ป๊อปอัพ เรสเทอรองต์ อาหารคาดไม่ถึง!!
ป๊อปอัพ (PopUp) ตามรากศัพท์ภาษาอังกฤษ
ป๊อปอัพ (PopUp) ตามรากศัพท์ภาษาอังกฤษ
หมายถึงสิ่งที่สร้างขึ้นชั่วคราว เพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่ง ครั้นเมื่อมาประกอบกับคำว่า เรสเทอรองต์ (Restaurant) ก็คงจะมีความหมายว่า เป็นร้านอาหารที่สร้างขึ้นชั่วคราว เฉพาะกิจ... แหงๆ ล่ะสิ
ถูกต้องแล้วคร้าบ... และทุกวันนี้สไตล์การเสิร์ฟอาหารแบบ “ป๊อปอัพ เรสเทอรองต์” กำลังเป็นที่ “ฮิต(ส์)” มากๆ อยู่ทั้งฝั่งยุโรปและอเมริกา โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ ที่รักความสนุกสนาน เช่น นิวยอร์ก นั้น นิยมที่จะออกไปลองลิ้มชิมประสบการณ์อันอร่อย บวกความเพลิดเพลินกันมากมายทีเดียว
ที่กรุงเทพฯ ก็เริ่มมีการจัดกับเขาเหมือนกัน เมื่อไม่นานมานี้ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี ร่วมกับ เบ็ญจวรรณ วิสุทธิ์สัตย์ แห่งบริษัท ฟิน ผู้นำเข้าบูติกไวน์ พร้อมเชฟรับเชิญ เชฟดาเนียล บูเชอร์ จากเยอรมนี ที่ถนัดทางด้านโมเดิร์น แกสโตโนมี (Modern Gastronomy) ร่วมกับเชฟเจ้าถิ่นอย่าง เชฟมาร์ติน เฟสต์ ชวนพวกเราไปสัมผัสประสบการณ์แบบ “ป๊อปอัพ เรสเทอรองต์” โดยเรียกว่าเป็นไวน์ดินเนอร์ขั้นกว่า และประสบการณ์รับประทานอย่างสร้างสรรค์ (The Progressive Wine Dinner with Daniel Bucher : A creative Culinary Discovery)
เชฟหนุ่มหล่อจากฮัมบูร์ก เยอรมนี บอกว่า ไวน์ดินเนอร์ครั้งพิเศษนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าความรักในการดื่มกินและความสนุกสนาน โดยเชฟดาเนียลจะสร้างสรรค์เมนูที่ไม่ธรรมดาร่วมกับเชฟมาร์ติน และทีมเชฟของพลาซ่า แอทธินี และจะเสิร์ฟในสถานที่ที่แตกต่าง ทั้งนอกและในโรงแรม!
“สถานที่แตกต่าง” คือ เสิร์ฟในที่ที่คิดไม่ถึง... “ผมพยายามสร้างสรรค์เมนูพิเศษ ที่เต็มไปด้วยไอเดียใหม่ๆ ให้ทุกคนประหลาดใจ ตื่นเต้น และทุกคนก็จะรักประสบการณ์แบบนี้” เชฟหนุ่มเยอรมันว่า
คอร์สแรก The View : “Edible Garden” เชฟจัดโต๊ะกลางสวนดาดฟ้า แบบไม่กลัวสภาพอากาศ อาหารจานที่เสิร์ฟมาในคอนเซปต์ “สวนกินได้” มีผักมากมายหลายหลาก แถมมะกอกผสมถั่วบดแสร้งเป็นดิน แบ่งกันตักกินแบบขำๆ คอร์สนี้เสิร์ฟคู่ไวน์โรเซ Meersburger Bengel Spatburgunder Weissherbst QbA ปี 2008 จากเยอรมนี
ดื่มด่ำบรรยากาศสวนดาดฟ้าและวิวตึกสูงของกรุงเทพฯ ยามค่ำคืนพอหอมปากหอมคอ พวกเราลุกเดินลงบันไดไปห้องตีสควอช ทุกคนพร้อมหรือยังกับการบริจาคเลือด! (Blood Donation) ข้างๆ ร่วมยาเชฟเตรียมซุปร้อนๆ (Consomme) พร้อมเข็มฉีดยาบรรจุเลือดขาว (หัวทูนิป) และเลือดแดง (บีตรูต) ฉีดลงในน้ำซุปก่อนดื่ม
หลังบริจาคเลือด พวกเราคงต้องการพลังงานจากน้ำตาลกันแล้ว เชฟก็เลยเดินเสิร์ฟลูกอม (ไส้กรอกกุ้งในห่อล็อบสเตอร์) แล้วก็ (ขนม) ทูน่า พราลีน
คอร์สนี้เสิร์ฟคู่ไวน์ขาวจากสเปน GABA DO XIL ผลิตจากองุ่นท้องถิ่นพันธุ์ โกเดลโย บัลเดอร์ราส (Godello Valdeorras) ปี 2009
คอร์สที่ 3 รออยู่ข้างเตาในห้องครัว... คล้ายๆ กับเป็น เชฟส์ เทเบิล (Chef’s Table) เชฟดาเนียลและคณะโชว์ฝีมืออาหารจานที่มีควันกรุ่นจากเตา Poached trout lavender oil smoked juniper berries ปลาเทราต์ที่เสิร์ฟโดยมีแก้วครอบไว้ พอจะรับประทานก็เปิดออกแล้วจะมีควันฉุยลอยขึ้นมายั่วน้ำลาย กลิ่นสโมกเข้ากับไวน์ปิโนต์ นัวร์ M Spatburgunder Pinot Noir ปี 2005 จากเยอรมนีเป็นอย่างดี
คราวนี้ไปกินอาหารข้างถนน (วิทยุ) กัน ... เชฟดาเนียลผสมผสานโมเดิร์น แกสโตโนมีเข้ากับวัฒนธรรมไทย สตรีตฟู้ด (Street Food) ของวันนี้ เสิร์ฟริซอตโตลูกเดือยกับเห็ดผัดเนย (Mushroom Risotto) ท็อปปิงด้วยไข่แดงชุบแป้งขนมปังทอด ท่ามกลางบรรยากาศชิลชิล ริมถนนวิทยุหน้าโรงแรมฯ พร้อมไวน์ออสเตรีย FRED Zweigelt ปี 2008
ใกล้อิ่มท้องเข้าไปทุกที แต่ประสบการณ์ “ป๊อปอัพ เรสเทอรองต์” ยังไม่หมด ถึงไฮไลต์ของงานที่เชฟสั่งให้ใส่เสื้อคลุมกันหนาว เพราะกำลังจะพาพวกเราเข้าไปในห้องแช่แข็ง! อุแม่เจ้า... ใครเล่าจะเคยลองไปนั่งหม่ำในห้องเย็น เชฟเสิร์ฟ Warm Chocolate Caramel 2 รูปแบบ คือร้อนข้างนอกเย็นข้างใน (ปรุงที่ 180 องศาเซลเซียส) กับเย็นข้างนอกร้อนข้างใน (ปรุงที่ –186 องศาเซลเซียส) โดยมีไวน์ปิโนต์ นัวร์ M Spatburgunder Pinot Noir ปี 2005 จากเยอรมนีไว้คลายหนาว
ได้เวลาเช็กอินเข้าห้องพัก พนักงานจึงแจกคีย์การ์ด (ทำจากช็อกโกแลต) เชิญทุกคนเข้าห้องรอยัลสวีต พร้อมรับบริการ “รูมเซอร์วิส” เสิร์ฟ Caviar Toast ให้ได้กรี๊ดกร๊าด เพราะเชฟดาเนียลสร้างสรรค์คาเวียร์จากกาแฟออกมาเป็นไข่ปลาเบลูกาได้อย่างแนบเนียน พร้อมตัดรสขมๆ ของคาเวียร์กาแฟด้วยไวน์หวาน MR Mountain Wine ปี 2008 จากสเปน
กำลังนึกในใจว่า ตอนนี้ก็เหลือแต่ห้องน้ำแหละที่ยังไม่ได้ไป เชฟก็ “จัดให้” ในสไตล์ All You Can Eat Amenity – แชมพู สบู่ น้ำหอม ยาสีฟัน ไปจนถึงอุปกรณ์แต่งหน้า ทุกอย่างล้วนกินได้ กลายเป็นไฮไลต์ของไฮไลต์ปิดท้ายค่ำคืนแบบสนุกสนานบานตะไท...
อย่างนี้นี่เองประสบการณ์ “ป๊อปอัพ เรสเทอรองต์”