เจ้าพระยาเริ่มสีแดงคาดเขื่อนเร่งปล่อยน้ำ

เจ้าพระยาน้ำเริ่มมีสีแดงชาวบ้านเชื่อเขื่อนเจ้าพระยาเร่งปล่อยน้ำหวั่นเกิดน้ำท่วมใหญ่ซ้ำปี 54

เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงขึ้นจากเดิมกว่า  2 เมตร และทำให้ระดับน้ำต่ำกว่าระดับตลิ่งเพียง 3 เมตร โดยสีของน้ำในน้ำเจ้าพระยาเป็นน้ำสีออกแดง ซึ่งหมายความว่าเป็นน้ำเหนือที่ไหลหลากมาจากแม่น้ำเจ้าพระยาเพราะการเร่งปล่อยน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาในช่วงหน้าฝน โดยล่าสุดเขื่อนเจ้าพระบาปล่อยน้ำอยู่ที่ 560 ลบ.ม./วินาที และจากข้อมูลจากกรมชลประทานจะมีการเร่งปล่อยเพิ่มขึ้นนับจากนี้เป็นต้นไป

นายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวภายหลังเดินทางไปยังโบราณสถานป้อมเพชร จุดบรรจบของแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักเพื่อตรวจสภาพน้ำเหนือที่เริ่มหลากมาถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้ว ว่า น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาปล่อยมาซึ่งเป็นน้ำทีเริ่มมีสีขุ่นแดง ซึ่งคาดว่าจะเป็นการเร่งพร่องระบายน้ำเหนือเขื่อนเพื่อรองรับประมาณน้ำฝนที่จะตกในภาคเหนือและภาคกลางตอนบนในช่วงฤดูฝนนี้ ซึ่งคงต้องแจ้งเตือนประชาชนผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ว่าจะดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะเพิ่มสูงกว่านี้อีก  ซึ่งจากการประสานงานหน่วยงานกรมชลประทานพบว่านับจากนี้ถึงกลางเดือนกันยายนจะมีการเร่งปล่อยน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาถึง 1,000 ลบ.ม./วินาที แต่จะไม่ล้นตลิ่งท่วมชุมชนและพื้นที่ทางการเกษตรในช่วงนี้ เพราะจุดวิกฤตของพื้นที่นี้อยู่ที่ 1,500 ลบ.ม./วินาที

ขณะนี้ได้กำชับให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด  นายอำเภอทุกแห่ง ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เตรียมแผนเผชิญเหตุและเริ่มซักซ้อมการป้องกันแนวทางแก้ไข การกำหนดจุดรองรับอพยพ แผนการช่วยเหลือด้านที่อยู่ อาหาร น้ำดื่ม ร่วมถึงการเตรียมความพร้อมทำความเข้าใจกรณีบันทึกสำรวจความเสียหายเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นจริงและยุติธรรม  อย่างไรก็ตามเน้นว่าหากน้ำจะท่วมในชุมชนติดแม่น้ำ สิ่งที่ต้องรักษาไว้ให้ได้คือถนนเข้าอำเภอ ตำบล เพราะเป็นเส้นทาหลักในการเดินทางและส่งความช่วยเหลือ รวมถึงการป้องกันเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ที่เป็นศูนย์กลางของจังหวัดทุกด้าน ทั้งการคมนาคม การศึกษา การพาณิชย์ และเป็นที่ตั้งโบราณสถานอันเป็นมรดกโลก ซึ่งแน่ชัดว่าเมื่อปี 54 น้ำท่วมเกาะเมืองทำให้ทุกอย่างในจังหวัดกลายเป็นอัมพาต และในปี 55 นี้น้ำจะต้องไม่ท่วมเกาะเมืองอยุธยา