สสส.เปิด100ชุมชนปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ
สสส.เปิด 100 ชุมชนจักรยานเพื่อสุขภาวะ ดึงอปท.-แกนนำท้องถิ่นร่วมสร้างชุมชนที่เป็นมิตรต่อคนใช้จักรยาน หวังตอบโจทย์เป้าหมายคนไทยออกกำลังกาย 80% ภายในปี 64
สสส.เปิด 100 ชุมชนจักรยานเพื่อสุขภาวะ ดึงอปท.-แกนนำท้องถิ่นร่วมสร้างชุมชนที่เป็นมิตรต่อคนใช้จักรยาน หวังตอบโจทย์เป้าหมายคนไทยออกกำลังกาย 80% ภายในปี 64
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.59 ที่โรงแรมรามาการ์เด้น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับชมรมจักรยานเพื่อสุขภาวะ เปิดตัวโครงการชุมชนจักรยานเพื่อสุขภาวะ 100 พื้นที่ โดย ทพ.ศิริเกียรติ เหลียงกอบกิจ ผู้อำนวยการสำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม สสส. กล่าวว่าชุมชนคือฐานสำคัญในการจัดการระบบสุขภาวะของประเทศ เพราะการจัดการระบบสุขภาวะของชุมชนโดยคนในชุมชนที่ร่วมมือกันจะเป็นการจัดการที่ยั่งยืน ในปีที่ผ่านมา สสส.ได้เปิดโอกาสให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชนที่สนใจได้ดำเนินโครงการสนับสนุนการใช้จักรยานในชีวิตประจำวัน ในพื้นที่กว่า 70 ชุมชนทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพดี ประหยัดรายจ่าย ประหยัดพลังงาน รักษาสิ่งแวดล้อม และสร้างสังคมที่ดี ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก ในปีนี้จึงเปิดโอกาสให้ชุมชนที่สนใจ 100 ชุมชน ร่วมกันสร้างชุมชนที่เป็นมิตรต่อคนใช้จักรยาน และเป็นการตอบโจทย์เป้าหมายของประเทศในการเพิ่มกิจกรรมทางกายของคนอายุ 11 ปีขึ้นไป ไม่น้อยกว่า 80% ภายในปี 2564
ศ.กิตติคุณ ดร.ธงชัย พรรณสวัสดิ์ ประธานชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สัดส่วนการใช้จักรยานในประเทศไทยมีรูปแบบเป็น “สามเหลี่ยมปิรามิด” ส่วนยอดของปิรามิดคือ นักแข่งจักรยาน จำนวน 1,000 คน ตามด้วยนักปั่นจักรยานที่มีอุปกรณ์พร้อมจำนวน 100,000 คน ส่วนอีก50 ล้านคนคือชาวบ้านทั่วไป การทำงานจึงมุ่งแก้ที่ฐานปิรามิดคือคน 50 ล้านคน ซึ่งปัจจัยที่จะส่งผลให้เกิดเมืองหรือชุมชนที่เป็นมิตรต่อคนใช้จักรยานที่ประสบผลสำเร็จ มี 4 ปัจจัย คือ ผู้นำท้องถิ่นร่วมสนับสนุน ชุมชนขานรับ หน่วยงานภาครัฐเห็นดี และภาคีใส่ใจ เพื่อสนับสนุนสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการใช้จักรยาน เช่น การติดป้ายใช้ความเร็วไม่เกิน 30 ก.ม./ชม. การมีลูกระนาดในย่านโรงเรียน ตลาด ทำให้ผู้ใช้จักรยานรู้สึกถึงความปลอดภัย การออกเทศบัญญัติกำหนดเส้นทางจักรยานโดยเฉพาะ หรือการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการใช้จักรยาน เป็นต้น
สำหรับตัวอย่างการจัดการชุมชนจักรยานเพื่อสุขภาวะที่น่าสนใจ อาทิ “ปั่นจักรยานชมเมือง สะสมแต้มแลกของรางวัล” ชุมชนเทศบาลตำบลบางจัก อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง โดยเทศบาลตำบลบางจัก เชิญชวนให้เกิดการใช้จักรยานในวิถีชีวิตประจำวัน เช่น การปั่นจักรยานไปเทศบาลหรือร้านค้าที่ร่วมรายการ สามารถสะสมแต้มแลกของรางวัลได้ กิจกรรมรณรงค์ปั่นจักรยานทุกวันเสาร์ไปยังแหล่งท่องเที่ยว และนายกเทศมนตรีใช้จักรยานในการตรวจงานช่าง จนมีคำพูดในชุมชนที่ว่า “หากนายกฯปั่นยังลงหลุม แสดงว่างานไม่ได้มาตรฐาน” ส่วนเทศบาลตำบลหนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีกิจกรรม“พลังเด็กเยาวชนนักปั่น เก็บขยะชุมชน” ซึ่งเยาวชนจะได้แต้มความดีสะสมในธนาคารความดี และเทศบาลยังให้การสนับสนุนการซ่อมจักรยานของชุมชน เป็นต้น