นปช.ขอนแก่นยุติเปิดศูนย์ปราบโกงหลังจนท.เข้าเจรจา
นปช.ขอนแก่น ยุติตั้งศูนย์ปราบโกง หลังเจ้าหน้าที่เข้าเจรจาฯ พร้อมตรึงกำลังเข้มโดยรอบพื้นที่ หวั่นเกิดความรุนแรงและฝืนคำสั่ง คสช.
นปช.ขอนแก่น ยุติตั้งศูนย์ปราบโกง หลังเจ้าหน้าที่เข้าเจรจาฯ พร้อมตรึงกำลังเข้มโดยรอบพื้นที่ หวั่นเกิดความรุนแรงและฝืนคำสั่ง คสช.
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. เวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณอาคารเลขที่ 670/90 โครงการพัฒนาสแควร์ ถ.กลางเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น นายปิยิน ตลับนาค นายอำเภอเมืองขอนแก่นและ พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี หัวหน้าชุดปฎิบัติการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่ขอนแก่น (กกล.รส.ภ.จว.ขอนแก่น) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังมีการยืนยันจากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จกาลแห่งชาติ หรือ นปช. ในการจัดตั้งเป็นศูนย์ปราบโกงประชามติ ประจำ จ.ขอนแก่น โดยมีกำหนดการเปิดศูนย์ฯพร้อมกันทั่วทั้งประเทศวันนี้
เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ไปถึงพบว่า อาคารพาณิชย์เลขที่ดังกล่าวเป็นอาคาพาณิชย์ 2 ชั้น มีการปิดประตูไว้อย่างมิดชิด แต่บริเวณด้านหน้าอาคารมีรถยนต์กระบะจอดอยู่ โดยภายในมีอุปกรณ์สำหรับการจัดเตรียมเพื่อที่จะทำการเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติอยู่ ทำให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าเจรจาร่วมกับแกนนำ กลุ่ม นปช.ที่กำลังจะเตรียมการให้ยุติการดำเนินงานในภาพรวมทั้งหมด พร้อมทั้งตรวจสอบเอกสารสัญญาการเช่าอาคารดังกล่าว โดยพบว่าผู้ที่ทำการเช่านั้นคือนายพุทธิพงษ์ คำแหงพล แกนนำ กลุ่ม นปช.ขอนแก่น และเป็นคณะกรรมการร่วมศูนย์ปราบโกงประชามติ ของ ทาง กกต. โดยทำการเช่าเพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์ปราบโกงประชามติ ประจำจังหวัดและมีกำหนดการเปิดทำการอย่างเป็นทางการภายในวันนี้ พร้อมกันกับศูนย์ฯต่างๆทั่วทั้งประเทศ
พ.ท.พิทักษ์พล กล่าวว่า กำลังเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบหลังมีความชัดเจนว่าอาคารดังกล่าวมีการเตรียมการที่จะจัดตั้งเป็นศูนย์ปราบโกงประชามติ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา หัวหน้าส่วนราชการใน จ.ขอนแก่น แม้กระทั่ง มทบ.23 ได้รับหนังสือเชิญจาก ศูนย์ประสานงานคณะกรรมการร่วมปราบโกงประชามติ ในการเชิญร่วมเปิดศูนย์ประสานงานฯอย่างเป็นทางการ กำลังเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่ายจึงลงพื้นที่ตรวจสอบและติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง และวันนี้มีการคุมเข้มเพื่อไม่ให้การดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยและ คสช.อย่างชัดเจนหากมีการลงมือทำจริง โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าหารือกับระดับแกนนำ เพื่อหาข้อยุติ โดยได้ข้อสรุปในการยกเลิกการดำเนินกิจกรรมต่างๆไม่ว่าจะเป็นการระดมมวลชนหรือการตั้งศูนย์ปราบโกงในพื้นที่ และมีการนำอุปกรณ์ต่างๆที่เตรียมมาไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ โต๊ะ กระติ๊กน้ำแข็งหรือป้ายต่างๆกลับไปทั้งหมด โดยไม่มีการดำเนินกิจกรรมใดๆที่ขัดต่อคำสั่ง คสช.หรือฝ่าฝืนกฎหมาย โดยเฉพาะความผิดตามที่ กกต.ว่าด้วยการลงประชามติ แต่อย่างใด
"กำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย มีการตั้งจุดตรวจ ในถนนทั้ง 2 เส้นทาง ก่อนถึง อาคารดังกล่าวประมาณ 300 เมตรเพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวและสิ่งผิดปกติในด้านต่างๆ ขณะเดียวกันกำลังอีกส่วน ยังคงสนธิการทำงานร่วมกันประจำโดยรอบอาคารเพื่อกันไม่ให้เกิดความรุนแรงหรือการดำเนินการที่ฝ่าฝืนกฎหมาย พร้อมทั้งมีการประสานงานร่วมกับแกนนำที่จะมาดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปราบโกงดังกล่าว ซึ่งทุกฝ่ายก็ให้ความร่วมมืออย่างดีและการเจรจาร่วมกันได้ผลมีการยุติการจัดตั้งศูนย์ปราบโกงในพื้นที่อย่างเด็ดขาด รวมทั้งความเคลื่อนไหวในด้านต่างๆ แต่ถึงอย่างไรหากพบการเคลื่อนไหวที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. โดยเฉพาะการรวมตัวกันทางการเมืองเกินกว่า 5 คน หรือการากระทำผิด ตามกฎหมาย กกต.ว่าด้วยการลงประชามติ เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด"
นายพุทธิพงษ์ คำแหงพล แกนำ กลุ่ม นปช.ขอนแก่น กล่าวว่า การดำเนินการในวันนี้เป็นการเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ พร้อมกันกับ กลุ่ม แนวร่วม นปช.ทั้งประเทศ ซึ่งขอนแก่น ได้เลือกใช้พื้นที่อาคารดังกล่าวเป็นจุดประสานการทำงานและดำเนินงาน ร่วมกันกับแกนนำ นปช.ส่วนกลางและในระดับพื้นที่ โดยวันนี้จะมีการทำบุญอาคาร และรวมตัวกันเพื่อกำหนดทิศทางและหารือร่วมกันว่าด้วยการกระตุ้นให้คนขอนแกนออกมาใช้สิทธิ์ลงประชามติในวันที่ 7 ส.ค.ที่กำลังจะมาถึง และการดำเนินงานเพื่อตรวจสอบการกระทำผิดของหน่วยงานต่างๆ ซึ่งแกนำ นปช.ในระดับอำเภอจากทั้ง 26 อำเภอ จะมารวมตัวกันวันนี้รวมกว่า 50 คนแต่มาถูกเจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายหรือการดำเนินงานดังกล่าวเสียก่อน
"เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่มารวมตัวกันเพื่อขอเจรจาไม่ให้มีการดำเนินการดังกล่าวขึ้น จึงได้มีการหารือกันของแกนนำ นปช.ในระดับพื้นที่ รวมทั้ง นปช.ส่วนกลาง จนได้ข้อสรุปและข้อยุติที่ตรงกันทุกฝ่ายคือการยุติการตั้งศูนย์ปราบโกง ที่ขอนแก่น และจบโครงการดังกล่าวไปในพื้นที่ ส่วนความเคลื่อนไหวต่างๆอย่างไรนั้นต้องมีการหารือร่วมกับแกนำทุกระดับอีกครั้ง เพราะขณะนี้เข้าสู่ช่วงใกล้ถึงวันลงประชามติแล้ว ทั้งนี้ศูนย์ปราบโกงดังกล่าวไม่ได้ยุ่งเกี่ยวทางการเมือง แต่เป็นการทำงานเพื่อส่วนร่วมและกระตุ้นให้คนขอนแก่นมาใช้สิทธิ์ออกเสียง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเข้าใจในข้อเท็จจริงบ้าง"