“บิ๊กป้อม” ป้อง “บิ๊กติ๊ก” ไม่มีความทะเยอทะยาน
“พล.อ.ประวิตร” ป้อง “ปลัดกลาโหม” ไม่มีความทะเยอทะยาน เชื่อกรณีฝาย"แม่ผ่องพรรณพัฒนา"ชาวบ้านเต็มใจทำให้ แย้ม ได้ชื่อ คปต.แล้ว
“พล.อ.ประวิตร” ป้อง “ปลัดกลาโหม” ไม่มีความทะเยอทะยาน เชื่อกรณีฝาย"แม่ผ่องพรรณพัฒนา"ชาวบ้านเต็มใจทำให้ แย้ม ได้ชื่อ คปต.แล้ว
วันที่ 20 ก.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีแทนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่อยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 71 ที่สหรัฐอเมริกา โดยพล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมถึงเสียงวิจารณ์การสร้างฝายกันน้ำที่ใช้ชื่อ "แม่ผ่องพรรณพัฒนา" ซึ่งเป็นชื่อของ นางผ่องพรรณ จันทร์โอชา ภริยา พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหมว่า เรื่องนี้ตนไม่ได้มีการพูดคุยกับพล.อ.ปรีชา และเขาไม่ได้มีความทะเยอทะยาน อยากเป็นใหญ่เป็นโต มองว่าคนอื่นทำให้ทั้งนั้น เมื่อถามว่าการที่พล.อ.ปรีชาเป็นน้องนายกฯ ต้องระวังอะไรพิเศษหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า หากไม่ใช่น้องนายกฯ คงไม่เป็นข่าว จึงต้องระวังเพราะมีคนจ้องดูอยู่เป็นธรรมดา
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงความการตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้จะยังไม่เคาะรายชื่อบุคคล ต้องรอพล.อ.ประยุทธ์ กลับมาก่อน ส่วนคุณสมบัติของคนที่จะมาทำหน้าที่นี้ ต้องมีความรู้ด้านความมั่นคง ซึ่งรายชื่อมีแล้ว และเสนอนายกฯเป็นที่เรียบร้อย แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้
เมื่อถามว่าคนไปทำหน้าที่ดังกล่าวจะเป็นรมช.หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวเพียงสั้นๆว่า "เป็นรัฐมนตรี" พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่มีเหตุระเบิดหลายจุดในโลกว่า ประเทศไทยต้องระวัง และเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น เพราะถ้าไม่เพิ่มคงมีเหตุเกิดขึ้นจำนวนมาก ที่ผ่านมาหน่วยงานด้านความมั่นคงมีการจับกุมผู้กระทำผิดมาก จากนี้ไปต้องดำเนินการกวาดล้างอาวุธที่มีอยู่ไปเรื่อยๆ เพราะส่วนใหญ่เป็นของเก่าที่ประชาชนซื้อมา รวมถึงอาวุธสงครามที่มาจากการสู้รบตามแนวชายแดน