คนขับรถตู้ร้องทหารช่วย ระบุถูกมาเฟียเรียกเก็บค่าวิน

กลุ่มคนขับรถตู้สายเทคโนฯลาดกระบัง-อนุสาวรีย์ชัยฯ ร้องทหารเข้าช่วยเหลือ หลังเจอผู้มีอิทธิพลเรียกเก็บค่าวิน

เมื่อวันที่ 21 ก.ค. กลุ่มคนขับรถตู้สาย ต.156 ที่วิ่งระหว่างสถานบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง-อนุสาวรีย์ และสายอื่นๆ จำนวน 35 คน ที่ได้รับความเดือดร้อนหลังจาก คสช.ประกาศจับรถตู้ที่วิ่งผิดเส้นทาง เดินทางเข้ายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือกับทหารชุดรักษาความสงบ ที่ดูแลในเขตพื้นที่ลาดกระบัง ที่ประจำการอยู่ที่กองบังคับการคุมควบคุมชั่วคราว ภายในสำนักงานการบริหารก่อสร้าง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยมี ร้อยตรี นิมิต จันทร์ชาญ ผู้บังคับหมวด กองร้อยรักษาความสงบ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 12 รักษาพระองค์ เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือดังกล่าว พร้อมร่วมพูดคุยกับกลุ่มคนขับรถตู้เพื่อหาแนวทางแก้ไข

นายนที สมนึก ตัวแทนกลุ่มคนขับรถตู้ที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า หลังทางทหารได้จัดประชุมและกำหนดจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะให้ถูกต้องแต่ปัจจุบันทางเจ้าของวินที่พวกตนสังกัดอยู่ได้ออกมาแจ้งว่า ไม่สามารถดำเนินการเรื่องเอกสารที่ถูกต้องให้กับรถตู้ที่เหลืออยู่ได้ โดยใครทีไม่ถูกต้องก็ให้กลับไปวิ่งวินเดิม ซึ่งพวกตนมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะตั้งแแต่ 2 ปีที่เข้ามาวิ่ง ทางเจ้าของได้เรียกเก็บค่าเบอร์จำนวน 300,000 บาท รวมทั้ง ค่าจอดรถรายเดือน 5,400บาท และค่ารายวันอีก วันละ 180 บาท หากวันไหนไม่ได้วิ่งก็ต้องจ่ายเหมือนเดิม ซึ่งทางเจ้าขอวินก็ระบุแบบให้ความหวังกับพวกตนมาโดยตลอดว่าจะดำเนินการด้านเอกสารในการย้ายเส้นทางวิ่งให้ถูกต้องได้อย่างแน่นอน แต่พอมาถึงวันนี้กลับบอกว่า ทำให้ไม่ได้แล้วและไม่รับผิดชอบใดๆ ทำให้ตอนนี้บางคันถูกจับเนื่องจากวิ่งผิดเส้นทาง  พวกตนจึงรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้รวมตัวพากันเดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมในครั้งนี้

ด้าน ร.ต. นิมิต จันทร์ชาญ ผบ.มว.ร้อย.รส.ป.พัน12รอ. กล่าวว่า จากการพูดคุยถึงความเดือนร้อนของกลุ่มคนขับรถตู้แล้ว พบว่าพฤติกรรมของหัวหน้าวิน เข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล เพราะบังคับให้รถตู้สาย ต.อื่นๆที่มีเส้นทางอยู่แล้วมาร่วมวิ่ง ทั้งที่รู้ว่าผิดเส้นทาง และมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกินความจำเป็น และถึงแม้วันนี้บุคคลที่เคยเป็นหัวหน้าวินจะลาออกจากจากการเป็นหัวหน้าคุมวินแล้ว ก็จะต้องเชิญตัว มาพูดคุย ในวันที่ 22 ก.ค.ที่ สน.จระเข้น้อย ส่วนแนวทางการให้การช่วยเหลือนั้น ตนจะต้องนำเรื่องราวดังกล่าวไปนำเสนอต่อผู้บังคับบัญชา และขสมก.อีกครั้ง เพราะคนขับรถตู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้  ปฏิบัติตามกฎหมายมาโดยตลอด เพียงแต่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะถูกผู้มีอิทธิพลบังคับให้ทำผิดกฎหมาย