คนไทย 4.0
สำหรับวันนี้ ผมขอพูดถึงเรื่องคนไทย 4.0 และคนไทยไม่ทัน 4.0 ในความคิดของผมนั้น คนไทย 4.0 ในวัยสูงอายุ เช่น
โดย...ทายาท ศรีปลั่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะไนล์
สำหรับวันนี้ ผมขอพูดถึงเรื่องคนไทย 4.0 และคนไทยไม่ทัน 4.0
ในความคิดของผมนั้น คนไทย 4.0 ในวัยสูงอายุ เช่น ผู้ที่มีอายุ 60 ปี ควรมีความรู้ทางด้านวิชาชีพ มีกำลังใจ สร้างเครือข่ายของโอกาสการทำงาน
ขณะที่คนไทย 4.0 ที่มีอายุ 20-30 ปี จะต้องมีความอดทน บากบั่น ในการทำงาน อย่าทำตนให้ขายขี้หน้าคนต่างชาติที่อยู่ในวัยเดียวกัน ที่มีความอดทน สร้างเนื้อสร้างตัวได้เร็ว อีกทั้งมีวุฒิภาวะด้านสังคมและอารมณ์แบบผู้ใหญ่
สำหรับภาพรวมคนไทย 4.0 ต้องเป็นผู้มีความรู้ ความคิด มีทักษะด้านดิจิทัล สร้างตนเองให้เป็น “นักคิด” ที่สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นได้
คนไทย 4.0 ต้องรู้รอบตนเอง รู้จักประเทศไทยและต่างประเทศ เพราะเรื่องโลกาภิวัตน์จะเข้มข้นมากขึ้น
การเชื่อมโยงของโลกในยุคโลกาภิวัตน์ที่มีความเข้มข้นทำให้เรามีโอกาสเผชิญการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและคาดไม่ถึง
ดังนั้น สังคมในอนาคตก็จะเป็นสังคมของการมีส่วนร่วม โดยสังคมจะต้องการการมีส่วนร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่การผลิตสินค้าใดๆ ก็ตาม
หากผู้ซื้อสามารถมีส่วนในการออกแบบ แลกเปลี่ยนไอเดีย สินค้านั้นจะขายสินค้านั้นอย่างไร ในอนาคต องค์กรต่างๆ ทั่วโลกก็จะไม่สามารถดำเนินธุรกิจโดยสนใจเพียงแต่ผลกำไรเพียงอย่างเดียวได้ แต่มีแนวโน้มว่าจะต้องปรับตัวไปสู่องค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม และต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วย
สังคมไทยไม่ว่าจะอยู่ในยุคใด จะเป็นยุค 3.0 หรือ 4.0 “คนไทย 4.0” บางกลุ่มก็ควรละความโลภ “คนไทยไม่ทัน 4.0” ก็ต้องพิจารณาลดจุดอ่อนตนเองลงให้มาก
ด้วยเหตุนี้ผมจึงขอสรุปว่า
บนโลกใบเดียวกัน ทุกคนมีหน้าที่และสิทธิเท่าเทียมกัน
ตั้งแต่โลกยุค 1.0 หมุนวนเป็นหมื่นรอบ จนจะมาเป็น 4.0 “คน” ก็เท่าเทียมกันมาตลอด
คนเรียนเก่งมักจะอ่อนแอกว่าคนเรียนไม่เก่ง คนเรียนไม่เก่งมักจะร่ำรวยกว่าคนเรียนเก่ง
คนขี้เกียจจะจนกว่าคนขยัน คนประหยัดจะมีความมั่นคงด้านฐานะกว่าคนฟุ่มเฟือย
คนจนก็รวยกันถมไป คนรวยก็กลับมาจนแล้วฆ่าตัวตายก็ถมไป
เป็นความยุติธรรมหรือไม่ยุติธรรมของโลกใบนี้หรือไม่ผมไม่รู้
แต่สิ่งนี้เป็น “ความจริง”
เราเปลี่ยนชีวิตของเราเองได้ด้วยปัญญาและความเพียรของตน ก็เป็น “ความจริง” เช่นกัน