ชาวสวนยางภาคเหนือยันไม่ชุมนุม3 กย.

"ชาวสวนยางภาคเหนือ” ย้ำไม่ชุมนุม 3 ก.ย. รอวัดใจรัฐบาล ลั่นหากซื้อเวลา หลัง 13 ก.ย.เจอกดดันแน่ เร่งหารือส่งตัวแทนเจรจาช่วยเกษตรกรไม่มีเอกสารสิทธิ์

นายสาย อิ่นคำ นายทะเบียนสมาคมเครือข่ายเกษตรกร สถาบันเกษตรกรยางพาราไทย กล่าวว่า สำหรับเรื่องการเคลื่อนไหวของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราจังหวัดพะเยาและภาคเหนือ ในวันที่ 3 กันยายน 2556 นี้ ยังไม่มีการเคลื่อนไหว เนื่องจากจะขอรอพิสูจน์คำตอบของรัฐบาลที่จะดำเนินการภายใน 15 วัน คือ ภายในวันที่ 13 กันยายน 2556 นี้ ว่าจะดำเนินการช่วยเหลือเรื่องเงินชดเชยต่อไร่ที่จะช่วยเหลือด้านต้นทุนการผลิตไร่ละ 1,260 บาท รายละ 25 ไร่ จริงหรือไม่ วัดใจระหว่างเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางภาคเหนือกับรัฐบาล ว่าจะมีความจริงใจต่อกันหรือไม่ หากไม่ดำเนินการตามที่ได้ประกาศไว้ หลังวันที่ 13 กันยายน 2556 นี้ พบกันแน่นอนกับม็อบชาวสวนยางภาคเหนือ รับรองว่าแต่ละจังหวัดมีกำลังไม่ต่ำกว่า 1,000 คน พร้อมกระจายกำลังกดดันรัฐบาลในรูปแบบต่าง ๆ

นายทะเบียน สมาคมเครือข่ายเกษตรกร ฯ กล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ตนและคณะกรรมการสมาคม ฯ ได้เร่งหารือกันถึงแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เพราะขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากรัฐบาลว่าจะช่วยเกษตรกรที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์หรือไม่ ดังนั้นจะต้องมีตัวแทนเข้าไปเจรจากับรัฐบาลอีกครั้งในวันที่ 3 กันยายน 2556 นี้ ขอให้มีการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพาราเหมือนกัน ไม่ว่าจะมีเอกสารสิทธิ์หรือไม่ก็ตาม เพราะถือว่าเป็นเกษตรกรเหมือนกัน และจะขอให้ดำเนินการช่วยเหลือไปพร้อม ๆ กันทั้งหมด โดยได้รับการชดเชยช่วยเหลือด้านต้นทุนการผลิตไร่ละ 1,260 บาท จำนวน 25 ไร่ เหมือนกันทุกราย ซึ่งขณะนี้เกษตรกรชาวสวนยางได้ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรแล้ว โดยเกษตรกรายใดที่ตกหล่นยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน เร่งไปขึ้นทะเบียนกับเจ้าหน้าที่เกษตรตำบลโดยเร็ว  เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือในคราวเดียวกัน

ด้านนายสมาน บัวจ้อย เกษตรกรชาวสวนยาง ต.อ่างทอง อ.เชียงคำ จ.พะเยา เปิดเผยว่า เมื่อมาตรการที่รัฐบาลจะช่วยเหลือพวกตนเป็นในลักษณะข้างต้น ก็คงต้องรับเงื่อนไขการช่วยเหลือดังกล่าวไว้ก่อน แต่ใจจริงแล้วอยากให้รัฐบาลดำเนินการประกันราคา หรือซื้อนำตลาดยางพาราแผ่นดิบชั้น 3 ที่ราคาไม่ต่ำกว่า กก.ละ 80 บาท ขึ้นไป เพราะในรายเกษตรกรที่ดูแลทำเองทุกอย่าง เพียงแต่จ้างคนกรีด ราคายางแผ่นดิบที่ กก.ละ 80 บาท จึงพออยู่ได้ แต่หากจะให้คุ้มทุนคือ กก.ละ 92 บาท ขึ้นไป เหมือนที่สมาคม ฯ ได้เรียกร้องไปแล้วนั้น สำหรับราคาในตลาดทั่วไปที่ตนนำยางไปขายให้แก่พ่อค้าคนกลางเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา คือยางก้อนถ้วย กก.ละ 37 บาท และยางแผ่นดิบ กก.ละ 70 บาท เท่านั้น