จากวัดประยูร สู่เณรธรรมาสน์ทอง
มีคำกล่าวหนึ่งที่พูดและได้ยินกันมานานว่า “ถ้าอยากเป็นนักเทศน์ ให้อยู่วัดประยูร
มีคำกล่าวหนึ่งที่พูดและได้ยินกันมานานว่า “ถ้าอยากเป็นนักเทศน์ ให้อยู่วัดประยูร อยากเป็นเจ้าคุณ ให้อยู่วัดมหาธาตุ อยากเป็นนักปราชญ์ ให้อยู่วัดสามพระยา อยากเป็นมหา ให้อยู่วัดเบญจมบพิตร”
ขอย้ำว่า นี่คือคำพูดที่ได้ยินเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว และเป็นเช่นนั้นจริงตามที่ครูบาอาจารย์หลายๆรูปหลายองค์เคยเล่าให้ฟัง
แต่ถ้าพูดถึงปัจจุบัน ตามความเห็นส่วนตัว คำกล่าวที่ว่า “อยากเป็นนักเทศน์ ให้ไปอยู่วัดประยูร” (เป็นคำเรียกกันติดปาก แต่ชื่อจริงของวัดคือ ประยุรวงศาวาส) ยังเป็นจริงตามนั้น ส่วนคำกล่าวอื่นๆ น่าจะเปลี่ยนไปแล้ว
ทำไมวัดประยุรวงศาวาสจึงดำรงคำกล่าวชื่นชมด้านนี้ไว้ได้อย่างมั่นคงถึงวันนี้ เชื่อว่าบางท่านคงทราบดีอยู่แล้ว แต่บางท่านอาจจะเพิ่งได้ยิน ขอตอบว่า เพราะวัดประยุรวงศาวาสเจ้าตำนานพระนักเทศน์ โดยพระนักเทศน์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันมีหลายรูป อาทิ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (จี่ อินฺทสโร ป.ธ.9) อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 3 พระธรรมไตรโลกาจารย์ (อยู่ อุตฺตรภทฺโท) อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 12พระธรรมภาณพิลาส (เพิ่ม ปุญฺญวฑฺฒโน)
พระราชเวที (พร) พระประสิทธิ์ศีลคุณ (ปัน) พระพุทธวรญาณ (มงคล วิโรจโน) อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 13 พระครูพิศาล ธรรมโกศล หรือหลวงตาแพรเยื่อไม้ อดีตประธานองค์การเผยแผ่วัดประยุรวงศาวาส
ปัจจุบันมี พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต)เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน กรรมการมหาเถรสมาคม อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พระราชปริยัติดิลก (วิชิต อิสฺสโร) พระราชธรรมวาที (ชัยวัฒน์ ธมฺมวฑฺฒโน) พระราชปฏิภาณมุนี (บุญมา อาคมปุญฺโญ) พระราชวรเมที (ประสิทธิ์ พฺรหฺมรํสี) และอีกหลายรูปที่ไม่ได้เอ่ยนาม
นอกจากมีพระนักเทศน์เยอะแล้ว วัดประยุรวงศาวาสยังเป็นสำนักเดียวที่มีองค์การเผยแผ่ของวัดมานานและมีชื่อว่า “องค์การเผยแผ่วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร” ผลิตนักเทศน์ทั้งพระทั้งเณรเป็นรูปธรรมที่สุดทุกปี ไปถามพระเณรนักเทศน์นักเผยแผ่รุ่นหลังๆ ที่มีชื่อเสียงบ้าง ไม่มีบ้างได้เลย น้อยนักที่ไม่เคยผ่านสำนักวัดประยุรฯ มา
สำหรับองค์การเผยแผ่วัดประยุรฯ นั้นได้จัดให้มีการฝึกอบรมพระนักเทศน์นักเผยแผ่เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2521 สมัยนั้น พระครูพิศาล ธรรมโกศล หรือหลวงตาแพรเยื่อไม้ เป็นประธานองค์การเผยแผ่ โดยจัดอบรมติดต่อกันได้แค่ 4 รุ่น หลังจากนั้นก็มีเหตุต้องหยุดพักไประยะหนึ่ง
ต่อมาในยุคของ พระพุทธวรญาณ (มงคล วิโรจโน) อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 13 (ครองวัด พ.ศ. 25012548) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเผยแผ่พระพุทธศาสนา จึงฟื้นฟูโครงการฝึกอบรมพระนักเทศน์ หรือหลักสูตรวิชาการเทศนาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ในปี พ.ศ. 2540 นับต่อเป็นรุ่นที่ 5 และได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ปัจจุบันมี พระราชปฏิภาณมุนี (บุญมา) เป็นประธานองค์การฯ
ที่น่าชื่นใจคือ การจัดฝึกอบรมพระนักเทศน์นักเผยแผ่ขององค์การเผยแผ่วัดประยุรวงศาวาสนั้นเป็นที่นิยมและได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากพระเณร โดยเฉพาะที่อยู่ในกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑลที่เดินทางสะดวก
จึงถือได้ว่าเป็นสำนักที่ได้สืบทอดเจตนารมณ์ และรักษาประเพณีการแสดงพระธรรมเทศนาตั้งแต่สมัยบูรพาจารย์มาจนกระทั่งปัจจุบัน
และตอนนี้ก็มีผู้เจริญรอยตามวัดประยุรฯ ก็คือ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้จัดโครงการส่งเสริมวิชาการเทศนา “สามเณรธรรมาสน์ทอง” ขึ้นปีแรก ซึ่งปิดฉากโครงการไปเมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่จะยังจัดต่อไปเรื่อยๆ
หลักสูตรฝึกอบรมที่ใช้ก็ไม่ต่างจากวัดประยุรฯ ครูบาอาจารย์ที่ฝึกอบรมก็หลากหลาย ส่วนใหญ่มาจากทีมฝึกอบรมที่วัดประยุรฯ แล้วโครงการก็ประสบความสำเร็จงดงาม ผลการตัดออกมาสามเณรธรรมาสน์ทอง 3 รูป
และเป็น 3 รูปที่จะได้เข้ารับโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระผู้ทรงให้ความสำคัญกับการศึกษาของพระเณรมาโดยตลอด ในโอกาสเฉลิมพระชนมายุ 60 พรรษา ในปี 2558
เขียนมาไม่มีอะไรมาก แค่อยากชวนท่านผู้อ่านไปดูความสามารถของน้องเณรโครงการนี้จากยูทูบ พิมพ์คำว่าสามเณรธรรมาสน์ทอง แค่นี้ผมว่ายังไงท่านต้องอมยิ้มชื่นชม
ขอย้ำว่า นี่คือคำพูดที่ได้ยินเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว และเป็นเช่นนั้นจริงตามที่ครูบาอาจารย์หลายๆรูปหลายองค์เคยเล่าให้ฟัง
แต่ถ้าพูดถึงปัจจุบัน ตามความเห็นส่วนตัว คำกล่าวที่ว่า “อยากเป็นนักเทศน์ ให้ไปอยู่วัดประยูร” (เป็นคำเรียกกันติดปาก แต่ชื่อจริงของวัดคือ ประยุรวงศาวาส) ยังเป็นจริงตามนั้น ส่วนคำกล่าวอื่นๆ น่าจะเปลี่ยนไปแล้ว
ทำไมวัดประยุรวงศาวาสจึงดำรงคำกล่าวชื่นชมด้านนี้ไว้ได้อย่างมั่นคงถึงวันนี้ เชื่อว่าบางท่านคงทราบดีอยู่แล้ว แต่บางท่านอาจจะเพิ่งได้ยิน ขอตอบว่า เพราะวัดประยุรวงศาวาสเจ้าตำนานพระนักเทศน์ โดยพระนักเทศน์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันมีหลายรูป อาทิ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (จี่ อินฺทสโร ป.ธ.9) อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 3 พระธรรมไตรโลกาจารย์ (อยู่ อุตฺตรภทฺโท) อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 12พระธรรมภาณพิลาส (เพิ่ม ปุญฺญวฑฺฒโน)
พระราชเวที (พร) พระประสิทธิ์ศีลคุณ (ปัน) พระพุทธวรญาณ (มงคล วิโรจโน) อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 13 พระครูพิศาล ธรรมโกศล หรือหลวงตาแพรเยื่อไม้ อดีตประธานองค์การเผยแผ่วัดประยุรวงศาวาส
ปัจจุบันมี พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต)เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน กรรมการมหาเถรสมาคม อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พระราชปริยัติดิลก (วิชิต อิสฺสโร) พระราชธรรมวาที (ชัยวัฒน์ ธมฺมวฑฺฒโน) พระราชปฏิภาณมุนี (บุญมา อาคมปุญฺโญ) พระราชวรเมที (ประสิทธิ์ พฺรหฺมรํสี) และอีกหลายรูปที่ไม่ได้เอ่ยนาม
นอกจากมีพระนักเทศน์เยอะแล้ว วัดประยุรวงศาวาสยังเป็นสำนักเดียวที่มีองค์การเผยแผ่ของวัดมานานและมีชื่อว่า “องค์การเผยแผ่วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร” ผลิตนักเทศน์ทั้งพระทั้งเณรเป็นรูปธรรมที่สุดทุกปี ไปถามพระเณรนักเทศน์นักเผยแผ่รุ่นหลังๆ ที่มีชื่อเสียงบ้าง ไม่มีบ้างได้เลย น้อยนักที่ไม่เคยผ่านสำนักวัดประยุรฯ มา
สำหรับองค์การเผยแผ่วัดประยุรฯ นั้นได้จัดให้มีการฝึกอบรมพระนักเทศน์นักเผยแผ่เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2521 สมัยนั้น พระครูพิศาล ธรรมโกศล หรือหลวงตาแพรเยื่อไม้ เป็นประธานองค์การเผยแผ่ โดยจัดอบรมติดต่อกันได้แค่ 4 รุ่น หลังจากนั้นก็มีเหตุต้องหยุดพักไประยะหนึ่ง
ต่อมาในยุคของ พระพุทธวรญาณ (มงคล วิโรจโน) อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 13 (ครองวัด พ.ศ. 25012548) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเผยแผ่พระพุทธศาสนา จึงฟื้นฟูโครงการฝึกอบรมพระนักเทศน์ หรือหลักสูตรวิชาการเทศนาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ในปี พ.ศ. 2540 นับต่อเป็นรุ่นที่ 5 และได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ปัจจุบันมี พระราชปฏิภาณมุนี (บุญมา) เป็นประธานองค์การฯ
ที่น่าชื่นใจคือ การจัดฝึกอบรมพระนักเทศน์นักเผยแผ่ขององค์การเผยแผ่วัดประยุรวงศาวาสนั้นเป็นที่นิยมและได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากพระเณร โดยเฉพาะที่อยู่ในกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑลที่เดินทางสะดวก
จึงถือได้ว่าเป็นสำนักที่ได้สืบทอดเจตนารมณ์ และรักษาประเพณีการแสดงพระธรรมเทศนาตั้งแต่สมัยบูรพาจารย์มาจนกระทั่งปัจจุบัน
และตอนนี้ก็มีผู้เจริญรอยตามวัดประยุรฯ ก็คือ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้จัดโครงการส่งเสริมวิชาการเทศนา “สามเณรธรรมาสน์ทอง” ขึ้นปีแรก ซึ่งปิดฉากโครงการไปเมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่จะยังจัดต่อไปเรื่อยๆ
หลักสูตรฝึกอบรมที่ใช้ก็ไม่ต่างจากวัดประยุรฯ ครูบาอาจารย์ที่ฝึกอบรมก็หลากหลาย ส่วนใหญ่มาจากทีมฝึกอบรมที่วัดประยุรฯ แล้วโครงการก็ประสบความสำเร็จงดงาม ผลการตัดออกมาสามเณรธรรมาสน์ทอง 3 รูป
และเป็น 3 รูปที่จะได้เข้ารับโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระผู้ทรงให้ความสำคัญกับการศึกษาของพระเณรมาโดยตลอด ในโอกาสเฉลิมพระชนมายุ 60 พรรษา ในปี 2558
เขียนมาไม่มีอะไรมาก แค่อยากชวนท่านผู้อ่านไปดูความสามารถของน้องเณรโครงการนี้จากยูทูบ พิมพ์คำว่าสามเณรธรรมาสน์ทอง แค่นี้ผมว่ายังไงท่านต้องอมยิ้มชื่นชม