posttoday

หุ้นไทยปิดร่วง -12.46 จุด สัปดาห์หน้าลุ้นรีบาวด์ต้านสำคัญ 1,389-1,410 จุด

20 ธันวาคม 2567

แรงขายหุ้นใหญ่ TOP กดหุ้นไทยปิดร่วง 12.46 จุด โบรกคาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้ามีโอกาสรีบาวด์สั้น ลุ้นต้านสำคัญ 1,389 - 1,410 จุด แนวรับ 1,350 - 1,330 จุด

KEY

POINTS

  • แรงขายหุ้นใหญ่ TOP กด SET ปิดร่วง 12.46 จุด
  • หุ้นไทยสัปดาห์หน้ามีโอกาสรีบาวด์สั้น ลุ้นต้านสำคัญ 1,389 - 1,410 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดการซื้อขายวันนี้(20 ธันวาคม 2567) อยู่ที่ 1,365.07 จุด ลดลง -12.46 จุด คิดเป็น -0.90% มูลค่าการซื้อขาย 60,167.64 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,379.91 จุด และลดลงต่ำสุด 1,361.34 จุด 

หุ้นไทยปิดร่วง -12.46 จุด สัปดาห์หน้าลุ้นรีบาวด์ต้านสำคัญ 1,389-1,410 จุด

5 หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด ดังนี้

1. CPALL ปิดที่ 53.50 บาท ลดลง 1 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,755.81 ล้านบาท

2. BDMS ปิดที่ 23.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,734.71 ล้านบาท

3. DELTA ปิดที่ 149.50 บาท ลดลง 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,230.86 ล้านบาท

4. TOP ปิดที่ 27.25 บาท ลดลง 7.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,219.87 ล้านบาท

5. PTT ปิดที่ 31 บาท ลดลง 0.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,455.01 ล้านบาท

บทวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุว่า SET Index ลดลง 12.46 จุด มี FTSE Rebalance (จำนวนหุ้นปรับลง 382 บริษัท, หุ้นปรับขึ้น 131 บริษัท) จากแรงขายหุ้น TOP รวมถึงหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากโครงการ CFP ของ TOP อาทิ GPSC และ กลุ่มธนาคาร กังวลปล่อยกู้ให้ TOP โดยมี Sector ที่ปรับลงกดดัชนี คือ กลุ่ม Energy (TOP, PTT, PTTEP), กลุ่มขนส่ง (AOT), กลุ่มธนาคาร (KTB, SCB, KBANK) ส่วน Sector ที่ปรับขึ้น คือ โรงพยาบาล (BDMS, BH)

หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ

TOP (-22.14%) กังวลโครงการ CFP มี Cost Overrun หลังบริษัทแจ้งตลาดฯ ใส่เงินลงทุนในโครงการ CFP เพิ่มอีก 8 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 30-40% ของเงินลงทุนเดิม และมีความเสี่ยงที่โครงการดังกล่าวจะล่าช้าออกไปอีก 3 ปี ส่งผลให้มี Downside ต่อคาดการณ์กำไรสุทธิของ TOP ในปีหน้าและอีก 2-3 ปีถัดไป เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงดังกล่าวนักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของเราออกบทวิเคราะห์แนะนำให้ “ขาย” ในช่วงเช้าที่ผ่านมา

GPSC (-6.83%) มีผลกระทบร่วมกับ TOP เนื่องจาก GPSC เข้าลงทุนในหน่วยผลิตไฟฟ้า ERU เพื่อขายไฟฟ้าและไอน้ำให้กับโครงการ CFP ของ TOP เมื่อโครงการดังกล่าวล่าช้าออกไปอีก 2-3 ปี ย่อมกระทบคาดการณ์กำไรของ GPSC อย่างเลี่ยงไม่ได้

HMPRO (+3.93%), CRC (+0.74%), Outperform ตลาดนักลงทุนเข้าเก็งกำไรดักทาง ครม. พิจารณาอนุมัติมาตรการ Easy e-Receipt ในสัปดาห์หน้าเป็นบวกต่อยอดขายของบริษัทในกลุ่มค้าปลีกโดยเฉพาะกลุ่มบริษัทที่มียอดขายต่อบิลสูง อาทิ CRC HOMPRO 

BCP (+3.36%) ราคาร่วงสะท้อนข่าวลบประเด็น ESG และหลุดดัชนี SET50 ไปแล้ววันนี้คาดว่าจะได้ผลบวกจากการย้ายเงินลงทุนจากหุ้น TOP ที่มีประเด็นลบเฉพาะตัว และพักเงินในกลุ่มธุรกิจที่ใกล้เคียงกันคือ BCP

TIDLOR (+2%) ปรับขึ้นรับข่าวปันผลระหว่างกาล เช้านี้นักวิเคราะห์ของเราออกบทวิเคราะห์มีมุมมอง slightly positive จากข่าวจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล (1 ม.ค. – 30 ก.ย. 2024) เป็นเงินสด 0.438 บาทต่อหุ้น ให้ Dividend yield 3% มีกำหนดขึ้น XD 3 ม.ค. และจ่ายปันผล 17 ม.ค. 2025

ลงลึกตามคาด มีโอกาสลุ้นรีบาวด์

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า กราฟ SET สัปดาห์นี้ลงต่อเนื่องเกินกว่าระดับแนวรับที่คาดไว้ในตอนแรกทั้ง 1,421 / 1,410 จุด สะท้อนการลงแรงเกินจริง จน RSI เข้าโซน Oversold อีกครั้งในรอบหลายเดือน บวกกับการลงลึกมาปิด Gap ที่เปิดไว้บริเวณ 1,365 จุดตามคาด หุ้นไทยสัปดาห์หน้า(วันที่ 23-27 ธ.ค.2567)จึงมีโอกาสระยะสั้นอาจเกิดการรีบาวด์ขึ้นได้ โดยมีแนวต้านสำคัญแถว 1,389 / 1,410 จุด ส่วนแนวรับ 1,350 / 1,330 จุด

หุ้นเทคนิคแนะนำ หุ้น IVL กราฟประคองตัวได้ดีและมีทิศทางเป็นบวกชัดเจน สวนทางกับดัชนีหลักมองมีโอกาสฟื้นตัวต่อและหากผ่านแนวต้านสำคัญ 27 / 28.25 บาทได้จะกลายเป็นขาขึ้น แนวต้าน 27 / 28.25 บาท แนวรับ 25.50 / 25 บาท

หุ้น PRM กราฟลงแรงแต่ไม่เสียโมเมนตัมขาขึ้นสะท้อนถึงโอกาสดีที่ซ่อนอยู่ในการลุ้นฟื้นตัวต่อเนื่องโดยมีแนวต้านบริเวณ 9.20 บาทเป็นเป้าหมายสำคัญ แนวรับ 8.25 / 8.15 บาท แนวต้าน 8.60 / 8.90 / 9.20 บาท