพศผู้ ตั้งแต่วันที่ 12 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2546