ประสบการณ์หลอน! นางแบบสาวเตือนสติ "คนคิดจะทำคาง" เสียโฉมโดยคุณหมอไม่รับผิดชอบ
อุทาหรณ์สอนใจคนคิดจะทำศัลยกรรม นางเเบบสาวท่านหนึ่งถูกคุณหมอยุให้ทำคาง สุดท้ายเกิดติดเชื้อเเละต้องเสียโฉม
อุทาหรณ์สอนใจคนคิดจะทำศัลยกรรม นางเเบบสาวท่านหนึ่งถูกคุณหมอยุให้ทำคาง สุดท้ายเกิดติดเชื้อเเละต้องเสียโฉม
เมื่อวันที่ 21 ส.ค. สังคมออนไลน์ให้ความสนใจกระทู้ในเว็บไซต์พันทิปของสมาชิกหมายเลข "4015786" เป็นเรื่องราวของนางแบบอิสระที่ตัดสินใจศัลยกรรมเสริมคาง ก่อนจะต้องเสียโฉมเเละไม่ได้รับการรับผิดชอบจากทางคลินิก
เธอ เปิดเผยว่า อยากจะเตือนเพื่อนๆ ที่จะทำคาง จากประสบการณ์จริงของตัวเองฝากไว้เป็นอุทาหรณ์
รูปก่อนเสริมคางก่อนนะคะ
หมวยบอกว่า คางในรูปเคยฉีดซิลิโคนเหลวเมื่อประมาณ 12 ปีที่ก่อนเเละไม่เคยมีปัญหา จนเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รุ่นน้องชวนให้ไปช่วยรีวิวคลีนิกที่น้องทำงานอยู่ โดยให้ไปฉีดโบท็อกซ์และถ่ายรูปลงเฟซบุ๊กเพื่อรีวิวให้ จึงตกลงที่จะไปรีวิวให้
"ครั้งแรกที่ไปทำพอเจอหมอที่คลีนิกคุณหมอก็พยายามติจมูกหมวยว่าไม่สวย ให้ทำใหม่ ให้แก้โดยใช้กระดูกหลังหู คุณหมอจะให้ส่วนลด และให้ผ่อนได้แต่หมวยไม่ได้สนใจจะทำ เพราะจมูกเก่าก็ดีอยู่แล้ว"
"ครั้งที่สอง เข้าไปคลีนิกนี้เพื่อไปรีวิวหลังจากที่ฉีดโบท็อกซ์ครบ 1 เดือน ซึ่งก็คือวันที่ 31 มีนาคม วันนี้คุณหมอก็พยายามติเรื่องคางหมวยอีก ว่ามันใหญ่ มันยาว ต้องเอาออกเพราะที่อยู่ในคางก็คือสิ่งแปลกปลอม ถ้าไม่เอาออกก็อาจจะติดเชื้อในวันข้างหน้า และน้องคนที่ชวนมาทำที่คลีนิกนี้เพิ่งเอาออกไปเมื่อวานเนื่องจากติดเชื้อ ทั้งคุณหมอและน้องจึงพูดจาหว่านล้อมให้หมวยแก้คางและจะให้หมวยชำระเงินค่าแก้ 15,000 (คางหมวยไม่มีปัญหาอะไร)"
หมวยเล่าต่อว่า คุณหมอพยายามพูดว่าจะเอาสิ่งแปลกปลอมออก คางตอนนี้ดูไม่สวย ไม่ธรรมชาติ ตนจึงขอดูรูปรีวิวคนที่แก้คาง ขูดสารแปลกปลอมออก แต่ทางคลีนิคบอกไม่มีรูป
"หมวยก็เลยบอกว่าขอคิดดูก่อน เพราะไม่ได้คิดที่จะมาทำศัลยกรรม เข้ามาเพราะคุณหมอเรียกให้มาอัพเดตหน้ากับทำเลเซอร์สลายไขมันหน้าท้อง
หลังจากนั้นคุณหมอก็เรียกให้ขึ้นไปรอบนห้อง หมวยก็เข้าใจว่าขึ้นไปรอทำเลเซอร์สลายไขมัน แต่เมื่อคุณหมอขึ้นมาถึงบนห้องก็เข้ามาทำคางโดยไม่ได้ถามความสมัครใจ มาถึงลงมือฉีดยาชา กรีดเปิดแผลและใช้เครื่องดูดไขมันมากระทุ้งที่คาง ทำแรงและเร็วมาก ทำให้หมวยพูดอะไรไม่ออก เหมือนอาศัยช่วงชุลมุนรีบลงมือทำ หลังจากหมอกระทุ้งผ่านไป 1 ชม. ไม่มีอะไรออกมาเลยนอกจากเลือด เพราะซิลิโคนเหลวที่เคยฉีดเมื่อ 12 ปีที่แล้ว กลายเป็นพังพืดไปหมดแล้ว"
หลังผ่าตัดคางบวมและช้ำมากทันที โชคดีที่น้องพนักงานถ่าย VDO ไว้ พอลงมาจากห้องผ่าตัดไม่พบคุณหมอ พนักงานบอกว่าคุณหมอกลับบ้านไป
น้องพนักงานจึงให้หมวยจ่ายเงินค่าผ่าตัด 15,000 ซึ่งเราก็ไม่ได้เตรียมเงินมาจึงโอนทางมือถือและจ่ายค่ายา 1,000 ก่อนรับยากลับบ้านโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ จากคุณหมอ พนักงานบอกแต่เพียงว่าจะมาฉีดยาลดบวมก็ได้นะ เข็มละ 300 หมวยเลยบอกน้องไปว่าไม่เป็นอะไรปกติเป็นคนที่แผลหายเร็ว เวลาเป็นแผลไม่ค่อยช้ำ
เมื่อทางคลีนิคไม่รับผิดชอบ หมวยจึงตัดสินใจที่จะไปปรึกษาที่จะแก้คางกับคลีนิกแห่งอื่น คุณหมอที่ใหม่บอกว่าคางอักเสบมากและที่คางใหญ่เกิดจากการที่เราไปรบกวนทำให้มันอักเสบและผิดรูป ต้องรีบผ่าตัดแก้ไขก่อนที่เนื้อจะตาย หมวยจึงตัดสินใจแก้อีกครั้ง
ตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้ 5 เดือนแล้ว ที่ต้องคอยวิ่งเข้าออก คลีนิกและโรงพยาบาลแทบทุกวัน งานก็ไม่ได้ทำ ไปไหนก็ต้องใส่แมสปิดหน้าตลอด ความมั่นใจหายไปหมด ถามหาความรับผิดชอบจากหมอก็ไม่มี จึงอยากจะเตือนเพื่อนๆที่คิดจะทำคาง และศัลยกรรมตกแต่งอื่นๆ ให้ศึกษาหาข้อมูลดีๆนะคะ ทั้งข้อมูลของแพทย์และคลีนิกที่จะไปทำ แพทย์ต้องมีความเชียวชาญเป็นแพทย์เฉพาะทางและคลีนิกต้องสะอาดปลอดเชื้อและได้มาตราฐานนะคะ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลา เสียเงิน เสียโฉม และเสียสุขภาพจิตแบบหมวย ประสบการณ์เลวร้ายผ่าตัด 3 ครั้งในเวลา 5 เดือน ติดเชื้ออีก 3 ครั้ง
หลังกระทู้ดังกล่าวถูกเผยเเพร่ออกไป มีคนเข้ามาเเสดงความคิดเห็นจำนวนมาก หลายคนให้กำลังใจเธอให้ผ่านอุปสรรคครั้งนี้ไปให้ได้ ขณะที่อีกหลายคนเเนะนำว่า น่าจะสามารถฟ้องร้องได้เนื่องจากได้รับการผ่าตัดโดยไม่ได้ยินยอม ซึ่งเธอก็ตอบว่า ได้ฟ้องร้องต่อ สคบ. เเล้ว อยู่ระหว่างการดำเนินการของศาล