จี้นายกฯประกาศทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ

15 มีนาคม 2558

สุริยะใส แนะนายกฯ ประกาศทำประชามติร่างรธน. เพื่อป้องกันสังคมสับสน ชี้เป็นเกราะกำลังไม่ให้ถูกรื้อตามใจชอบ

สุริยะใส แนะนายกฯ ประกาศทำประชามติร่างรธน. เพื่อป้องกันสังคมสับสน ชี้เป็นเกราะกำลังไม่ให้ถูกรื้อตามใจชอบ

เมื่อวันที่ 15 มี.ค. นายสุริยะใส กตะศิลา อาจารย์วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวว่า ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เร่งตัดสินใจว่ารัฐบาลจะให้มีการลงประชามติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะการปล่อยให้อึมครึมโดยที่นายกฯ ไม่เคยแสดงท่าทีชัดเจนว่าจะจัดให้มีประชามติหรือไม่นั้น ทำให้สังคมสับสนและไม่มั่นใจว่าขั้นตอนสุดท้ายร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะมีหน้าตาอย่างไรกันแน่

"ที่น่าห่วงและอาจทำให้สังคมสับสนมากคือนายกฯ มักจะบอกว่าอย่าเถียงกันเอาเป็นเอาตายหรือวิตกกังวลในสาระของร่างรัฐธรรมนูญมากเกินไป เพราะสุดท้ายอยู่ที่ คสช. และรัฐบาลว่าจะปรับแก้อย่างไรนั้น การส่งสัญญานแบบนี้ทำให้หลายฝ่ายหรือแม้แต่ สปช.หรือคณะกรรมาธิการยกร่างฯ เองก็ไม่มั่นใจและยืนยันกับสังคมไม่ได้เหมือนกันว่า เนื้อหาสาระที่เดินสายอธิบายความ จัดเวทีรับฟังกันอยู่ในขณะนี้ หรือร่างกันเสร็จสรรพแล้วจะปรากฎในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือจะถูกบังคับใช้หรือไม่ หรือ คสช.มีพิม์เขียวอีกฉบับหนึ่งอยู่แล้ว"นายสุริยะใสกล่าว

นายสุริยะใสกล่าวอีกว่า  หากนายกฯ ประกาศ ให้ชัดเจนว่าจะจัดให้มีการทำประชามติรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าจากนี้ไปกระบวนการประชาพิจารณ์ หรือการแปรญัตติจะมีความหมายและดึงการมีส่วนร่วมดึงความสนใจจากประชาชนได้มากขึ้น

ทั้งนี้การทำประชามตินอกจากจะเป็นเกราะกำบังให้รัฐธรรมนูญไม่ถูกรื้อตามใจชอบแล้ว ยิ่งลดข้อครหาสืบทอดอำนาจได้อีกด้วย เพราะรัฐบาลชุดนี้บอกตลอดเวลาว่าไม่คิดจะอยู่ต่อ ยิ่งมีความจำเป็นที่ต้องถ่ายโอนการปฏิรูปมาให้สังคมและประชาชนขับเคลื่อนต่อ เพราะการลงประชามติถือเป็นกระบวนการปลายเปิดให้สังคมตัดสินใจ และรับผิดชอบต่อการตัดสินใจด้วยตนเอง ความรู้สึกในการเป็นเจ้าของรัฐธรรมนูญก็จะเกิดขึ้นตามมา

"สังคมไทยได้สร้างมาตรฐานของกระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญที่ประชาชนมีส่วนร่วมไว้สูงมากในรัฐธรรมนูฉบับ 2540 และ 2550 ฉะนั้นรอบนี้มาตรฐานของการมีส่วนร่วมก็ไม่ควรน้อยไปจากเดิม"นายสุริยะใสกล่าว

Thailand Web Stat