posttoday

‘เต้น’ กระแสอินเทรนด์ หรือจิตวิญญาณ

20 มีนาคม 2554

ด้วยท่วงท่าการเต้นที่แข็งแรง แข็งแกร่ง ของนักเต้นเท้าไฟ เด็กหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งที่มีหัวใจรักการเต้นอย่างเต็มเปี่ยม โดยมิได้คำนึงว่าเป็นกระแสฮิตอินเทรนด์ในหมู่วัยรุ่น พวกเขาคือกลุ่มนักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาศิลปะการแสดง เอกนาฏศิลป์สากล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จำนวน 5 คน นำโดยรุ่นพี่ 2 คนที่ใกล้จบ ได้แก่ ดิวเติมพงศ์ นามาบ โบ๊ตสาโรช เจียระวานิช และรุ่นน้อง อาทิ อุ๊รสิกา ไฝขาว มิ้นท์ภัทรกานต์ อมฤตกุล และบั๊มพ์ภัครพล บุศย์ประยูร มารวมตัวกันทำกิจกรรมด้านการเต้น ไม่ใช่เพื่อความเท่ หรือเต้นประกวดล่ารางวัล แต่ทำเสริมความรู้และเสริมทักษะด้านการเต้น มากกว่านั้นได้ไปร่วมออดิชันละครเวที อาทิ กินรีสีรุ้ง ฟ้าจรดทราย โดยพวกเขารวมกลุ่มกันเมื่อ 3 ปีแล้ว

ด้วยท่วงท่าการเต้นที่แข็งแรง แข็งแกร่ง ของนักเต้นเท้าไฟ เด็กหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งที่มีหัวใจรักการเต้นอย่างเต็มเปี่ยม โดยมิได้คำนึงว่าเป็นกระแสฮิตอินเทรนด์ในหมู่วัยรุ่น พวกเขาคือกลุ่มนักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาศิลปะการแสดง เอกนาฏศิลป์สากล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จำนวน 5 คน นำโดยรุ่นพี่ 2 คนที่ใกล้จบ ได้แก่ ดิวเติมพงศ์ นามาบ โบ๊ตสาโรช เจียระวานิช และรุ่นน้อง อาทิ อุ๊รสิกา ไฝขาว มิ้นท์ภัทรกานต์ อมฤตกุล และบั๊มพ์ภัครพล บุศย์ประยูร มารวมตัวกันทำกิจกรรมด้านการเต้น ไม่ใช่เพื่อความเท่ หรือเต้นประกวดล่ารางวัล แต่ทำเสริมความรู้และเสริมทักษะด้านการเต้น มากกว่านั้นได้ไปร่วมออดิชันละครเวที อาทิ กินรีสีรุ้ง ฟ้าจรดทราย โดยพวกเขารวมกลุ่มกันเมื่อ 3 ปีแล้ว

โดย...มีนา

‘เต้น’ กระแสอินเทรนด์ หรือจิตวิญญาณ

ด้วยท่วงท่าการเต้นที่แข็งแรง แข็งแกร่ง ของนักเต้นเท้าไฟ เด็กหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งที่มีหัวใจรักการเต้นอย่างเต็มเปี่ยม โดยมิได้คำนึงว่าเป็นกระแสฮิตอินเทรนด์ในหมู่วัยรุ่น พวกเขาคือกลุ่มนักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาศิลปะการแสดง เอกนาฏศิลป์สากล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จำนวน 5 คน นำโดยรุ่นพี่ 2 คนที่ใกล้จบ ได้แก่ ดิวเติมพงศ์ นามาบ โบ๊ตสาโรช เจียระวานิช และรุ่นน้อง อาทิ อุ๊รสิกา ไฝขาว มิ้นท์ภัทรกานต์ อมฤตกุล และบั๊มพ์ภัครพล บุศย์ประยูร มารวมตัวกันทำกิจกรรมด้านการเต้น ไม่ใช่เพื่อความเท่ หรือเต้นประกวดล่ารางวัล แต่ทำเสริมความรู้และเสริมทักษะด้านการเต้น มากกว่านั้นได้ไปร่วมออดิชันละครเวที อาทิ กินรีสีรุ้ง ฟ้าจรดทราย โดยพวกเขารวมกลุ่มกันเมื่อ 3 ปีแล้ว

“เริ่มแรกการตั้งกลุ่มโดยคุณครูนิวดาริณี ชำนาญหมอ ที่สอนด้านการเต้นให้พวกเรา พอเห็นแววพวกเราก็มาแนะนำให้ไปเต้นออดิชันละครเวที แต่เราจะไม่ประกวดแล้ว เพราะเราอายุมากขึ้น เราเรียนเพื่อไปทำงาน ไม่ได้เต้นเพื่อไปประกวด เพราะการเต้นแข่งขันจะดูการสร้างความสนุกสนานของนักเต้น แต่พวกเราเรียนทำอย่างไรให้ตัวตรง การเต้นเป็นการเรียนศิลปะเพื่อการประยุกต์ ไม่ใช่เพื่อการแข่งขัน หรือแสดงพละกำลัง แต่มันคืองานศิลปะแขนงหนึ่ง” ดิว บอก

ไม่ใช่การเต้นด้วยลีลาและท่วงท่าสวยเพียงอย่างเดียว แต่ข้อดีที่พวกเขาได้จากการเต้น ภัครพล ภัทรกานต์ และรสิกา ช่วยกันเล่าว่า กิจกรรรมเต้นดีตรงได้จัดระเบียบของร่างกายได้ดีมากขึ้น อยู่ในท่านั้นๆ แล้วสวย อีกทั้งยังใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพ ได้ออกกำลังกาย ส่งเสริมด้านสมาธิ ฝึกสมาธิในการทำอะไรก็ตาม และยังเป็นการฝึกสมองในการจดจำท่วงท่าและจำท่า เป็นต้น

“การเป็นนักเต้นที่ดี รูปร่างก็ต้องดูแล รวมทั้งควบคุมการรับประทานและออกกำลังกายเพื่อให้ร่างการเฟิร์มอยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นนักเต้นไม่เข้าคลาสเต้นนานๆ ก็จะเหนื่อยง่าย เต้นไม่มีแรงเหมือนนักกีฬาที่ไม่ได้ฝึกซ้อมนานๆ เพราะการเต้นก็คือหนึ่งของชนิดกีฬา”

ยุคนี้การเต้นเป็นกิจกรรมยอดนิยม ใครๆ ก็เต้นกัน

‘เต้น’ กระแสอินเทรนด์ หรือจิตวิญญาณ

“การเต้นคนจะชื่นชอบสตรีตแดนซ์ เคป๊อป แต่พวกผมถนัดเต้นผสมผสาน คลาสซิเคิล โมเดิร์นแดนซ์ สตรีตบ้าง เพื่อความหลากหลาย และให้ทุกคนค้นหาศักยภาพด้านการเต้นของตัวเอง ซึ่งการเต้นแต่ละแบบก็มีศิลปะที่ต่างกัน อย่างป๊อปปิง หรือบีบอย อย่างพวกผมเต้นบัลเลต์ ความสวยงามมันอยู่ที่การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และมีสไตล์การเต้นที่แน่ชัด” ดิว หัวหน้ากลุ่มเล่า

อย่างไรก็ดี น้องๆ ได้มองอนาคตด้านการเต้นเอาไว้ก็คือ ไม่เป็นครู นักเต้นก็จะไปเรียนต่อด้านการเต้นอย่างจริงจัง เช่น ภัทรกานต์ ได้ทุนไปเรียนเต้นที่ประเทศฟิลิปปินส์ในปีนี้ ส่วนรุ่นพี่ๆ ความใฝ่ฝันของพวกเขาก็คือ อยากไปศึกษาต่อในคณะละครที่มีชื่อเสียงของออสเตรเลีย

“ความฝันอยากชิงทุนไปเรียนที่ออสเตรเลียเพื่อเข้าคณะเต้น คือทุกคนมุ่งมั่นที่จะเป็นนักเต้น หรือเป็นอาจารย์สอนเต้น เพราะปัจจุบันก็เป็นครูสอนเต้นอยู่แล้ว แต่การเป็นครูยาก เพราะครูต้องมีความสามารถด้านการสอน มีทักษะการถ่ายทอดความรู้ได้” ภัทรพล บอก

สุดท้ายดาวรุ่งนักเต้นฝากเกี่ยวกับการเต้นว่า การเต้นจริงๆ ไม่ใช่แฟชั่น แต่เป็นศาสตร์หนึ่งของงานศิลปะ น้องๆ ที่รักการเต้น และอยากเรียนเต้น ต้องถามตัวเองก่อนว่าเราอยากเรียนเต้นไปเพื่ออะไร ใจรัก หรือตามกระแสนิยม หรือตามเพื่อน เราควรหาความชอบและตัวตนของตัวเองให้เจอ

“อย่างพวกผมเต้นเพราะมีใจรักจริงๆ ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการเรียน หรือท่าเต้นที่หนักหนาสาหัส หรือเป็นท่าที่ตลกขนาดไหนเราก็เต้น หรือสวยขนาดไหนก็ทำได้ แต่เด็กรุ่นใหม่จะมองว่าการเต้นคือแฟชั่น คือค่านิยม แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ จริงๆ การเต้นไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นวิชาที่ยาก เพราะไม่มีหนังสือให้อ่านและจำ แต่ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา ใจของเราว่าจะอดทน ฝึกซ้อม และสู้แค่ไหน” ดิว บอก

‘เต้น’ กระแสอินเทรนด์ หรือจิตวิญญาณ