posttoday

ทอ.แจงเหตุทหารไทยถูกโจรกระชากกล้อง-ยิงบาดเจ็บที่สหรัฐ

31 สิงหาคม 2558

โฆษกทอ.แจงเหตุทหารอากาศไปฝึกร่วมสหรัฐฯ ถูกโจรกระชากกล้องและยิงใส่ได้รับบาดเจ็บ เตือนพวกโพสต์กล่าวหาบิดเบือนจะถูกดำเนินการตามกม.

โฆษกทอ.แจงเหตุทหารอากาศไปฝึกร่วมสหรัฐฯ ถูกโจรกระชากกล้องและยิงใส่ได้รับบาดเจ็บ เตือนพวกโพสต์กล่าวหาบิดเบือนจะถูกดำเนินการตามกม.

เมื่อวันที่ 31 ส.ค. พล.อ.อ.มณฑล สัขฌุกร  โฆษกกองทัพอากาศ ชี้แจงว่าตามที่มีการส่งข้อความในสื่อออนไลน์กล่าวหากองทัพอากาศจัดเครื่องบินนำข้าราชการไปเที่ยว  ยังต่างประเทศและมีนายทหารอากาศถูกยิงได้รับบาดเจ็บนั้น ขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้ ระหว่างวันที่ 6-23 ส.ค.2558 กองทัพอากาศได้จัดเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 (C-130) จำนวน 1 เครื่อง พร้อมเจ้าหน้าที่และผู้เข้าร่วมการฝึก จำนวน 45 คน เดินไปเข้าร่วมการฝึกผสม Red Flag Alaska 15-3 ณ รัฐอลาสกา สหรัฐอเมริกา ซึ่งกองทัพอากาศได้จัดกำลังเข้าร่วมการฝึกดังกล่าวเป็นประจำทุก 2 ปีตามวงรอบมาตั้งแต่ พ.ศ.2542

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ให้แก่เจ้าหน้าที่ของกองทัพอากาศที่เข้าร่วมการฝึกฯ อีกทั้งเป็นการฝึกบินเดินทางต่างประเทศและลำเลียงทางอากาศยุทธวิธี เป็นการเสริมภาพลักษณ์ของกองทัพอากาศในระดับนานาชาติ    และกระชับความสัมพันธ์กับกองทัพอากาศมิตรประเทศ ทั้งนี้ได้ออกเดินทางตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2558

ในช่วงของการฝึกบินเดินทางกลับได้กำหนดให้มีการแวะพักเครื่องในฐานทัพอากาศของสหรัฐฯ เป็นระยะเพื่อตรวจความพร้อมของเครื่องและเพื่อความปลอดภัย โดยในวันที่ 24-25 ส.ค. 2558 เครื่องบินได้จอดพักเครื่องที่ฐานทัพอากาศ Travis เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ตามแผนที่กำหนด ซึ่งลูกเรือและเจ้าหน้าที่ผู้เข้าร่วมการฝึกฯ ได้ใช้เวลาว่างพักผ่อนและทัศนศึกษาตามอัธยาศัย

ต่อมาในวันที่ 25 ส.ค. 2558 เวลาประมาณ 12.00น. ได้เกิดเหตุการณ์มีคนร้าย 1 คน เข้ามากระชากกล้องถ่ายรูปของนายทหารอากาศไทยคนหนึ่งขณะกำลังเดินอยู่ในเมือง จึงมีการวิ่งไล่ตามและถูกคนร้ายอีกคนหนึ่งยิงสวนมาจากในรถ ถูกที่แขนได้รับบาดเจ็บและได้ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลเป็นที่เรียบรัอย

ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ ได้จับตัวคนร้ายทั้งหมดได้  ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามกระบวนการของสหรัฐฯ

ในส่วนของเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 กำหนดเดินทางถึงกองบิน 6 ในวันที่ 1 ก.ย. 2558 ตามแผนการบินที่วางไว้ โดยมีนายทหารที่ได้รับบาดเจ็บเดินทางกลับมาด้วย ซึ่งมีชุดแพทย์ ที่ร่วมเดินทางคอยดูแลในระหว่างทาง

"เนื่องจากการส่งข้อความในสื่อออนไลน์มีการพยายามสร้างความเข้าใจผิดและสร้างความเสียหายให้แก่กองทัพอากาศ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ปรากฏในสื่อของสหรัฐฯ อย่างเปิดเผยเป็นข่าวอาชญากรรมทั่วไป ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในหลายประเทศ แต่การสร้างข้อความเท็จให้ปรากฎเป็นความเข้าใจผิดแก่กองทัพอากาศ จะได้มีการพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมหรือทางกฎหมายต่อไป จึงขอให้ผู้ที่ ส่งต่อข้อความที่ไม่ถูกต้องโปรดระงับการเผยแพร่ข้อความดังกล่าวด้วย"พล.อ.อ.มณฑลกล่าว