เอราวัณปฏิเสธหนุนเสื้อแดง
ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ชี้แจงผลกระทบของการชุมนุมที่แยกราชประสงค์และปฏิเสธความเกี่ยวข้องของ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กับการชุมนุมของกลุ่ม นปช.
ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ชี้แจงผลกระทบของการชุมนุมที่แยกราชประสงค์และปฏิเสธความเกี่ยวข้องของ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กับการชุมนุมของกลุ่ม นปช.
นายประกิต ประทีปะเสน ประธานกรรมการบริษัทดิเอราวัณ กรุ๊ป แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ที่แยกราชประสงค์ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 3 เมษายน 2553 ที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการย่านราชประสงค์ทุกราย ทั้งโรงแรม ห้างสรรพสินค้า สำนักงานร้านค้า ในพื้นที่ดังกล่าว และบริเวณใกล้เคียง บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด ในฐานะผู้ให้บริการธุรกิจโรงแรมในย่านนั้นย่อมได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โรงแรมของบริษัทฯที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์การชุมนุมดังกล่าวมี 2 โรงแรมคือ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ และโรงแรมคอร์ทยาร์ดโดยแมริออท กรุงเทพ และหากสถานการณ์ดังกล่าวยืดเยื้อเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 เดือนจะมีผลกระทบต่อรายได้ของทั้ง 2 โรงแรมรวมกันประมาณ 90 ล้านบาทต่อเดือนซึ่งคิดเป็นร้อยละ 3 ของรายได้จากการประกอบกิจการโรงแรมทั้งหมดของบริษัทในปี 2552 ที่ผ่านมา
นอกจากเหตุการณ์ที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วนั้น ยังปรากฎข่าวลือที่ออกมาจากกลุ่มบุคคลและสื่อต่าง ๆ ในลักษณะที่อาจทำให้เข้าใจได้ว่า โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณซึ่งเป็นโรงแรมของบริษัทในเครือ ได้ให้ที่พักพิง และ/หรือการสนับสนุนอื่นใด แก่แกนนำ นปช. และ/หรือ กลุ่มผู้ชุมนุมที่ย่านราชประสงค์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และก่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนและเสียหายต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯนั้น
บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงโดยมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้
1. นับตั้งแต่มีการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลของกลุ่ม นปช. ที่บริเวณแยกราชประสงค์ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายนจนถึงปัจจุบัน โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ ไม่เคยให้การสนับสนุน และ/หรือให้ที่พักพิงไม่ว่าจะเป็นการชั่วคราวหรือรายวัน แก่แกนนำ นปช. และ/หรือ กลุ่มผู้ชุมนุมที่ย่านราชประสงค์
2. โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ ก่อตั้งในปีพ.ศ. 2530 โดยการร่วมทุนระหว่าง
บริษัทฯ ถือหุ้นรวม 73.6% และบริษัทสหโรงแรมไทยจำกัดซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน ถือหุ้นรวม 26.4% และได้ว่าจ้างบริษัทผู้บริหารโรงแรมชั้นนำนานาชาติคือ Hyatt International เป็นผู้บริหารโรงแรมตามมาตรฐานสากล ภายใต้กฎหมายไทย และพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนของไทย ผ่านการกำกับดูแลโดยคณะผู้บริหารมืออาชีพ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนของผู้ถือหุ้น การตัดสินใจกระทำการใด ๆ เป็นไปโดยอิสระและไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลของผู้หนึ่งผู้ใด หรือหน่วยงานหนึ่งหน่วยงานใด
3. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เป็นบริษัทมหาชนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีโครงสร้างผู้ถือหุ้นดังนี้ ครอบครัวว่องกุศลกิจถือหุ้นรวม 39% ครอบครัววัธนเวคินถือหุ้นรวม 31% และส่วนที่เหลืออีก 30% ถือโดยกองทุนไทยและต่างประเทศ และผู้ถือหุ้นรายย่อย ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ แต่งตั้งคณะกรรมการบริษัทจำนวน 12 คน ประกอบด้วยกรรมการอิสระ 6 คน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 1 คน และกรรมการจากครอบครัวผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 คน ประกอบด้วยครอบครัวว่องกุศลกิจ 3 คน และครอบครัววัธนเวคิน 2 คน (กรรมการจากครอบครัววัธนเวคินคิดเป็น 17% ของจำนวนกรรมการทั้งหมด)
4. นางพนิดา เทพกาญจนา (นามสกุลเดิม วัธนเวคิน) กรรมการของบริษัทฯเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัววัธนเวคิน และคู่สมรส ถือหุ้นในบริษัทฯ รวมกันจำนวน 3,693,416 หุ้นคิดเป็น 0.16% ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันคู่สมรสของคุณพนิดา เทพกาญจนา ไม่เคยดำรงตำแหน่งกรรมการ หรือผู้บริหารของบริษัทฯ และไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องในการบริหารงานไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อมบริษัท ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาล ยึดมั่นในจริยธรรมธุรกิจ คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสีย(Corporate Social Responsibility) ทุกฝ่าย และเป็นสมาชิกที่ดีต่อสังคม และได้รับการยอมรับจากตลาดหลักทรัพย์ และหน่วยงานควบคุมอื่น ๆ ว่าเป็นบริษัทฯ ที่ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักบริษัทภิบาล "ดีเยี่ยม" จึงขอให้ เชื่อมั่นได้ว่า บริษัทฯ มิได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และไม่ได้ให้การสนับสนุนต่อกลุ่มหรือพรรคการเมืองใด ๆ