posttoday

อุตสาหกรรมอาหารไทย

24 มิถุนายน 2554

เคยไปงาน Thaifex มาบ้าง แต่ก็เว้นไปสัก 2 ปี พอไปอีกทีในครั้งหลังสุดที่อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี

เคยไปงาน Thaifex มาบ้าง แต่ก็เว้นไปสัก 2 ปี พอไปอีกทีในครั้งหลังสุดที่อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี

โดย...สุธน สุขพิศิษฐ์

เคยไปงาน Thaifex มาบ้าง แต่ก็เว้นไปสัก 2 ปี พอไปอีกทีในครั้งหลังสุดที่อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ซึ่งงานเพิ่งจบไปไม่นานนี้เอง ต้องยอมรับว่าต่างจากครั้งก่อนๆ ที่เคยไป ทั้งยิ่งใหญ่และเหลือเชื่อ ความยิ่งใหญ่นั้นคือ บริษัทที่เกี่ยวข้องกับอาหารการกิน ทุกอย่าง แทบทุกบริษัท มาเปิดบูธแสดงสินค้ากันอย่างชนิดเอิกเกริก มโหฬาร แล้วผลิตภัณฑ์อาหารของแต่ละบริษัทนั้นส่วนใหญ่เราคุ้นเคย เคยใช้ เคยกินแล้วทั้งสิ้น และนับวันบริษัทเหล่านั้นก็ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้คนไทยในเมืองใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย ทุ่นเวลาขึ้น อย่างน้ำปลาทิพรส ซึ่งครองตลาดน้ำปลาอยู่แล้ว ยังทำน้ำปลาพริกใส่ขวดมาขาย ทำซอสหอยนางรมผง และซอสปรุงรสผง เพิ่มขึ้นมาอีก

 

อุตสาหกรรมอาหารไทย

ที่สำคัญเป็นเรื่องของการส่งออกต่างประเทศ ซึ่งในส่วนนี้ผมว่าเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อ ว่ารูปร่างหน้าตา การออกแบบผลิตภัณฑ์เดี๋ยวนี้เป็นสากล ทันสมัยเอามากๆ เอาง่ายๆ ว่า ถ้าของเหล่านั้นไปตั้งอยู่บนชั้นวางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตต่างประเทศนั้น จะไม่มีทางรู้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไปจากประเทศไทย ถ้าไม่ดูตรงฉลากบอกแหล่งผลิต มีตัวอย่างหลายอย่าง เช่น น้ำมันรำข้าวยี่ห้อ Rice Brand Oil ซึ่งเป็นของบริษัท คิง นี่เราคุ้นเคยกับน้ำมันรำข้าวคิง แต่พอไปทำยี่ห้อใหม่ส่งออก ไม่บอกไม่รู้เลยว่าเป็นของบริษัทนี้ หรืออีกยี่ห้อชื่อ Ricely นี่ก็เหมือนกันที่ทำส่งออกอย่างเดียว ไม่มีขายในเมืองไทย ไม่ต้องอะไร ไร่กำนันจุล ซึ่งเราคุ้นเคยว่าเป็นไร่ปลูกผัก ผลไม้ จากเพชรบูรณ์ ดูเหมือนธรรมดาๆ นั้นกลายเป็นไร่กำนันจุลอินเตอร์ไปแล้ว ที่ยกตัวอย่างมานี่เป็นเพียง 1 ใน 100 เท่านั้น ยังมีอีกเยอะแยะจำไม่ไหว

 

อุตสาหกรรมอาหารไทย

แต่ก็เสียดายว่า วันที่ผมไปนั้นเลยวันเจรจาค้าขายไปแล้ว ซึ่งเห็นมีบูธแสดงสินค้าจากจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และของฝรั่งบ้าง แต่ก็ปิดบูธไปแล้ว เลยไม่รู้ว่าประเทศเหล่านั้นเอาสินค้าผลิตภัณฑ์อาหารอะไรมาแสดงบ้าง น่าสนใจขนาดไหน

ก็พอดีที่ผมต้องเจอกับคุณวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งคุณวิศิษฎ์นั้นเป็นตัวจริงเสียงจริง ในเรื่องความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมอาหารของไทย ก็เลยได้เรื่องจากคุณวิศิษฎ์ว่า

งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมอาหาร หรือ Thaifex นี้ เราจัดมานานแล้ว แต่นับวันจะใหญ่และกว้างขวางขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในปีนี้มีความเป็นพิเศษตรงที่มีการจับมือกัน 3 ฝ่าย คือ สภาหอการค้าไทย กรมส่งเสริมการส่งออก และบริษัท Koeln Messe จากเยอรมนี ซึ่งบริษัทนี้เป็นบริษัทจัดงานระดับโลก มีฐานลูกค้าอยู่ในมือทั่วโลก บริษัทนี้จะจัดงาน Anuga Food Fair ที่เยอรมนีในทุก 2 ปี ที่ใครๆ ก็อยากไปแสดงในงานทั้งนั้น ไทยเราเอาเขามาจัดงานให้ ทำให้มีบริษัทต่างๆ เกือบทั่วเอเชียมาแสดงสินค้า แล้วยังมีซีกทางตะวันตกมาร่วมแสดงด้วย ตอนนี้ถือว่า งาน Thaifex นี้เป็นงานใหญ่ 1 ใน 3 ของเอเชีย ซึ่งอีก 2 ที่นั้นอยู่ในจีน

 

อุตสาหกรรมอาหารไทย

อุตสาหกรรมอาหารไทยกำลังโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างหนึ่งมาจากความโชคดีของภูมิประเทศไทย ซึ่งค่อนข้างจะมีความได้เปรียบกว่าประเทศอื่นๆ ที่มีภาวะสิ่งแวดล้อมที่อ่อนไหว อย่างจีนกำลังแล้งจัดอยู่ๆ ก็น้ำท่วม หรือประเทศใกล้ๆ บ้านเราก็โดนพายุอยู่เรื่อยๆ จริงอยู่ว่าไทยก็มีบ้างเหมือนกัน อย่างน้ำท่วม แต่ก็เป็นช่วงสั้นๆ และปรับตัวได้เร็ว

อีกอย่างหนึ่งคือ ทั่วโลกกำลังกังวลเรื่องอาหาร และไทยกำลังรุดหน้าที่จะใช้อาหารเป็นอาวุธ แต่เราเองก็จะไม่ทำอะไรอย่างโดดเดี่ยว ต้องมีเพื่อน นั่นก็คือ อาเซียน ที่จะต้องไปด้วยกันก็งานนี้แหละ ในอนาคตที่จะเป็นงานแสดงสินค้าอาหารใหญ่ที่สุดในเอเชีย

ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญคือ เมืองไทยซึ่งเติบโตด้วยอุตสาหกรรมหลายๆ อย่าง คนต่างจังหวัดต่างก็มีเส้นทางมุ่งสู่โรงงานอุตสาหกรรมเกือบหมด ถึงโรงงานต่างๆ จะใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร คนไทยต่างจังหวัดก็มีความสามารถเต็มที่ ไม่มีปัญหา จนอาจจะเรียกว่า แรงงานไทยในภาคอุตสาหกรรมนั้นเริ่มที่จะขาดแคลนแล้ว หลายโรงงาน เช่น โรงงานเย็บเสื้อผ้า ผลิตรองเท้า ต้องย้ายฐานโรงงานไปตั้งตามชายแดน เช่น ตากและระนอง เพื่อใช้แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน

แต่อุตสาหกรรมอาหารนั้นเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องอยู่ตรงแหล่งวัตถุดิบและใช้มือทั้งสิ้น อย่างโรงงานปลากระป๋อง กุ้งแช่แข็ง หรือไก่แช่แข็ง ซึ่งต้องล้างต้องหั่นด้วยมือทั้งสิ้น ยังมีพวกสับปะรดกระป๋องอีก นี่ก็ใช้มือ อุตสาหกรรมอาหารจึงลำบาก จำเป็นมากที่ต้องใช้แรงงานต่างด้าว

นี่เป็นส่วนเดียวที่คุณวิศิษฎ์ยกมา ที่จริงก็ยังมีอีกเยอะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เอกชนเขาเดินไปข้างหน้า เติบโต อย่างเหลือเชื่อ ผมฟังแล้วก็เอามาผูกกับงาน Thaifex ที่ไปเห็นมา ก็เชื่อว่าจะไปอย่างถาวร อาจจะเป็นอันดับต้นๆ ของโลกก็ได้ และตอนนี้แหละจะเป็นเรื่องของบริหารจัดการในภาคราชการแล้ว ก็รู้ๆ อยู่ว่าราชการนั้นพอมีฝีมืออยู่บ้าง แต่ใหญ่แล้วมักจะเป็นกะเหรี่ยงคอยาวที่เป็นนักวิ่งด้วย วิ่งไปชะเง้อคอไปว่าใครจะมาใครจะไป ...อ้าวขึ้นต้นชมงานอาหารไหงมาลงท้ายที่กะเหรี่ยงคอยาวก็ไม่รู้ครับ...