สสส.ตรวจสุขภาพสส.-สว.พบไขมันพุ่ง

สภาฯจับมือสสส.เช็คสุขภาพสส.-สว.พบมีไขมันสูงเกินมาตรฐานเสี่ยงอ้วนเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบกว่าคนปกติถึง5เท่า

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

วันที่ 5 ก.ย. ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมตรวจสุขภาพบุคลากรรัฐสภา ประจำปี 2555 ภายใต้ชื่องาน “สวัสดิการสังคมดี ด้วยสังคมสุขภาพดี” กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การตรวจสุขภาพเบื้องต้น การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโภชนาการ การให้คำแนะนำและการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับ วัย โดยมีนายเจริญ จรรย์โกมล  รองประธานสภาคนที่ 1 เป็นประธานในพิธี

นายเจริญ กล่าวว่าตนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ สสส.และภาคีเครือข่าย สสส.ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญด้านสุขภาพของบุคลากรที่ปฏิบัติงานในรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็นส.ส.-ส.ว.ข้าราชการและเจ้าหน้าหน้าที่รัฐสภา ตลอดจนสื่อมวลชนที่ต้องปฏิบัติงานอย่างหนักอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการประชุมสภาที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้เกิดอาการเมื่อยล้า พักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้การรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา รวมถึงไม่มีเวลาออกกำลังกาย จึงส่งผลให้เกิดโรคเครียด โรคอ้วน โรคหัวใจ และโรคเบาหวานตามมา  จึงขอบคุณที่ร่วมกันจัดกิจกรรมในครั้งนี้เพราะถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการกระตุ้นเตือนให้บุคลากรตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพร่างกายที่ดี

ขณะที่ นางนันทนา ทิมสุวรรณ ประธานคณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคมสภาฯ กล่าวว่ากมธ.ให้ความสำคัญกับการจัดสวัสดิการสังคมที่ประชาชนต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกด้าน บนสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างเท่าเทียม ที่ผ่านมากมธ.ได้จัดประชุม สัมมนาและลงพื้นที่ศึกษาดูงานด้านการจัดสวัสดิการสังคมเพื่อบูรณาการพลักดันสวัสดิการสังคมทุกด้านให้ได้ รับสิทธิขั้นพื้นฐานและมุ่งหวังใช้บทบาทกมธ.ในการพลักดันกฎหมายด้านสวัสดิการสังคมให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมเพื่อให้ ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน

ด้านทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า  สสส.ร่วมกับภาคีเครือข่ายจัดกิจกรรมตรวจสุขภาพประจำต่อเนื่อง เป็นครั้งที่ 4 โดยจากการสำรวจพฤติกรรมทางสุขภาพของบุคลากรในฝ่ายนิติบัญญัติปีที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ  1,000  คน และเข้ารับการตรวจสุขภาพเบื้องต้น พบกลุ่มที่มีปริมาณไขมันในร่างกายต่ำกว่า 0.8% ขณะที่ไขมันระดับปกติมี  10.6%  กลุ่มที่มีปริมาณไขมันในร่างกายสูง 16 .7% และกลุ่มที่มีปริมาณไขมันในร่างกายสูงมากมีอยู่ถึง 72 % ขณะเดียวกันการวัดค่าดัชนีมวลกายพบว่ามีกลุ่มผอมบาง  7.6% ขณะที่สมส่วน  61.4%  น้ำหนักเกิน  25 % และอยู่ในภาวะโรคอ้วน  6.1% ซึ่งกลุ่มที่อยู่ในภาวะอ้วนลงพุงจะมีความเสียงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบสูงกว่าคนปกติถึง  5 เท่า

“บุคลากรในองค์กรนิติบัญญัติเป็นบุคคลสำคัญใน การกำหนดนโยบายและขับเคลื่อนสุขภาวะของคนไทยทั้งประเทศ   หาก มีสุขภาวะที่ดีก็จะทำให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูง” ทพ.กฤษดากล่าว