posttoday

โอวาทสมเด็จฯกับความอยู่รอด ของคณะสงฆ์ไทย

13 ธันวาคม 2558

โอวาทที่เจ้าพระคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช

โดย...ส.คลองเตย

โอวาทที่เจ้าพระคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ที่มอบแก่พระเถรานุเถระผู้เข้ารับพระราชทานเลื่อน-ตั้ง สมณศักดิ์เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2558 และเข้าสักการะมุทิตาจิตต่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.นั้น ได้สร้างความฮือฮาไม่เฉพาะพระและญาติโยมที่อยู่ในเหตุการณ์เท่านั้น แต่ถึงคนในสังคมโดยทั่วไป เพราะโอวาทนั้นเที่ยงตรงกับความจริงของวงการสงฆ์ที่คนโดยทั่วไปกังวลใจ เเละเชื่อว่าเป็นเหตุให้ศาสนาเสื่อมอยู่ในเวลานี้ (แม้จะมีผู้รู้พยายามอธิบายว่าศาสนาไม่เสื่อม ที่เสื่อมคือ คณะสงฆ์ ก็ตาม) คือ

1.จงประคองศีลสามัญญตา และทิฏฐิสามัญญตา

2.จงรักษาสามัคคี

3.จงระวังสตรีและสตางค์

ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ อรรถาธิบายอย่างสั้นว่า  1) ศีล คือ ความเรียบร้อยทางวาจา และกาย ทิฏฐิ คือ มีความสอดคล้องต้องกันในหมู่คณะสงฆ์ให้มีความเห็นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ถ้าไม่มีศีล และมีความเห็นแตกต่างกันก็เดือดร้อน   2) จงรักษาสามัคคี ท่านทั้งหลายต้องตั้งใจรักษาสามัคคี สร้างสามัคคี ปลูกสามัคคี ให้มีในหมู่คณะสงฆ์ ในบรรดาสาธุชนด้วยให้รักใคร่ปรองดองกัน วัดถึงจะอยู่ได้ บ้านเมืองจะอยู่ได้ และ 3) ให้ระวังสตรีและสตางค์

โอวาททั้ง 3 ข้อ สั้นกระชับจับใจคนทั่วไปเพราะเป็นที่รู้โดยทั่วไปว่าไม่เฉพาะชาวบ้านร้านตลาดที่แตกเป็นฝักเป็นฝ่ายจนบ้านเมืองเหมือนไม่ใช่เมืองไทยที่เรารู้จักในอดีตเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา พระสงฆ์ที่ผู้คนเคารพนับถือก็ถูกสั่นคลอนในความรู้สึกว่าควรกราบไหว้นับถือหรือไม่เพราะศีลของพระจำนวนไม่น้อย (แม้จะไม่พระทั้งหมด) ก็ไม่สามารถรักษาให้เป็นปกติ และยิ่งในข้อสุดท้ายที่ให้ระวังเรื่องสตรีและสตางค์นั้นโดนใจคนโดยทั่วไปอย่างยิ่ง

แต่จะฝากเฉพาะพระเถรานุเถระที่ได้เลื่อนหรือได้ตั้งสมณศักดิ์ที่เข้ารับประทานพระโอวาทคงไม่พอ เพราะสนิมที่เกิดแต่เนื้อในวงการสงฆ์ทั้ง 3 เรื่องนั้นมันมีมากมายนักในความรู้สึกของผู้คนไม่เว้นแม้แต่ระดับกรรมการมหาเถระ เจ้าคณะหน ภาค จังหวัด อำเภอ จนถึงพระเณรลูกวัด ที่มีตัวอย่างให้เห็นว่าศีลไม่ปกติจนขาดความเที่ยงธรรม จนทำให้วัตรปฏิบัติก่อให้เกิดความเสื่อมจนพระทำอะไรคนคลางแคลงใจกันเสมอ ไม่เว้นเรื่องขอพระราชทานสมณศักดิ์ให้แก่พระสงฆ์ด้วยกัน พระที่ควรได้ก็ไม่ได้ ที่ไม่ควรได้ยังได้ (แน่นอนว่า แต่ละครั้งอาจจะมีไม่กี่ตำแหน่งที่ไม่ปกติแต่ก็กัดกร่อนความเลื่อมใสนับถือลง)

แม้แต่ปีนี้พระที่มีประวัติคนไม่นับถือ เคยถูกเดินขบวนขับไล่จากญาติโยมจนต้องย้ายวัดย้ายจังหวัด มาอยู่วัดใหม่จังหวัดใหม่ผู้คนไม่นับถือได้รับการเลื่อนตำแหน่งเลื่อนสมณศักดิ์จากพระผู้ปกครองอยู่ตลอด  การเลื่อนสมณศักดิ์เพราะเสน่หาโดยไม่มีผลงานอะไร ที่ปรากฏให้เห็นอยู่เนืองๆ เหล่านี้คงเป็นการบ้านให้คณะสงฆ์ได้ขบคิดว่าจะให้เป็นสิ่งที่บั่นทอนความมั่นคงของคณะสงฆ์ต่อไปหรือจะแก้ไขอย่างไร อย่างนี้ก็เป็นเหตุให้คณะสงฆ์เสื่อมในความรู้สึกของชาวบ้านทั่วไป