กกต.ส่งคำแจงม.61ให้ศาลรธน.
กกต.เตรียมส่งคำแจงม.61ให้ศาลรธน.วันนี้ พร้อมปล่อยเพลงใหม่รณรงค์ประชามติ
กกต.เตรียมส่งคำแจงม.61ให้ศาลรธน.วันนี้ พร้อมปล่อยเพลงใหม่รณรงค์ประชามติ
วันที่ 14 มิ.ย.นายธนิศร์ ศรีประเทศ ผู้ทรงคุณวุฒิกกต. แถลงผลการประชุมกกต.ถึงการทำคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามาตรา 61 วรรคสอง ของพ.ร.บ. ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ว่า ที่ประชุมมีติส่งคำชี้แจงให้ศาลรัฐธรรมนูญในวันเดียวกันนี้ พร้อมมอบหมายให้นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. และนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.เป็นผู้ชี้แจง หากศาลรัฐธรรมนูญต้องการให้กกต.ชี้แจงด้วยตัวเอง ส่วนเนื้อหาของคำชี้แจงนั้นจะไม่เปิดเผย เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระบวนการยุติธรรม โดยภาพรวมชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลต่างๆ ตามคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมระบุว่า กกต.ยังไม่มีการหารือถึงทางออกหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยอย่างใดอย่างหนึ่ง
นายธนิศร์ กล่าวว่า สำหรับโทษอาญา ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามตินั้น ที่ประชุมมีมติว่าเมื่อมีการแจ้งควมต่อพนักงานสอบสวนแล้ว พนักงานสอบสวนมีอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาที่จะดำเนินการสอบสวนได้ทันที เป็นไปตามระบบกระบวนการที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย ไม่จำเป็นที่จะต้องส่งสำนวนนั้นให้กกต.ให้ความเห็นอีก นอกจากนี้ในวันที่ 21 มิ.ย.ทกกต.จะจัดชี้แจงการออกเสียงประชามติต่อคณะทูตานุทูตทุกประเทศที่ประจำอยู่ในประเทศไทย โดยจะอธิบายและให้สอบถามในข้อสงสัยต่างๆ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในการออกเสียงประชามติครั้งนี้ สำหรับการสังเกตการณ์ขององค์กรสังเกตการณ์นานาชาตินั้น กกต.จะตั้งศูนย์ดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับองค์กรนานาชาติต่างๆ แม้ว่าจะไม่มีนโยบายเชิญองค์กรสังเกตการณ์นานาชาติมาสังเกตการณ์ออกเสียงประชาติในครั้งนี้
นายธนิศร์ ยังระบุด้วยว่า กกต.ได้ดำเนินการเปลี่ยนสถานที่การจัดเวที ร่างรัฐธรรมนูญ ประชามติ และประชาชน ที่ค่ายกาวิละ จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 18 มิ.ย. นี้ เป็นศูนย์ประชุมนานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่แทน เนื่องจากสถานที่ที่ค่ายกาวิละคับแคบไม่เพียงพอต่อการรับรองผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังที่แจ้งความจำนงมาถึง 500 คน โดยมีทั้งนักการเมืองระดับชาติ ระดับท้องถิ่น หน่วยงานราชการ และประชาชน ที่ต้องการเข้าร่วมจำนวนมาก ไม่เกี่ยวกับกรณีที่นายกรัฐมนตรีให้ความเห็นก่อนหน้านี้
นายธนิศร์ ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กกต. ได้พิจารณาเรื่องที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เนื้อหาเพลง “7สิงหา ประชามติร่วมใจ” โดยผู้แต่งเพลงดังกล่าวก็ยืนยันว่าไม่มีเจตนาทำให้เกิดการตีความอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงแต่ต้องการเชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิให้มากที่สุด และที่ผ่านมาก็มีการหารือระหว่าง กกต. ผู้แต่ง และศิลปินแล้ว โดยผู้แต่ได้เสนอว่าจะมีการแต่งเพลงขึ้นมาใหม่ในบางส่วนที่มีถ้อยคำที่สร้างความคลางแคลง สงสัย ทั้งนี้ในเบื้องต้น กกต.ยังไมมีมติเปลี่ยนแปลงเพลงรณรงค์ประชามติใหม่ แต่กกต.จะมีการเผยแพร่ทั้งเนื้อหาเพลงใหม่และเก่า โดยจะเริ่มเผยแพร่วันนี้ เพื่อให้ประชาชนมาร่วมแสดงความคิดเห็นจนถึงวันที่ 17 มิ.ย.นี้ ขณะเดียวกันก็จะมีการเชิญนักวิชาการที่เชี่ยวชาญด้านภาษา และด้านการแต่งเพลง มาหารือถึงเนื้อหาของเพลงด้วย โดยหลังจากนั้น กกต.ก็จะดูว่าประชาชนและนักวิชาการมีความเห็นอย่างไร หากเห็นว่าควรจะเปลี่ยนเราก็จะดำเนินการเปลี่ยน ซึ่ง กกต.อยากให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม เพื่อสร้างบรรยากาศในการทำประชามติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื้อหาเพลงที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ มีการตัดถ้อยคำที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ คือคำว่า “ชักจูงชี้นำ” และ “ชี้ซ้าย ชี้ขวา” ออกไปจากท่อนที่มีคำร้องเป็นภาษาเหนือและภาษาอีสาน นอกจากนั้นยังมีการปรับเนื้อหาในคำร้องที่เป็นภาษาใต้ จากเดิมที่ระบุว่า “"ปักษ์ใต้ คนใต้ แหลงใต้ รักประชาธิปไตย รักความเสรี" มีการปรับเป็น “คนไทย ภาคใด แหลงใด รักประชาธิปไตย รักความเสรี”