ตร.พรึบ!หน้าทำเนียบฯ-สภาฯเตรียมรับม็อบ
ตำรวจทยอยเดินทางเข้าประจำพื้นที่รอบทำเนียบฯ-สภาฯรับม็อบชุมนุม 24 พ.ย.นี้ รองผบ.ตร.เผยจับตามือที่สามป่วน
ตำรวจทยอยเดินทางเข้าประจำพื้นที่รอบทำเนียบฯ-สภาฯรับม็อบชุมนุม 24 พ.ย.นี้ รองผบ.ตร.เผยจับตามือที่สามป่วน
เมื่อวันที่ 22 พ.ย.หลังจากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีคำสั่งให้ระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทั่วประเทศจำนวน 112 กองร้อย หรือราว 15,000นาย ที่จะปฏิบัติการดูแลความปลอดภัยของกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 พ.ย. เดินทางมายังจุดรวมพลใน กทม. ก็ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทยอยเดินทางเข้ามายังพื้นที่โดยรอบที่จะมีการจัดการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าสู่จุดที่พักเช่น สโมสรตำรวจ กองบินตำรวจ ศูนย์ฝึกอบมต่างๆ เพื่อเตรียมเข้าสู่พื้นที่ปฏิบัติการต่อไป โดยมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า 3 จุดได้แก่สนามเสือป่า รัฐสภา และทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้มีรายงานว่าบริเวณทำเนียบรัฐบาลมีจำนวนเจ้าหน้าที่เข้าอารักขาแล้วราว 5,000 นาย ขณะที่บริเวณรัฐสภามีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทั้ง กองบัญชาการตำรวจนครบาล และจาต่างจังหวัด รวมทั้งหน่วยอารักขาควบคุมฝูงชน ได้ทยอยเดินทางเข้ามาเตรียมความพร้อม โดยใช้พื้นที่สวนสัตว์ดุสิต (เขาดิน) ใช้เป็นสถานที่จอดรถ และเป็นที่พักเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งคาดว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 3,000 นาย มาดูแลความเรียบร้อยบริเวณใกล้เคียง ตั้งแต่รัฐสภา สนามเสือป่า พระที่นั่งอนันตสมาคม
ขณะที่ เมื่อเวลา 18.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล ซึ่งกำลังส่วนใหญ่นำมาจาก กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 จ.สุราษฎร์ธานี และภาค 9 จ.สตูล
ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ว่า การเดินตรวจครั้งนี้ ต้องเตรียมความพร้อมเพราะการชุมนุมครั้งนี้ประมาทไม่ได้ และต้องฟังด้านการข่าวไปด้วย ทั้งนี้ การชุมนุมรัฐบาลจะทำการถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ถึงการดูแลการชุมนุมและการเจรจากับผู้ชุมนุม เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการทำงานของทั้งสองฝ่าย และยืนยันว่าจะไม่เดินทางไปจ.เชียงรายหรือต่างประเทศ เพื่อหนีการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม แต่จะอยู่ใกล้พื้นที่แถวนี้
ด้าน พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. ฐานะผู้ดูแลงานฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบการข่าวจากพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังที่จะมีมือที่ 3 เข้ามาก่อเหตุยังคงต้องดูแลอยู่ โดยกรณีตรวจสอบแล้วพบว่าอาจจะมีมือที่ 3 มาก่อความไม่สงบ ถือเป็นมูลเหตุที่ว่าจะต้องป้องกันเหตุ โดยจะต้องเพิ่มให้เจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่ายต้องมาทำงานร่วมกัน และมีอำนาจในการประกาศห้ามในการพกอาวุธ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้เริ่มประกาศใช้แต่อย่างใด ซึ่งแผนกฎหมายปกติ เมื่อใช้กฎหมาย พ.ร.บ.มั่นคงฯ แล้วจะต้องมีการประชุมเพื่อจัดทำแผนใหม่ต่อไป
“สำหรับผู้มาร่วมชุมนุมสันติบาลประเมิน 5 หมื่นคน แต่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมก็ประเมินว่าจะมีผู้มาชุมนุม 2-3 แสนคน ซึ่งเราก็ประมาทไมได้ เพราะครั้งก่อนประเมินว่ามีคนมาชุมนุม 2-3 พันคน แต่มีคนมา 8 พันคน” ผบช.น.กล่าว