เมืองซามูไร Aizu 4
ด้านข้างของปราสาทมีที่เที่ยวอีกแห่งที่น่าสนใจคือ สวนสมุนไพร Oyakuen ซึ่งแต่เดิมตรงนี้เป็นที่ที่มีน้ำพุร้อน
ด้านข้างของปราสาทมีที่เที่ยวอีกแห่งที่น่าสนใจคือ สวนสมุนไพร Oyakuen ซึ่งแต่เดิมตรงนี้เป็นที่ที่มีน้ำพุร้อนผุดขึ้นมาและมีสรรพคุณในการบำบัดโรค จึงมีชาวบ้านแวะเวียนมาใช้น้ำอย่างสม่ำเสมอ จนในปี ค.ศ.1432 ท่านโมริฮิสะ อะชินะผู้ครองแคว้น ไอสึได้สร้างเรือนพักไว้ที่ด้านข้างบ่อน้ำพุและให้ชื่อว่าโอยะคุเอง หลังจากนั้นญี่ปุ่นก็เกิดสงครามกลางเมืองเรื่อยมาจนเป็นเหตุให้โอยะคุเองไม่ได้ถูกใช้งานกว่า 200 ปี จนกระทั่งท่าน Matsudaira ได้ปกครองแคว้นไอสึและทราบเรื่องราวของที่นี่ จึงบัญชาให้ฟื้นฟูโอยะคุเองขึ้นใหม่ให้เป็นแหล่งพักพิงของผู้อพยพ และเริ่มปลูกสมุนไพรเพื่อใช้ประกอบการดูแลสุขภาพและรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้กับชาวบ้าน ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง
ความนิยมโสมก็เริ่มแพร่เข้าสู่ประเทศญี่ปุ่น ทางโอยะคุเองจึงได้ทดลองปลูกโสมและประสบความสำเร็จ จนทำให้โสมเป็นที่แพร่หลายในแคว้นไอสึและภูมิภาคโทโฮคุ ผลผลิตก็มากจนสามารถส่งไปจำหน่ายยังประเทศจีน ทำให้ชื่อเสียงของโอยะคุเองเป็นที่ร่ำลือ มีลูกศิษย์ลูกหามาร่ำเรียนวิชาสมุนไพรไม่ขาดสายปัจจุบัน Oyakuen กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวพักผ่อนหย่อนใจ เหมาะจะมาเดินเล่นชมสวนที่โดดเด่นจากการผสมผสานสิ่งปลูกสร้างและแปลงสมุนไพรแฝงไปกับธรรมชาติดั้งเดิมอย่างบ่อน้ำพุและต้นไม้ใหญ่ได้อย่างกลมกลืน หรือจะทดลองเข้าร่วมพิธีชงชา ที่นี่ก็มีให้บริการด้วยเหมือนกัน
ชมปราสาทและเรือนพักของผู้ครองแคว้นแล้ว คราวนี้ลองไปชมบ้านพักของซามูไรกันบ้าง คำเฉพาะในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Bukeyashiki ซึ่งยังคงมีหลงเหลืออยู่หลายแห่ง บ้านพักซามูไรของเมืองไหนหรือย่านไหน ก็จะเติมชื่อเมืองชื่อย่านไปข้างหน้า เช่น Chiran Bukeyashiki ที่จังหวัดคาโกะชิมะ Nagamachi Bukeyashiki ในเมืองคานะซาวะ Kakunodate Bukeyashiki จังหวัดอาคิตะ เป็นต้น ซึ่งโดยมากซามูไรมักจะอยู่ในพื้นที่ของเขา ชาวบ้านก็อยู่ย่านของตนไม่ปะปนกัน เพราะในอดีตสังคมญี่ปุ่นก็มีการแบ่งชนชั้นเหมือนกันกับหลายๆ ประเทศ โดยมีซามูไรหรือนักรบอยู่ชั้นบนสุด ตามด้วยชาวนาชาวไร่เป็นลำดับที่สอง ช่างฝีมือเป็นลำดับถัดมา โดยมีพ่อค้าอยู่ล่างสุด ที่เป็นเช่นนี้เพราะไล่ตั้งแต่เจ้าเมืองลงมาจะมีตำแหน่งควบคู่ไปกับพื้นที่ ดังนั้นจึงต้องมีผู้ที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากพื้นที่ซึ่งก็คือชาวไร่ชาวนา
ตามด้วยผู้สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตก็คือช่างฝีมือ ส่วนพ่อค้าผลิตอะไรเองไม่ได้เลยต้องไปรั้งท้าย ย่านบ้านซามูไรมักอยู่ไม่ไกลจากจวนเจ้าเมืองหรือปราสาท เพราะจะได้เรียกใช้สะดวกและเป็นปราการด่านในไปด้วย โดยจะมีพื้นที่ใหญ่โต เพราะไม่ได้อยู่ลำพังครอบครัว แต่ต้องมีผู้รับใช้รวมไปด้วย อย่างที่ Aizu Bukeyashiki นี่จะเห็นชัดเจนเพราะเป็นบ้านของซามูไรคนสำคัญชื่อท่าน Saigo Tanomo ในเรือนของท่านไซโกะมีแสดงหุ่นจำลองภายในห้องรับรอง ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าส่วนของผู้เป็นนายจะมีลวดลายที่วิจิตรบรรจงกว่าส่วนของผู้ติดตาม และมีลายเส้นขีดแบ่งพื้นที่ออกจากกันชัดเจน เพดานจะไม่สูงมากและมีคานต่ำเป็นระยะ เป็นกุศโลบายในการออกแบบเพื่อให้ยากต่อการจู่โจมโดยใช้ดาบเพราะยกสูงก็ติดคานหรือเพดาน ด้านหลังมีห้องน้ำของเจ้าบ้านที่มีลักษณะเด่นคือไม่มีหลังคา คล้ายกล่องสี่เหลี่ยมที่มีส้วมหลุมอยู่ตรงกลาง เพื่อป้องกันศัตรูแอบเข้ามาลอบทำร้ายในระหว่างนั่งคลายทุกข์ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นคงตายอย่างอนาถ
ปีกถัดไปเป็นที่พักของบรรดาบริวาร ห้องหญิงรับใช้ก็แบ่งระดับชัดเจน หัวหน้าหญิงรับใช้จะมีห้องส่วนตัวในขณะที่ลูกน้องต้องอาศัยรวมในห้องเดียวกัน อาคารด้านข้างเป็นห้องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่เช่นเกี้ยว รวมทั้งยุ้งฉางที่ทันสมัยมีเครื่องตำข้าวที่ใช้กลไกจากระหัดวิดน้ำ เห็นแล้วยังทึ่ง แอบเชียร์กันตรงๆ บ้านซามูไรที่ไอสึนี่มีอะไรให้ดูเยอะ ดูแล้วได้ความรู้ความเข้าใจในวิถีชีวิตของซามูไรมากขึ้น
คนชอบเรื่องซามูไร ต้องมาดูให้ได้ครับ