เปิดแผนเสื้อแดงโคลนนิ่งกปปส.
การโคลนนิ่งวิธีการของ กปปส. หาก กปปส.ทำแล้วไม่ผิด คนเสื้อแดงทำก็ไม่ผิดเช่นกันเพราะอยู่บนพื้นฐานกฎหมายเดียวกัน
โดย...ทีมข่าวการเมือง
ร่วม 4 เดือนของการชุมนุมต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ต่อเนื่องมาถึงการต่อต้านระบอบทักษิณ ความรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มหนักหน่วงกว่าที่ผ่านมา จากการปะทะกันด้วยการปาระเบิดปิงปอง ปืนพก ก็ยกระดับมาเป็นระเบิดขว้างเอ็ม 79 และการใช้อาวุธสงครามกราดยิง ใช่เพียงแต่กลุ่ม กปปส.เท่านั้นที่เป็นฝ่ายถูกกระทำ กลุ่มต่อต้าน กปปส.เองก็ได้รับบาดเจ็บจากอาวุธในเหตุการณ์ปะทะที่แยกหลักสี่ รวมทั้งฝ่ายตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากปฏิบัติการขอคืนพื้นที่สะพานผ่านฟ้าฯ
ความขัดแย้งการเมืองที่ยังไม่เห็นจุดยุติ กลุ่ม กปปส.ไม่มีทีท่าอ่อนข้อให้แก่รัฐบาล ขณะที่คนเสื้อแดง หรือกลุ่ม นปช. ที่สนับสนุนรัฐบาล ก็ประกาศตั้งกองกำลังอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ หรือ อพปช. ตั้งเป้ารวมคนให้ได้ 2 แสนคน ต่อต้าน กปปส.ทุกรูปแบบ ก็เป็นภาวะที่ทุกฝ่ายแม้แต่กลไกของรัฐอย่างศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ประเมินสถานการณ์อย่างกังวลว่าอาจเป็นชนวนนำไปสู่ สงครามกลางเมือง
ในมุมมองคนแกนนำเสื้อแดง ศิริวัฒน์ จุปะมัดถา ผู้ประสานงาน นปช.พะเยา บอกว่า ไม่ทราบรายละเอียดการจัดตั้งกองกำลังดังกล่าว แต่คนเสื้อแดงมีการดูแลตัวเอง 100% อยู่แล้ว เมื่อเห็นนักรบข้าวโพดคั่วปะปนอยู่ในม็อบ กปปส. ทำให้คนเสื้อแดงเชื่อว่าชายชุดเขียวอาจมีส่วน ก็ยิ่งต้องระมัดระวังให้มากขึ้น
“สิ่งที่ผมกังวลคือนับวันจะยิ่งมีเหตุรุนแรงเกิดบ่อยครั้งนั้น เกรงว่าบุคคลที่เป็นคู่ขัดแย้งกันไม่ว่าจะในเรื่องใดก็ตาม อาจจะสวมรอยฉวยโอกาสลงมือดับคู่แข่งหรือคู่แค้นในช่วงนี้ไปเพื่อไม่ให้ใครสงสัย ตรงนี้น่ากลัวมาก”ศิริวัฒน์ กล่าว
การเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.นั้น ใช่เริ่มต้นที่การประกาศจัดตั้งกองกำลังในการประชุมใหญ่แกนนำทั่วประเทศที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมาเท่านั้น ก่อนหน้านี้มีกิจกรรมต่อเนื่องมาเป็นระยะ ตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค. ที่ปรากฏป้ายผ้าข้อความแยกประเทศกลางเมืองพะเยา
ขณะที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี ประกาศผ่านรายการวิทยุให้คนเสื้อแดงเตรียมพร้อม หาก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกบีบให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ให้รวมตัวกันออกมาต่อต้าน กปปส.
คำประกาศของโกตี๋อยู่ในช่วงหลังกองกำลังปริศนาตอบโต้ตำรวจที่ปฏิบัติการขอคืนพื้นที่สะพานผ่านฟ้าฯ และศาลแพ่งมีคำสั่งห้าม ศรส.ใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน กระทำการ 9 ข้อ แม้กลุ่มโกตี๋จะเป็นเสื้อแดงอิสระที่ไม่ขึ้นกับ นปช. แต่ห้วงเวลาเดียวกันนี้เครือข่าย นปช.ทั่วประเทศ ก็มีการประชาสัมพันธ์ผ่านสถานีวิทยุชุมชนในลักษณะเดียวกับโกตี๋ ท่ามกลางข่าวลือทหารจะประกาศใช้กฎอัยการศึก หรืออาจรัฐประหาร
แกนนำเสื้อแดงที่มีบทบาทสำคัญในระดับตัวแทนภาคคนหนึ่งเปิดเผยว่า ขณะนี้มีการประชาสัมพันธ์กับมวลชนในพื้นที่ว่า หากเกิดการรัฐประหาร จะต้องระดมคนเสื้อแดงอย่างน้อยจังหวัดละ 3,000-5,000 คน ปิดล้อมค่ายทหาร หรือ “ชัตดาวน์ค่าย”เหมือนที่ม็อบกปปส.ชัตดาวน์กรุงเทพฯ
เขากล่าวอีกว่า แม้นว่าตอนนี้จะไม่มีทหารออกมายึดอำนาจ แต่สิ่งที่คนเสื้อแดงรับรู้คือ การปฏิวัติโดยประชาชน โดยมีองค์กรอิสระสนับสนุน รัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่สามารถบริหารประเทศได้เลย ถูกเตะสกัด ขัดแข้งขัดขาทุกจังหวะ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำลังจะชี้มูลความผิดของ ยิ่งลักษณ์ ก็ยังไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น
“หากท้ายที่สุดรัฐบาลเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ทำงานต่อไปไม่ได้ หรือมีการพลิกผันให้เกิดนายกรัฐมนตรีคนกลางบิดเบือนประชาธิปไตย คนเสื้อแดงไม่มีทางยอมรับได้ เมื่อนั้นการตอบโต้ในรูปแบบต่างๆ ก็คือการโคลนนิ่งวิธีการของ กปปส. หาก กปปส.ทำแล้วไม่ผิด คนเสื้อแดงทำก็ไม่ผิดเช่นกัน เพราะอยู่บนพื้นฐานกฎหมายเดียวกัน”
ด้าน ถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส.กล่าวถึงเหตุการณ์ยิงถล่มและปาระเบิดใส่จุดชุมนุมสีลม-สวนลุมพินีต่อเนื่องกันนายหลายชั่วโมง เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า ได้สั่งประชุมการ์ดเตรียมพร้อมรับมือ อาจต้องสอดส่องตามตึกต่างๆ ที่อยู่รอบในรัศมี 100-200 เมตร คาดว่าสถานการณ์จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น เพื่อให้คนกลัวไม่กล้ามาชุมนุม และหากคนร้ายมีโอกาสจัดการแกนนำได้ก็จะทำทันที
สถานการณ์ความรุนแรงและสถานการณ์มวลชนร้อนแรงขึ้นทุกขณะ
***ภาพประกอบจากแฟ้มภาพการชุมนุมของกลุ่มนปช.ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 23 ก.พ.***