กรธ.เคาะใครติดคุกห้ามลงสส.
กรธ.เคาะใครติดคุกห้ามลงสส. ระบุ พรบ.ล้างมลทินฟอกตัวคืนการเมืองไม่ได้
กรธ.เคาะใครติดคุกห้ามลงสส. ระบุ พรบ.ล้างมลทินฟอกตัวคืนการเมืองไม่ได้
นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) แถลงความคืบหน้าในการประชุม กรธ. ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาหลักการบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับรัฐสภา ในประเด็นเรื่องหลักการเกี่ยวกับระบบเวลาในการประกาศผลการเลือกกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ที่จะต้องประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.ภายใน 30 วันเพื่อให้สามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ ซึ่งที่ประชุมยังพิจารณาว่าจะต้องได้ส.ส.เกินร้อยละ 90 หรือร้อยละ 95 ของจำนวนส.ส.ทั้งหมด 500 คน เพื่อที่จะเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรก เพื่อเลือกตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่หากเสียงส.ส.ไม่ถึงเกณฑ์ตามที่กำหนด กกต.จะต้องจัดการเลือกตั้งใหม่และประกาศรับรองผลส.ส.ให้ได้ภายใน 15 วัน
โฆษก กรธ. กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังพิจารณาหลักการเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. นั้น ในเบื้องต้น กรธ.ได้กำหนดข้อห้ามในการลงสมัครส.ส.คือบุคคลที่ถูกจำคุกจริงในคดีอาญา ยกเว้นคดีหมิ่นประมาทหรือคดีลหุโทษก็สามารถลงสมัครส.ส.ได้ รวมทั้งคดีทุจริตที่ถูกศาลตัดสินถึงที่สุด รวมทั้งผู้ที่ได้รับโทษดังกล่าวแต่ได้รับยกเว้นโทษตามพ.ร.บ.ล้างมลทิน ก็ไม่สามารถมาลงสมัครส.ส.ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนักการเมืองบ้านเลขที่ 109 และ 111 ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี จะลงสมัครส.ส.ได้หรือไม่ โฆษก กรธ. กล่าวว่า ถ้าหากพ้นโทษทางการเมืองมาแล้ว ก็สามารถลงสมัครส.ส.ได้ ในส่วนของผู้ที่ถูกถอดถอนนั้นทางกรธ.ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาซึ่งยังไม่ได้ข้อยุติ