เทคโนเวิลด์
ประดิษฐ์มือแมงมุมไต่กำแพง
ประดิษฐ์มือแมงมุมไต่กำแพง
ความสามารถในการไต่กำแพงแบบตัวการ์ตูนฮีโร่ผู้โด่งดังขวัญใจใครหลายคนอย่างไอ้แมงมุมสไปเดอร์แมน นับได้ว่ากำลังเข้าใกล้ความจริงมากขึ้นทุกขณะ เมื่อล่าสุดทีมนักประดิษฐ์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ในอังกฤษ ประสบความสำเร็จในเบื้องต้นในการประดิษฐ์อุปกรณ์ไต่กำแพงที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 70 กก. โดยอุปกรณ์ดังกล่าวทำขึ้นจากแผ่นซิลิคอนขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือมนุษย์เล็กน้อยและทำหน้าที่ยึดติดเหมือนกับเท้าจิ้งจกหรือตุ๊กแกที่ยึดเกาะแนบแน่นกับพื้นผิว ทั้งนี้แม้ “มือสไปเดอร์แมน” จะยังมีขนาดที่ค่อนข้างเทอะทะ รวมถึงยังมีแรงยึดเกาะได้ไม่ดีสักเท่าไรนัก แต่จากการทดลองใช้งานล่าสุด ผู้ทดลองสามารถไต่กำแพงกระจกได้สูงถึง 3.6 ม. เลยทีเดียว
ยอดโลหะสะอาดได้โดยไม่เปลืองแรง
นับเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าที่ส่งผลดีต่อแวดวงเครื่องจักรเครื่องยนต์ เมื่อทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์ ในนิวยอร์ก สหรัฐ เพิ่งจะประดิษฐ์คิดค้นโลหะชนิดใหม่ที่พื้นผิวมีคุณสมบัติพิเศษในการทำให้น้ำที่หยดใส่กระเด้งกระดอนออกไปทันที โดยโลหะดังกล่าวเป็นส่วนผสมของแพลทินัม ไทเทเนียม และทองเหลือง ซึ่งใช้เลเซอร์พลังงานสูงเป็นตัวสกัด ขณะเดียวกันทางทีมวิจัยยังเชื่ออีกว่า วัสดุตัวใหม่นี้จะได้รับการพัฒนาต่อยอดให้เป็นพื้นผิวที่สามารถทำความสะอาดเองได้ในอนาคต เพราะหยดน้ำจะเป็นตัวนำพาฝุ่นออกจากพื้นผิวให้กระเด็นออกไปนั่นเอง
ถ่านเคลือบผิวปกป้องชีวิตเด็ก
บรรดาวิศวกรสาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์แห่งโรงพยาบาลบริกแฮม ร่วมมือกับโรงพยาบาลสตรีแห่งบอสตัน คิดค้นพัฒนาสารเคลือบพิเศษสำหรับถ่านนาฬิกา ซึ่งจะช่วยสกัดกั้นยับยั้งอันตรายต่อชีวิตของเด็กในกรณีที่เด็กคนนั้นเล่นซนด้วยการหยิบถ่านนาฬิกากลืนลงไป โดยสารเคลือบพิเศษดังกล่าวที่จะป้องกันไม่ให้ถ่านนาฬิกาปล่อย “ไฮดรอกไซด์ไอออน” ขณะสัมผัสกับของเหลวในกระเพาะหรือเมือกในลำคอ ซึ่งสารที่ว่านี้มีฤทธิ์กัดกร่อนเนื้อเยื่อในกระเพาะหรือลำคอ และเป็นหนึ่งในสาเหตุการตายของเด็กจากกรณีกลืนถ่าน
ฟินแลนด์เปิดตัวซูเปอร์คาร์พลังไฟฟ้า
ถือเป็นความภาคภูมิของชาวฟินแลนด์อย่างที่สุดกับการเปิดตัวยอดรถซูเปอร์คาร์ “โตโรยดิออน” ซึ่งได้รับการผลิตและออกแบบภายในฟินแลนด์ทั้งหมด โดยมีนักออกแบบมือฉมังอย่าง พาสิ เพนนาเน็น อดีตนักออกแบบของจากัวร์ และซากาโต สำหรับความพิเศษของซูเปอร์คาร์คันนี้ นอกจากจะขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแล้ว ระบบขับเคลื่อนล้อหน้ากับล้อหลังยังใช้มอเตอร์คนละตัว โดยล้อหน้ามีแรงขับเคลื่อน 200 กิโลวัตต์ ขณะที่ล้อหลังมีแรงขับเคลื่อน 300 กิโลวัตต์ ซึ่งทำให้รถคันดังกล่าวมีพลังขับเคลื่อนถึง 1,341 แรงม้า
เลยทีเดียว