ลุย!! เยาวชนไทยเล็งคว้าชัย ศึกรถแข่งจิ๋วชิงแชมป์โลก
กินรี เรสซิ่ง เดินหน้าประกาศศักดาระดับเวทีโลก ในการแข่งขัน F1 In Schools World Finals ครั้งที่ 18 ณ ประเทศสิงคโปร์ หวังคว้าชัยท่ามกลางผู้เข้าแข่งขันกว่า 68 ทีมทั่วโลก หลังจากปีที่แล้วรั้งอันดับที่ 3
เมื่อปีที่ผ่านมา “กินรี เรสซิ่ง” สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยด้วยการคว้ารางวัลสำคัญคือ “Sustainability Award” รางวัลการใช้พลังอย่างยั่งยืน พร้อมอันดับการทำความเร็วในลำดับที่ 3 ในการแข่งขัน The F1 in School ประเทศอังกฤษ แม้จะแข่งขันเป็นปีแรก ในปีนี้พวกเขาได้รับเลือกเป็นตัวแทนประเทศอีกครั้งและหวังจะคว้าอันดับ 1 มาฝากคนไทย
อะไรคือ The F1 in School?
The F1 in School เป็นการแข่งขันระดับนานาชาติสำหรับเยาวชนอายุ 12-19 ปี โดยเป็นการรวมกลุ่ม 3-6 คน โดยจะเป็นการการพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ของนักเรียนเพื่อนำมาใช้ในการออกแบบและสร้างสรรค์รถแข่งขนาดเล็ก F1 ที่เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สิ่งสำคัญหลักๆในการออกแบบและประดิษฐ์รถแข่ง F1 ก็คือการใช้ความรู้ในการคำนวณพลศาสตร์ของไหลหรือ CFD เพื่อจำลองแรงต้านของอากาศ โดยการแข่งขันมีการจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1999
กินรี เรสซิ่ง เด็กไทยที่นำความเร็วก้าวไกลในระดับโลก
เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา กินรี เรสซิ่ง ตัวแทนเยาวชนไทยในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ (Singapore International School of Bangkok : SISB) และโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี (Shrewsbury International School) ได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทน 1 ใน 2 ของประเทศไทยในการเข้าร่วมการแข่งขัน Formula 1 (F1) in Schools Challenge รอบ World Final ครั้งที่ 17 ร่วมกับทีมเยาวชนนานาชาติ 40 ทีมจาก 26 ประเทศ ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2565 ณ เมืองซิลเวอร์สโตน นอร์แธมป์ตันเชอร์ ประเทศอังกฤษ
กว่าที่เยาวชนทีมนี้จะเข้าแข่งขันได้พวกเขาต้องแสดงศักยภาพในการออกแบบ การผลิตโดยใช้คอมพิวเตอร์ ความรู้ทางด้านการคำนวณพลศาสตร์ของไหล รวมไปถึงความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ อีกทั้งยังต้องทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์เพื่อระดมทุนเป็นค่าใช้จ่ายในกิจกรรมด้วยตัวเองทั้งหมด ในวัยเพียง 12-19 ปี!!
ผลการแข่งขันในปีที่แล้ว จากการผลิตรถ F1 ขนาดเล็กที่โดดเด่นเกินวัยนี้ทำให้ทีม กินรี เรสซิ่ง รั้งอันดับที่ 3 ในหมวดเวลารวมของการแข่งรถและอยู่ในลำดับที่ 9 ในการเข้ารอบคัดเลือกและได้รับเข้ารอบน็อคเอาท์ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งท้ายที่สุดแล้วทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศคะแนนรวมคือทีมไฮดรอน (Hydron) จากประเทศออสเตรเลีย
ด้านผู้จัดการทีม จิรัชย์ พัวพงษ์พันธ์ หรือ จิจิ ได้พูดถึงประสบการณ์การแข่งขันครั้งนั้นว่า
"การได้เห็นความคิดสร้างสรรค์และพรสวรรค์จากทีมเยาวชนจากต่างประเทศก็ทำให้เราอยากพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นด้วย"
ส่วน โทนี่ แสงสุพรรณ ดีไซน์ เอนจิเนียร์ของทีมได้กล่าวเสริมว่า
" ได้เรียนรู้นอกเหนือไปจากงานออกแบบและพัฒนารถก็คือการได้เรียนรู้วัฒนธรรมของผู้เข้าแข่งขันทีมอื่น ซึ่งถือเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกัน"
ส่วนในปีนี้มีสมาชิกใหม่เข้าร่วมเสริมทัพความแข็งแกร่งนำโดย จิรนุช ชัยพัฒน์ธนกิจ หรือ จิ๊บ ที่เข้ามาทำหน้าที่ผู้จัดการฝ่ายตลาดและฝ่ายโซเชียลมีเดีย ได้มองถึงการเข้ามาร่วมทีมในครั้งนี้ว่า
“หน้าที่สำคัญของหนูก็คือการติดต่อหาสปอนเซอร์และพาร์ทเนอร์ตามบริษัทต่างๆ ส่วนการดูแลช่องทางในการพีอาร์ผ่านสื่อต่างๆก็ทำให้ผู้คนรู้จักทีมกินรีมากขึ้น”
เป้าหมายปีนี้ คว้าแชมป์!!
หัวหน้าทีมได้แชร์เป้าหมายเพิ่มเติมว่า ปีนี้ทางทีมได้นำบทเรียนจากปีที่แล้วกลับมาพัฒนา โดยเริ่มจากการเรียนรู้ในการแบ่งงานให้ทีมมีความสมดุลที่ดีการผลิตรถที่ความเหมาะสมลงตัวในทุกระบบคือสิ่งสำคัญที่สุดและการได้สมาชิกใหม่เพิ่มเข้ามาก็ทำให้งานออกแบบดีขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยพวกเขาตั้งเป้าจะชนะรางวัล Sustainability Awards อีกครั้ง รวมถึงรางวัล Fastest Car และติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกด้วย
อย่างไรก็ตามพวกเขายังมีเป้าหมายที่มากกว่าการเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ของทีม นั่นคือ การได้พัฒนาศักยภาพของตัวเอง การนำความรู้ทางวิทยาการด้านต่างๆที่ได้จากในห้องเรียนและนอกห้องเรียนไปใช้จริง จนถึงการเอาชนะใจตัวเองให้ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้คือการเรียนรู้ที่จะทำให้พวกเขาเติบโตทางด้านจิตใจมากขึ้น
ร่วมส่งแรงใจเชียร์เยาวชนไทย "กินรี เรสซิ่ง" สร้างชื่อให้ประเทศไทยอีกครั้ง ในการแข่งขัน “F1 in School World Final 2023” ณ ประเทศสิงคโปร์ ในระหว่างวันที่ 8-15 กันยายน 2566 นี้.