โรคของนักการเมือง

โดย...แบงก์กลิ้ง

“อโรคยา ปรมา ลาภา” การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ นั้นเป็นเรื่องที่จริงแท้และแน่นอน

เดี๋ยวนี้มักจะมีโรคแปลกๆ เกิดขึ้นกับคนทำงานทำให้เจ็บป่วยไม่สบายจนไม่สามารถทำงานหรือใช้ชีวิตได้เป็นปกติในชั่วขณะที่ป่วย และจะหายได้เมื่อได้รับการบำบัดและรักษาเท่านั้น

โรคยอดฮิตในหมู่คนวัยทำงานเป็นกันทั้งผู้ชายและผู้หญิง นั่นคือโรคบ้านหมุน

โรคบ้านหมุนจะมีอาการเริ่มจากวิงเวียน ไม่สามารถทรงตัวได้ มองอะไรก็หมุนคว้าง เมื่อหลับตาลงแล้วโลกก็ยังไม่หยุดหมุน ไม่ว่าจะนั่งหรือนอน และหากทนต่อการหมุนติ้วในหัวไม่ไหว หากเป็นหนักมากอาจจะทำให้ คลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อออกมาก ลักษณะอาการคือจะเกิดขึ้นในทันทีทันใด อาจจะเป็นอยู่นานกว่า 20 นาที ถึง 2-3 ชั่วโมง อาการนี้มักเป็นรุนแรง แต่ไม่ทำให้หมดสติหรือเป็นอัมพาต เมื่อหายเวียนศีรษะผู้ที่เป็นจะมีความรู้สึกเหมือนเป็นปกติ

โรคบ้านหมุนนี้เป็นชื่อเรียกกันตามอาการ แต่ชื่ออย่างเป็นทางการของโรคนี้คือ “โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน” ที่ทำให้ระบบการทรงตัวของร่างกายในหูชั้นใน ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยรักษาการทรงตัว รักษาการมองเห็นให้คงที่ ควบคุมการเคลื่อนไหวมีปัญหา เป็นโรคที่แรงดันน้ำในช่องหูชั้นในผิดปกติ ของเหลวที่อยู่ภายในส่วนที่เป็นเยื่อหุ้มภายในจะคั่งมาก ทำให้การไหลเวียนไม่สะดวก แรงดันที่เพิ่มขึ้นในหูชั้นในจะขัดขวางการทำงานของกระแสประสาทที่เกี่ยวกับการได้ยินและการทรงตัว ทำให้สูญเสียการได้ยินและความสมดุล จึงทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะขึ้น เมื่อแรงดันมากขึ้นผู้ป่วยจะรู้สึกตึงๆ ในหูข้างที่ผิดปกติ

โรคนี้ไม่มีใครทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดจากอะไร ในกลุ่มที่ทราบสาเหตุจะเรียกว่ากลุ่มอาการมีเนีย ได้แก่ โรคซิฟิลิส หูน้ำหนวก เป็นต้น เพราะฉะนั้นโรคนี้จึงรักษาไม่หายขาด เพียงแต่สามารถรักษาอาการเวียนศีรษะให้หายเป็นปกติได้เท่านั้น อาการผิดปกติอาจเกิดขึ้นกับหูเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ได้ระยะแรกๆ มักเป็นข้างเดียว แต่เมื่อเป็นนานๆ เข้าโอกาสที่หูข้างที่สองจะเป็นร่วมด้วยก็มีมากขึ้น

ต่อมาเป็นอาการหูอื้ออาจจะเป็นชั่วคราวหรือถาวรก็ได้ ถ้าเป็นในระยะแรกๆ จะสูญเสียการได้ยินแค่ชั่วคราว หลังจากหายเวียนศีรษะแล้ว การได้ยินจะกลับมาเป็นปกติ แต่ถ้าผู้ป่วยมีอาการเวียนศีรษะบ่อยๆ หรือเป็นมานาน อาการหูอื้อมักจะเป็นถาวร บางครั้งอาจถึงขั้น
หูหนวกไปเลยก็เป็นได้

ถ้ามีอาการเสียงดังในหูและอาการตึงๆ ภายในหูคล้ายกับมีแรงดัน นั่นก็เป็นเพราะเกิดแรงดันของน้ำอาการของโรคน้ำในหูไม่เท่ากันนี้อาจเป็นได้ตลอดเวลา หรือเป็นเฉพาะขณะที่เวียนศีรษะ

ไม่เพียงโรคน้ำในหูไม่เท่ากันที่ทำให้การทรงตัวผิดปกติเท่านั้น แต่ก็มีสิ่งอื่นที่ทำให้อาการของโรคกำเริบขึ้นมาได้  เช่น อาการติดเชื้อในโพรงหูชั้นใน อาการเครียด พักผ่อนน้อย ความดันโลหิตสูง ฯลฯ ซึ่งแต่ละคนอาจจะมีส่งบ่งชี้ในการแสดงอาการที่แตกต่างกัน

โรคนี้บั่นทอนชีวิตและสุขภาพจิตพอสมควร เพราะเมื่อเป็นแล้วจะทำอะไรไม่ได้เลย แม้จะลุกขึ้นเดินเหินไปปฎิบัติภารกิจส่วนตัวก็ยังไม่ไหว เข้าข่ายช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องอาศัยการนอนพักอย่างเดียวนอนให้กลับตื่นขึ้นมาอาการก็จะทุเลาลง

แต่หากมีอาการหนักอาจจะต้องใช้ยาในการรักษาควบคู่ไปด้วย ยาที่รักษาโรคกลุ่มนี้มักจะเป็นยาที่ช่วยขยายหลอดเลือดในสมองที่จะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ซึ่งควรกินเมื่อมีอาการเท่านั้น ยาขับปัสสาวะเพื่อลดสภาวะอาการบวมและคั่งของน้ำในหูชั้นใน 

ส่วนการป้องกันไม่ให้เกิดโรคก็จะต้องรักษาร่างกายให้แข็งแรง รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร ลดอาหารที่มีรสชาติเค็ม จำกัดการบริโภคเกลือไม่เกิน 2 กรัม หรือประมาณ 1 ช้อนชาเท่านั้น หากยังไม่ดีขึ้นก็ควรที่จะไปรับการรักษาจากแพทย์เพื่อที่จะรับการพิจารณาและทำการผ่าตัด

โรคน้ำในหูไม่เท่ากันถูกพูดถึงมากในช่วงนี้ เพราะเป็นโรคที่อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใช้อ้างต่อศาลในการขอเลื่อนฟังคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าว เมื่อวันที่ 25 ส.ค.นี้  แต่โรคนี้ได้เคยถูก สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรมว.คมนาคม ในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ใช้เป็นเหตุผลขอเลื่อนการชี้แจงต่อศาลในคดีทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด CTX 9000 และระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า และสุดท้ายสุริยะก็หนีคดีไปเช่นกัน ซึ่งคนที่มักจะแจ้งว่าเป็นโรคนี้ส่วนใหญ่จะเป็นนักการเมือง โรคนี้จึงถูกนำมาพูดถึงในเชิงล้อเลียน ทั้งที่เป็นโรคสร้างความทุกข์ให้กับผู้ป่วยอย่างยิ่ง