"ยิ่งลักษณ์"ยัน"ชินวัตร"ไม่ต้องการอำนาจ
ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสื่อต่างประเทศ ย้ำชัดตระกูลชินวัตรต้องการความสงบสันติภาพไม่ใช่อำนาจ
สำนักข่าวรอยเตอร์สเปิดเผยรายงานจากการสัมภาษณ์พิเศษนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ของประเทศไทยซึ่งแสดงความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในขณะนี้ โดยผู้นำไทยย้ำชัดว่า ทั้งทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทยหรือตระกูลชินวัตรไม่ใช่คนกระหายในอำนาจ และไม่ว่าใครต่างก็ต้องการให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย และมีความความสงบ
"ขณะนี้ ดิฉันไม่คิดว่าเขา (ทักษิณ) จะต้องการกลับมาเล่นการเมือง เขาอยากเห็นความเป็นธรรมเกิดขึ้นกับทุกคน เพื่อให้แน่ใจว่าเราสามารถทำงานร่วมกันได้ และหาทางออกในระยะยาวให้กับประเทศไทย" นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์กล่าว
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ยังระบุว่า ครอบครัวของตนเองไม่ได้ต้องการอยู่ในอำนาจเพื่อประโยชน์ของตระกูล ทางเลือกใดๆ ก็ตามสำหรับคนส่วนใหญ่ สำหรับสันติภาพ สำหรับให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าตามแนวทางประชาธิปไตย ล้วนเป็นทางเลือกที่ตนเองยินดีเลือกทั้งสิ้น
"ดิฉันสามารถบอกคุณได้ตอนนี้เลยว่า เราไม่ต้องการเป็นตัวขัดขวางสันติภาพของประเทศแห่งนี้ เราต้องการทางออกสำหรับทุกฝ่าย" ผู้นำไทยกล่าว
รายงานระบุว่าการประท้วงในครั้งนี้เกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากการผลักดันพระราชบัญญัตนิรโทษกรรม ก่อนลุกลามกลายเป็นการโค่นล้มระบอบทักษิณ ซึ่งนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์กล่าวว่า ต้นตอของปัญหาที่ทำให้ประเทศไทยเผชิญหน้าความวุ่นวายในขณะนี้ไม่ใช่พี่ชายสของตนเอง แต่เป็นการรัฐประหารในปี 2549
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ ว่า พรรคหรือฝ่ายใดที่อยู่เบื้องหลังเหตุขัดแย้งโค่นล้มรัฐบาลตนเองในขณะนี้
"ดิฉันไม่ขอแสดงความเห็นต่อบุคคลหนึ่งบุคคลใด แต่ความขัดแย้งครั้งนี้เริ่มต้นมาจากช่วงที่มีการรัฐประหาร และก็ยังไม่มีการแก้ไขใดๆ จนกระทั่งถึงปัจจุบัน" ผู้นำประเทศไทยกล่าว
ต่อขอซักถามเรื่องพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมที่เป็นชนวนเริ่มต้นความวุ่นวายทางการเมืองในขณะนี้ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ยืนกรานว่าจะไม่ผลักดันพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมอีก
"หากเราไม่ทำตามที่เราให้คำมั่นไว้ ประชาชนก็จะไม่ยอมรับเราอีกต่อไป" นายกรัฐมนตรีไทยกล่าว
ทั้งนี้ แม้ว่าเหตุการณ์ทางการเมืองของไทยจะกลับสู่ความสงบชั่วคราว แต่แกนนำฝ่ายประท้วงได้ลั่นวาจาไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะเคลื่อนขบวนเพื่อโค่นล้มรัฐบาลอีกระลอก ถึงแม้นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์จะย้ำว่าฝ่ายรัฐบาลต้องการเจรจาแล้ว กระนั้น ความต้องการของผู้ประท้วงที่ไม่ชัดเจนในเรื่องการก่อตั้งสภาประชาชนทำให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่สามารถตอบสนองได้
"ดิฉันไม่รู้ว่าเราจะตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างไร เพราะไม่ได้บัญญัติในรัฐธรรมนูญ มันไม่ได้อยู่ภายใต้หลักประชาธิปไตย ดิฉันไม่รู้ว่าเราจะขับเคลื่อนประเทศไทยให้ไปข้างหน้าได้อย่างไรด้วยวิธีการเหล่านี้ มันไม่เป็นที่ยอมรับตามหลักสากล" นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ระบุ ก่อนกล่าวต่อว่ารัฐบาลได้ร้องขอให้ผู้นำเหล่าทัพเข้ามาร่วมรับฟังการเจรจาระหว่างตัวเองกับสุเทพ เทือกสุบรรณแกนนำผู้ประท้วง โดยย้ำชัดว่าผู้นำเหล่าทัพเพียงแค่นั่งฟังเท่านั้น ไม่ได้ทำหน้าที่คนกลาง และการสนทนาที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่การเจรจา
ยิ่งไปกว่านั้น นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ยังให้สัมภาษณ์อีกว่า หากผู้ประท้วงต้องการบุกอาคารสถานที่ราชการ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะอดทนอดกลั้น แม้ว่าการกระทำนั้นจะส่งผลให้ผู้ประท้วงเข้ามาบุกยึดที่ทำงานของตนเอง หรือก็คือทำเนียบรัฐบาลก็ตาม
"เราจะทำอย่างดีที่สุดเพื่อปกป้องทำเนียบรัฐบาลด้วยวิธีการที่สงบสันติ เมื่อพูดแบบนี้ เราจึงจะไม่ปกป้องทำเนียบด้วยการเสียเลือดเสียเนื้อใดๆ" ผู้นำไทยกล่าวพร้อมเสริมว่า ใครก็ตามที่ละเมิดกฎหมายย่อมได้รับบทลงโทษตามที่มีบัญญัติไว้
รายงานระบุต่อไปว่า นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ได้ร้องขอให้สาธารณชน เห็นใจรัฐบาลปัจจุบัน และขอให้เข้าใจว่า ความต้องการของทางกลุ่มผู้ประท้วงไม่ได้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญเขียนไว้ และไม่สามารถตอบสนองได้
"เราร้องขอว่าสิ่งที่พวกเขาเรียกร้องต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ไม่เช่นนั้น ก็ไม่มีทางออกสำหรับประเทศนี้ สิ่งที่พวกเขาร้องขอ ดิฉันไม่สามารถกระทำให้ได้" นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์กล่าวก่อนสรุปปิดท้ายว่า " เราเห็นความต้องการของกลุ่มผู้ประท้วง และความแตกแยกของสังคมไทย ซึ่งดิฉันเชื่อว่ามันทำให้เราทุกคนที่ได้ประสบกับเหตุการณ์ครั้งนี้เจ็บปวดอย่างมาก"