อสส.มั่นใจหลักฐานแน่นคดี"ยิ่งลักษณ์"
อัยการสูงสุดมั่นใจหลักฐานคดี "ยิ่งลักษณ์" จำนำข้าว ขู่หมายจับหากไม่มาศาล 19 พ.ค. ระบุการขอไปต่างประเทศขึ้นอยู่กับดุลพินิจศาล
อัยการสูงสุดมั่นใจหลักฐานคดี "ยิ่งลักษณ์" จำนำข้าว ขู่หมายจับหากไม่มาศาล 19 พ.ค. ระบุการขอไปต่างประเทศขึ้นอยู่กับดุลพินิจศาล
เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน รองหัวหน้าคณะทำงานอัยการ ที่รับผิดชอบคดีโครงการจำนำข้าวและระบายข้าว นายชุติชัย สาขากร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน และนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด รวมกันแถลงข่าวภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประทับรับฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฐานไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว จนทำให้รัฐเสียหายกว่า 6 แสนล้านบาท
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า อัยการโจทก์ตรียมพยานบุคคลไว้ 13 ปาก ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่รัฐ และคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เพื่อยืนยันการได้มาซึ่งเอกสารราชการ และประเด็นข้อกฎหมาย รวมถึงพยานเอกสาร และพยานวัตถุต่างๆ อีกจำนวนมาก โดยมั่นใจว่าพยานหลักฐานขณะนี้ เพียงพอแล้วที่จะเสนอให้ศาลรับฟังเป็นที่ยุติได้ แต่จะเอาผิดให้ศาลลงโทษได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของศาล ส่วนฝ่ายจำเลยจะยื่นบัญชีพยานเท่าไหร่จะต้องรอดูในวันนัดตรวจพยานหลักฐานอีกครั้ง
นายสุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามวันที่19 พ.ค.นี้ ศาลนัดพิจารณาคดีครั้งแรก น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องเดินทางมาศาลด้วยตนเอง ถ้าไม่มาศาลอาจออกหมายจับได้ แต่หากจะขอเลื่อนนัด ก็เป็นดุลพินิจของศาลว่าจะอนุญาตหรือไม่ รวมถึงการขอเดินทางออกนอกประเทศด้วย
อย่างไรก็ตาม ในวันนัดพิจารณาคดีครั้งแรก หากศาลฎีกาฯอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว น.ส.ยิ่งลักษณ์แล้ว แต่หากพบในภายหลังว่ามีพฤติการณ์ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือหลบหนี โจทก์อาจยื่นคัดค้านการปล่อยชั่วคราวต่อศาลได้