กิติคุณ สินหิรัญวิวัฒน์ ชีวิตรื่นรมย์ท่ามกลางวิถีสีเขียว
ชายหนุ่มหน้าใสสไตล์เกาหลีวัย 20 ปลายๆ กิติคุณ สินหิรัญวิวัฒน์
ชายหนุ่มหน้าใสสไตล์เกาหลีวัย 20 ปลายๆ กิติคุณ สินหิรัญวิวัฒน์
โดย.. อณุศรา ทองอุไร
เขาเป็นอาจารย์ประจำสำนักวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จากเด็กกรุงเทพฯ แบบเด็กเมืองแท้ๆ หลังจากที่จบปริญญาตรีที่คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2 และได้ทุนจากรัฐบาลจีนไปเรียนต่อระดับปริญญาโททางด้านนิติศาสตร์ ผ่านมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เมื่อเรียนจบเขาจึงต้องมาใช้ทุนสอนที่นี่เป็นเวลาปีกว่าแล้ว โดยสอนทั้งภาคภาษาอังกฤษและภาษาจีน
แต่เมื่อได้มาสอนอยู่ที่คณะนิติศาสตร์อยู่ที่เชียงราย ทำให้เขาพลิกชีวิตหันมาสนใจเรื่องธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าอย่างจัง เพราะภาคเหนืออากาศดี เย็นสบาย ต้นไมเขียวครึ้ม เลยทำให้หายคิดถึงกรุงเทพฯ ไปได้เยอะ เพราะที่นี่มีเวลามากมาย รถไม่ติด ทำให้ได้ออกกำลังกาย อ่านหนังสือได้อย่างจุใจ
อีกทั้งที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเองก็ถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวเป็นอย่างมาก คือพื้นที่ทั้งหมดนับหมื่นไร่ ใช้เป็นส่วนอาคารเรียนและหอพักนักศึกษาเพียงพันกว่าไร่ อีก 2,000 กว่าไร่เป็นพื้นที่สีเขียว และขณะนี้มหาวิทยาลัยยังมีโครงการทำสวนพฤกษษาศาสตร์บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ซึ่งจะแบ่งเป็นหลายโซน เช่น สวนสมุนไพร สวนดอกไม้ สวนผีเสื้อ โซนต้นไม้หายาก
ขณะนี้เริ่มลงกล้าไม้ไปจำนวนนับหมื่นต้นแล้ว ประมาณปีหน้าจะเริ่มเห็นสวนพฤกษาในเฟสแรกเป็นรูปเป็นร่างขึ้น และภายใน 3 ปีนับจากนี้ไปจะเห็นต้นไม้โตขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นโครงการที่ตั้งไว้ระยะยาว 10 ปี
“นโยบายนี้เกิดขึ้นตามปณิธานของสมเด็จย่า ที่ก่อตั้งมหาวิทยาลัยด้วยดำริที่ว่าปลูกป่าสร้างคน คือทำทั้งสองอย่างพร้อมกัน ปลูกป่าด้วย สร้างคนด้วย เพื่อเป็นการส่งเสริมรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมๆ กับการสร้างบุคลากรรุ่นใหม่เพื่อให้สนใจสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ในมหาวิทยาลัยเราใช้น้ำหมักชีวภาพแทนปุ๋ยในการรดน้ำต้นไม้และกำจัดวัชพืชแทนการเผา เพื่อไม่ทำลายดินและสร้างฝุ่นควันมลพิษไม่เกิดไฟป่า”
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังสนับสนุนให้อาจารย์ นักศึกษา และบุคลากรทั่วไป ไปรณรงค์สิ่งแวดล้อมเนื่องในโอกาสต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ ด้วยการไปร่วมกับชุมชนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชนก็ตาม เพราะมหาวิทยาลัยถือเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน
“เป็นธรรมเนียมปฏิบัติเลยว่า การรับน้องใหม่ของทุกปีการศึกษา น้องใหม่ทุกคนทุกคณะจะต้องไปปลูกต้นไม้คนละ 1 ต้น ตามบริเวณต่างๆ ที่แต่ละคณะจัดไว้ให้ รวมทั้งอาจารย์ที่เข้าใหม่ทุกคน ก็จะถูกต้อนรับด้วยการปลูกต้นไม้ไว้ 1 ต้น ในคณะที่เข้าสอน เมื่อต้นไม้โตเราก็จะล้อมไปไว้ในส่วนต่างๆ ของมหาวิทยาลัย”
สำหรับการออกแบบตัวอาคารต่างๆ ของแต่ละคณะ จะเน้นเรื่องการประหยัดพลังงาน โดยให้อาคารแต่ละตึกมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก รับลมธรรมชาติ เพราะเชียงรายอากาศดี ให้ใช้เครื่องปรับอากาศให้น้อยที่สุด โดยใช้พัดลมเป็นตัวช่วยสำหรับหน้าหนาวและหน้าฝน ใช้แสงธรรมชาติให้มากขึ้น โครงสร้างอาคารใช้อิฐมวลเบาช่วยระบายอากาศได้ดี แต่ละตึกจะเปิดแอร์หลังเวลา 10.00 น. ตอนเช้าให้เปิดพัดลมไปก่อน หน้าหนาวปิดแอร์ใช้พัดลมแทน
หอพักนักศึกษารอบนอกตัวอาคาร เช่น ไฟระเบียง ป้ายจราจร น้ำอุ่น จะใช้ไฟจากพลังงานแสงอาทิตย์เป็นหลัง ส่วนสวนสุขภาพมีเครื่องออกกำลังกายที่ผลิตมาจากวัตถุดิบรีไซเคิล เพราะมีห้องยิมเพียงห้องเล็กๆ เนื่องจากอากาศดี ต้นไม้ครึ้ม ทางมหาวิทยาลัยจึงส่งเสริมให้ออกกำลังกายกลางแจ้ง โดยจัดสวนสุขภาพไว้บริการฟรี รถรับส่งในมหาวิทยาลัยใช้รถไฟฟ้าเพื่อลดคาร์บอนไดออกไซด์และควันดำที่อาจเกิดขึ้น
“อยู่ที่นี่มีความสุขมาก ใช้ชีวิตโอเพนแอร์ มีวิถีสีเขียวในการดำรงชีวิต มีความรื่นรมย์และสุขใจจริงๆ”
&<2288;