'แยกย้ายแต่อยู่ด้วยกัน" สรุปสถานะของ 4 สาว แบล็กพิงก์
สื่อเกาหลีใต้วิเคราะห์ สถานการณ์ของวงเกิร์ล กรุ๊ป แบล็กพิงก์ (BLACKPIK) หลังจาก ลิซ่า จีซู และ เจนนี่ สมาชิก 3 จาก 4 คนในวงไม่ต่อสัญญา จนหุ้นวายจี เอนเตอร์เทนเมนต์ ตกลงต่ำในรอบ 5 เดือน ทำให้ YG ต้องใช้กลยุทธ์ 'แยกย้ายแต่อยู่ด้วยกัน" มาช่วยพยุงสถานการณ์ไว้
ช่วงสัปดาห์ที่ผานมา เรื่องราวของวงเกิร์ล กรุ๊ป ชื่อดังระดับโลกจากเกาหลีใต้อย่าง แบล็กพิงก์ (BLACKPINK ) ถูกพูดถึงหนักมาก เริ่มจากข่าวลือการไม่ต่อสัญญาของ "ลิซ่า" ลาลิษา มโนบาล ปฏิเสธข้อเสนอการต่ออายุสัญญาสองฉบับจากวายจี (YG Entertainment) แม้ได้รับเสนอต่อสัญญาด้วยมูลค่า 50 พันล้านวอนเกาหลีใต้ หรือ 37.6 ล้านดอลลาร์ ก็ตาม
ขณะที่รายงานของสื่อจากเกาหลีใต้อย่าง สปอร์ตโซล รายงานว่านอกจากลิซ่าแล้ว ยังมี จีซู และ เจนนี่ ที่เลือกจะไม่ต่อสัญญาออกไป เหลือเพียงโรเซ่คนเดียวเท่านั้นที่เลือกจะต่อสัญญากับ YG
ส่วนสมาชิกอีก 3 คนอย่าง เจนนี่ จีซู และลิซ่า กำลังหารือในนาทีสุดท้ายด้วยกลยุทธ์ 'แยกย้ายแต่อยู่ด้วยกัน' กรณีนี้คือการย้ายไปยังอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่ YG Entertainment แต่ 6 จาก 12 เดือน สาวๆทั้ง 4 จะยังต้องมาร่วมงานกันอีกในนาม แบล็กพิงก์
ซึ่งคล้ายกับวิธีการทำสัญญาของอึนฮยอก ทงเฮ และคยูฮยอน แห่งวง ซุเปอร์ จูเนียร์ส (Super Junior) ที่สัญญากับ SM Entertainment หมดลงก่อนหน้านี้ พวกเขาต่างไปเซ็นสัญญาที่อื่น แต่ยังคงทำงานในฐานะ Super Junior
สปอร์ตโซล ยังอ้างเพิ่มเติมว่า มีความเป็น ไปได้ที่ “จีซู” ไปต่อในการเป็นนักแสดง ส่วน “ลิซ่า” ที่โด่งดังระดับซุเปอร์สตาร์ในตลาดเอเชียใต้ กำลังจะตกลงรับข้อเสนอพิเศษจากค่ายเพลงที่มีการจ่ายเงินเบื้องต้นมาแล้วเป็นประมาณ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 350 ล้านบาท
ซึ่งรายงานของเว็บไซต์สปอร์ตส์ โซล อ้างด้วยซ้ำว่าทั้ง “จีซู” และ “ลิซ่า” ตัดสินใจทำสัญญากับค่ายอื่นในเกาหลีใต้ไปแล้ว ส่วนทิศทางของ “เจนนี่” ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ
สัญญาณแห่งการเปลี่ยนแปลง
เรื่องการเปลี่ยนแปลงของวงแบล็กพิงก์ มีมาช่วงปลายปี 2022 แล้ว เมื่อ ศิลปินเกาหลีจากค่ายยักษ์ใหญ่ "YG Entertainment" อาทิ BIGBANG , I-KON ต่างทยอยอำลาต้นสังกัดเดิม พร้อมกระแสข่าว 4 สาว "เจนนี่ จีซู โรเซ่ ลิซ่า" จาก "Blackpink" อาจจะไม่ต่อสัญญา
ช่วงต้นเดือน ม.ค. 2023 เกิดแฮชแท็ก #LisaLeaveYG ฮือฮาไปทั่วโลก หลังจากที่สื่อต่างประเทศมีรายงานข่าวว่า ค่ายต่างประเทศหลายแห่ง อาทิ ประเทศจีนต่างเสนอราคาเพื่อให้ "ลิซ่า Blackpink" ย้ายจากค่าย YG สำหรับจำนวนเงินที่เป็นกระแสข่าวนั้น สูงถึง 81 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1 แสนล้านวอน ซึ่งถ้าตีเป็นไทยจะอยู่ที่ประมาณ 2.7 พันล้านบาท
จนกระทั่งสัญญาณเริ่มชัดขึ้น กับคอนเสิร์ตเวทีสุดท้าย หรือ “ฟินาเล่ คอนเสิร์ต” ของ Born Pink World Tour ที่เพิ่งผ่านมาเมื่อ วันอาทิตย์ 17 ก.ย.2566 ที่โกเช็กสกายโดม (Gocheok Sky Dome) กลางกรุงโซล เพราะสัญญาของสี่สาว เจนนี่ จีซู โรเซ่ และลิซ่า กับค่ายต้นสังกัดคือ วายจี เอนเตอร์เทนเมนท์ (YG Entertainment) สิ้นสุดอายุสัญญาลงตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2566 เมื่อไม่มีข่าวยืนยันใดๆจากทางค่าย ว่าได้มีการ “ต่อสัญญา” แล้วหรือไม่ ยิ่งชัดเจนในความคลุมเคลือว่าการต่อสัญญามีปัญหา
จนถึงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา พอมีข่าวว่า ลิซ่า จีซู และ เจนนี่ ไม่ต่อสัญญา ส่งให้หุ้นของ YG Entertainment ร่วงลง 13.28%
ทั้งสี่สาว BLACKPINK นั้น แต่ละคนโด่งดังระดับโลก เป็นพรีเซนเตอร์ และเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ของสินค้าแฟชั่น จิวเวลรี่หรู และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย เส้นทางจากนี้ของพวกเธอเติบโตไม่ต้องใช้ใบเบิกทางของต้นสังกัดอย่าง วายจีฯ ในการผลักดันอีกต่อไป
ส่วนวายจีฯก็จะเสียศิลปินที่สร้างรายได้อย่างมหาศาลของพวกเขาตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ 4 สาวแบล็กพิงก์เซ็นสัญญาร่วมงานกันมาตั้งแต่ปี 2559
สำหรับ แบล็กพิงก์ เดบิวต์ครั้งแรกเมื่อปี 2559 พวกเธอคือวงอันดับต้นๆ ที่ทำลายสถิติวงเดบิวต์วงแรก ที่ดีที่สุด และมากที่สุดในบรรดาเกิร์ลกรุ๊ป K-pop
รวมถึงการครองอันดับ 1 ยอดคนติดตามทาง YouTube และยอดดูในหมู่ศิลปินทั่วโลก เป็นอันดับ 1 ในผู้ติดตาม Spotify หากนับเฉพาะกลุ่มเกิร์ลกรุ๊ปทั่วโลก เป็นเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีกลุ่มแรกที่ครองอันดับ 1 ใน Billboard 200 ซึ่งเป็นชาร์ตอัลบั้มหลักของ Billboard ของสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้พวกเธอยังเป็น เกิร์ล กรุ๊ปจากเอเชียกลุ่มแรกและเกิร์ลกรุ๊ปเคป๊อปที่พาดหัวข่าวเทศกาล Coachella ในสหรัฐอเมริกา รวมทั้งเป็นกลุ่มเคป๊อปกลุ่มแรกที่พาดหัวข่าวเทศกาลสำคัญในสหราชอาณาจักรที่เทศกาล BST Hyde Park
ทัวร์ 'Born Pink' ดึงดูดผู้ชมได้ 1.8 ล้านคน ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองในบรรดาทัวร์คอนเสิร์ต K-pop ทั่วโลก รองจากทัวร์ 'Love Yourself' ของ BTS ซึ่งดึงดูดผู้ชมได้ 2.05 ล้านคน