posttoday

รอยยิ้มในวันจากลา

25 ตุลาคม 2558

หญิงสาวคนหนึ่งโพสต์สเตตัสขึ้นบนเฟซบุ๊กว่า ชีวิตคู่ของเธอกำลังเดินมาถึงจุดสิ้นสุด...

โดย...ณศักต์ อัจจิมาธร

หญิงสาวคนหนึ่งโพสต์สเตตัสขึ้นบนเฟซบุ๊กว่า ชีวิตคู่ของเธอกำลังเดินมาถึงจุดสิ้นสุด...

หลังจากข้อความถูกโพสต์ไม่กี่ชั่วโมง เพื่อนในเฟซบุ๊กต่างก็ร่วมแสดงความคิดเห็นกับข้อความของเธอเป็นจำนวนมาก บ้างก็ถามว่า เกิดอะไรขึ้น บางคนก็บอกให้ใจเย็นๆ ค่อยๆ คิด

ขณะที่ใครคนหนึ่งบอกว่า สุดท้ายเธอก็มีเพียงแค่สองทางเลือก 1.อยู่กับคนที่เธอเลือกใช้ชีวิตอยู่ด้วยต่อไป จะด้วยความอดทน หรือมองข้ามสิ่งที่ไม่ถูกใจในตัวเขาไปก็ตาม หรือ 2.ต่างคนต่างแยกทางกันเดิน

หญิงสาวหายไปจากเฟซบุ๊กหลังจากโพสต์ข้อความนั้น เธอไม่อัพเดทเรื่องราวใดๆ ผ่านเฟซบุ๊กอีกเลย กระทั่งเกือบ 2 ปี เธอก็กลับมาโพสต์ข้อความอีกครั้ง

“ชีวิตคู่ที่จบลงด้วยความสุข บางครั้งก็ดีกว่าชีวิตคู่ที่ดำเนินไปด้วยความทุกข์” ข้อความของหญิงสาวระบุ

เธอเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาว่า หลังจากที่ใครบางคนแนะนำว่าเธอมี 2 ทางเลือกสำหรับชีวิตคู่ สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจเลือกทำทั้งสองข้อ...แต่เธอทำข้อแรกก่อน

หญิงสาวเล่าว่า หลังจากใช้ชีวิตคู่มานานหลายปี อะไรหลายๆอย่างก็ดูเหมือนจะเข้ากันไม่ได้ ตั้งแต่เรื่องความคิดเห็นความที่ไม่ตรงกัน และพฤติกรรมหลายๆ อย่างในชีวิตประจำวันของอีกฝ่าย ทั้งที่พฤติกรรมเหล่านั้นก็มีให้เห็นตั้งแต่แรกที่คบหากัน แต่มาวันนี้กลับเป็นเรื่องที่รู้สึกรับไม่ได้ขึ้นมาดื้อๆ

เธอพยายามปรับตัวเพื่อดำเนินชีวิตคู่ต่อไปด้วยการเลือกมองข้ามสิ่งที่รู้สึกไม่ชอบใจ และคิดแต่สิ่งดีๆ ที่อีกฝ่ายมี ในยามที่มีเรื่องไม่ถูกใจมากระทบ รวมทั้งพยายามที่จะไม่ใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อยที่รู้สึกไม่ชอบใจด้วยการหันไปคุยเรื่องอื่นหรือทำเรื่องอื่นแทน แต่สุดท้ายหลายๆ อย่างก็ไม่ได้ดีขึ้น เธอจึงตัดสินใจเลือกข้อสอง...

สิ่งที่ดูจะแตกต่างไปจากความคุ้นชินเรื่องการแยกทางของคนสองคน สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวก็คือ ความพยายามที่จะทำให้การแยกทางเป็นไปด้วยรอยยิ้มมากกว่าน้ำตา หรือความโกรธแค้น

เธอเล่าว่า ได้ใช้เวลาพูดคุยถึงเหตุผลต่างๆ กันยาวนาน รวมถึงทดลองแยกกันอยู่ จนสุดท้ายทั้งคู่ก็เห็นตรงกันว่า การแยกทางเพื่อคืนความเป็นอิสระให้กันและกันดูจะเป็นทางออกที่น่าจะดีกว่าการเดินคู่กันไปด้วยความเป็นทุกข์

เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศรายงานว่า อดีตคู่รักจำนวนไม่น้อยกำลังนิยมโพสต์ภาพคู่ในวันหย่าร้างขึ้นบนสังคมออนไลน์พร้อมกับติดแท็ก (#) ว่า “#divorceselfie” ทุกภาพเป็นภาพของคู่รักชายหญิงที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม บ้างก็ถ่ายคู่กับใบหย่า บ้างก็ถ่ายหน้าศาลหลังจากหย่ากันเรียบร้อยแล้ว

หนึ่งในภาพที่ถูกสื่อต่างประเทศหยิบขึ้นมาประกอบการรายงานข่าวก็คือ ภาพคู่รักชาวแคนาดาที่มีรอยยิ้มเปื้อนบนใบหน้าหลังจากเสร็จสิ้นการทำเรื่องหย่าร้างบนศาล ที่มีผู้คนกดไลค์ กดแชร์หลายหมื่น

ฝ่ายหญิงซึ่งเป็นผู้โพสต์ภาพดังกล่าวระบุข้อความเอาไว้ว่า “ที่เรายิ้มไม่ใช่เพราะว่าคนที่เราเคยเลือกให้เป็นคู่ตลอดไปกลายเป็นคู่ที่เราไม่ต้องการแล้ว แต่เรายิ้มเพราะเรา (คิดว่า) ได้ทำสิ่งที่พิเศษมากๆ เราได้คิดอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าการสิ้นสุดชีวิตการแต่งงานของเราจะเป็นโอกาสในการเป็นหุ้นส่วนที่ช่วยกันดูแลลูกๆ ของเรา และพวกเขาไม่จำเป็นต้องเลือกคนใดคนหนึ่ง เพราะเราสองคนจะร่วมกันดูแลและคอยยืนข้างๆ ลูกของเราตลอดไป แม้เราจะเป็นพ่อแม่ที่อยู่บ้านคนละหลัง แต่เราก็จะเป็นสองทีมที่ให้ความรักลูกๆ ของเราให้มากขึ้นเป็นสองเท่า”

เว็บไซต์ qz.com ระบุว่า แม้ที่ผ่านมางานวิจัยจากหลายๆ สำนักจะระบุตรงกันว่า คนที่แต่งงานใช้ชีวิตคู่จะมีความสุขมากกว่าคนที่อยู่เป็นโสด แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าการหย่าร้างจะนำมาซึ่งความเศร้าเสมอไป

Donald T. Saposnek นักจิตวิทยาเด็กและนักบำบัดปัญหาในครอบครัว ระบุไว้ในบทความเรื่อง “The Psychology of Divorce” ว่า หากการหย่าร้างจบลงอย่างสมบูรณ์แบบในแง่ดี ก็จะช่วยให้อดีตคู่รักเกิดความมั่นใจในตัวเอง รู้สึกมีความเป็นอิสระ และรู้สึกได้รับการยอมรับมากขึ้น

สำหรับชีวิตคู่แล้ว การร่วมกันประคองให้เดินไปตลอดรอดฝั่งอย่างมีความสุขของคนสองคนไม่ว่าจะเผชิญปัญหาอะไรย่อมเป็นคำตอบที่ดีที่สุด แต่บางคนชีวิตก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ฝันไว้

เมื่อทางออกเหลืออยู่เพียงทางเดียว การจากลาด้วยความเข้าใจ เคารพ ให้เกียรติ และมีรอยยิ้มให้กันและกัน น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในวันที่คนสองคนไม่อาจเดินร่วมทางกันต่อไป...