กัลยาณมิตรธรรม : ภาวะผู้นำของกัลยาณมิตร

13 มิถุนายน 2554

กัลยาณมิตรที่เป็นดั่ง"รุ่งอรุณของชีวิตดีงาม"ตามแนวพุทธพจน์ ควรมีคุณสมบัติที่เรียกว่า"กัลยาณมิตรธรรม"7 ประการ

กัลยาณมิตรที่เป็นดั่ง"รุ่งอรุณของชีวิตดีงาม"ตามแนวพุทธพจน์ ควรมีคุณสมบัติที่เรียกว่า"กัลยาณมิตรธรรม"7 ประการ

เรื่อง...ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย

ตามความหมายโดยทั่วไป กัลยาณมิตร หมายถึง บุคคล หรือสภาพแวดล้อมที่มีส่วนเกื้อกูลให้บุคคลนั้นๆ รู้จักการใช้ปัญญา ใช้ความคิด ใช้วิจารณญาณ อันเป็นเหตุให้มีวิถีชีวิตที่ดีงาม เกิดการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตไปในทิศทางที่ประเสริฐเลิศล้ำ เป็นผู้ทรงธรรมทรงปัญญา แ

ต่อเมื่อว่าตามความหมายในคัมภีร์ ท่านยกตัวอย่างว่า กัลยาณมิตร ย่อมหมายรวมตั้งแต่พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ เป็นต้นลงมาจนถึงคนทั่วไป ที่มีส่วนเกื้อกูลให้แต่ละบุคคลรู้จักการพัฒนาตัวเอง พระพุทธเจ้าของเรานั้น เมื่อตรัสถึงพระองค์เอง บ่อยครั้งก็ทรงระบุถึงสถานภาพของพระองค์ว่า ทรงเป็นเพียง “กัลยาณมิตร” ของมนุษยชาติ เช่น

กัลยาณมิตรธรรม : ภาวะผู้นำของกัลยาณมิตร

“อาศัยเราเป็นกัลยาณมิตร ประดาสัตว์ผู้มีชาติเป็นธรรมดา ย่อมพ้นจากชาติ ผู้มีชราเป็นธรรมดา ย่อมพ้นจากชรา ผู้มีมรณะเป็นธรรมดา ย่อมพ้นจากมรณะ ผู้มีความโศก ความคร่ำครวญหวนไห้ ความทุกข์โทมนัส และความคับแค้นใจเป็นธรรมดา ย่อมพ้นจากความคร่ำครวญหวนไห้ ความทุกข์โทมนัส และความคับแค้นใจ” (สํ.ม.19/5-11/2-5)

เมื่อกล่าวอย่างเคร่งครัด กัลยาณมิตรที่จะถือว่า เป็นดั่ง “รุ่งอรุณของชีวิตดีงาม” หรือเป็น “บุพนิมิตแห่งชีวิตดีงาม” ตามแนวพุทธพจน์ ควรจะมีคุณสมบัติที่เรียกว่า “กัลยาณมิตรธรรม” 7 ประการดังต่อไปนี้

1.น่ารัก เพราะกอปรด้วยเมตตา ชวนให้เข้าไปปรึกษาหารือ สอบถาม เรียนธรรม แสวงปัญญา เหมือนร่มไม้ใหญ่ที่มองเห็นร่มเงาแต่ไกลแล้วอยากเข้าไปอาศัยหลบร้อนให้สบายใจ

2.น่าเคารพ เพราะกอปรด้วยคุณความดี มีศีลาจารวัตรงดงาม วางตนสมควรแก่ฐานะ เชื่อถือได้โดยสนิทใจว่าเป็นคนดีจริง อยู่ใกล้แล้วได้ความอบอุ่น มั่นใจ เหมือนบ้านที่สร้างอย่างมั่นคง แข็งแรง อยู่อาศัยแล้วนอนหลับสนิทด้วยวางใจว่า ปลอดภัยอย่างแน่นอน

3.น่ายกย่อง เพราะกอปรด้วยปัญญา เป็นพหูสูต ทรงภูมิรู้ภูมิธรรม รอบด้าน ลึกซึ้ง กว้างขวางอย่างแท้จริง ควรยึดเป็นแบบอย่าง สร้างแรงบันดาลใจให้อยากเจริญรอยตาม ทั้งยังสามารถเอ่ยอ้างถึงด้วยความสะดวกใจว่า เชี่ยวชาญปราดเปรื่อง มีความเป็นเลิศทางปัญญาและวิชาการ เหมือนแม่ทัพที่เหล่าทหารหารวางใจในฝีมือการบัญชาการรบ ต่างยอมให้นำทัพด้วยความเต็มใจในฝีมือ เพราะรู้ว่าเป็นผู้คุ้มครองป้องกันให้ลุล่วงปลอดภัยได้อย่างแท้จริง

4.มีวาทศิลป์ เพราะกอปรด้วยศิลปะในการพูด รู้ว่าพูดอย่างไรจึงได้ผล พูดอย่างไรจึงจะสอดคล้องกับสถานการณ์และจริตของบุคคล พูดอย่างไรจึงจะทำให้เรื่องที่พูดแจ่มกระจ่างสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้ฟัง รวมทั้งรู้จักว่า เมื่อไหร่ไม่ควรพูดด้วย เหมือนช่างร้อยดอกไม้ รู้จักดอกไม้ว่าดอกชนิดไหน ควรนำไปใช้งานแบบใด สามารถเลือกใช้ดอกไม้ได้อย่างมีศิลปะ รวมทั้งรู้ว่า ดอกไม้ชนิดใดไม่ควรใช้งานก็คัดออกจากกองดอกไม้

5.มีความสามารถในการฟังอย่างลึกซึ้ง เพราะกอปรด้วยความอดทน ใจเย็น เห็นว่าคำพูดของผู้อื่นเป็นสิ่งอันควรน้อมใจรับฟังด้วยความเคารพในสิ่งที่ผู้พูดต้องการจะกล่าว ยินดีฟังทัศนะที่แตกต่างหลากหลายโดยไม่โกรธ ไม่ฉุนเฉียว ไม่หงุดหงิด ไม่เห็นว่าเป็นสิ่งต่ำต้อยด้อยค่า เหมือนพ่อแม่ที่ยินดีฟังคำถามด้วยความสนใจใฝ่รู้ ช่างซัก ช่างถาม ช่างสงสัยของลูกๆ ด้วยความใจเย็น

6.มีความสามารถในการอธิบายขยายความได้อย่างลึกซึ้ง เพราะกอปรด้วยความรอบรู้อย่างสุขุม ลุ่มลึก ทั้งยังมีศิลปะในการอธิบายขยายความเรื่องที่ลึกซึ้งให้เข้าใจง่าย เรื่องที่เป็นนามธรรมให้เป็นรูปธรรม รวมทั้งสามารถเชื่อมโยงเรื่องราวจากเรื่องธรรมดาสามัญขึ้นไปหาเรื่องราวที่ลึกซึ้งยิ่งๆ ขึ้นไปได้อย่างเป็นระบบ โดยไม่ชวนสับสน ไขว้เขว หรือฟั่นเฝือ เหมือนนักกล่าวสุนทรพจน์ชั้นนำ ที่รู้จักการร้อยเรียงเรื่องราวมากล่าวได้อย่างน่าฟังตั้งแต่เรื่องง่ายๆ ไปจนถึงเรื่องที่มีความลึกซึ้งกินใจก่อเกิดความซาบซึ้งใจแก่ผู้ฟังโดยถ้วนหน้า

7.ไม่ชักนำในทางที่ผิด เพราะกอปรด้วยวิจารณญาณและความปรารถนาดี จึงมีแต่ความเมตตาต่อผู้ที่เข้ามาสนิทเสวนา ปรารถนาให้เขาได้รับแต่สิ่งที่ดีงามล้ำเลิศโดยส่วนเดียว เหมือนหมู่ผึ้งภมรที่รู้จักเลือกสรรแต่มวลน้ำหวานจากดวงดอกไม้ที่ไร้พิษ มากลั่นกรองเป็นมธุรสเปี่ยมโอชา

กัลยาณมิตรชั้นนำ ย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติครบทั้ง 7 ประการ แต่สำหรับคนทั่วไป การมีคุณสมบัติของกัลยาณมิตรเพียงข้อเดียว คือ “ไม่ชักนำในทางที่ผิด” ก็นับว่าเป็นกัลยาณมิตรที่ควรสนิทเสวนาได้แล้ว

Thailand Web Stat