จัดโปรแกรมท่องเที่ยว 14 เทศกาล กระตุ้นเศรษฐกิจ‘หาดใหญ่’

โดย...อัสวิน ภฆวรรณ

2 ปีมาแล้วที่ประเทศมาเลเซียประสบภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งผลกระทบที่ตามมาส่งผลถึงเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภาคใต้ตอนล่าง โดยเฉพาะ “หาดใหญ่” พื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ

ภาณุ วรมิตร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานหาดใหญ่ ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ จ.สงขลา และสตูล เปิดเผยว่า ภาวะธุรกิจการท่องเที่ยว จ.สงขลา ในปี 2561 ไม่ต่างกับปี 2560 ยังไปได้ตามลำดับ โดยมีนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียเดินทางผ่านทางด่าน อ.สะเดา จ.สงขลา ประมาณปีละ 2 ล้านคน

"นักท่องเที่ยวจะนิยมเข้ามาท่องเที่ยวพักผ่อนทุกเทศกาลของวันหยุด นอกจากนั้นภาคราชการของ จ.สงขลา ได้ร่วมกับภาคเอกชนจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริมการขาย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเป็นประจำ โดยจัดเฉลี่ยทุก 2 เดือน บางเดือนมีถึง 2 งานไว้รองรับ”

ผู้อำนวยการ ททท.สงขลา บอกว่า ปัจจุบัน จ.สงขลา มีโรงแรมขยายตัวเพิ่มขึ้น มีห้องพักทั้งหมดประมาณ 2.3 หมื่นห้อง จากเดิม 2.1 หมื่นห้อง ที่เพิ่มขึ้นจะเป็นโรงแรมขนาดไม่ใหญ่ โดยทุกเทศกาลโรงแรมจะเต็มทั้งหมด แต่หลังช่วงเทศกาลห้องพักจะไม่เต็ม ทิศทางธุรกิจการท่องเที่ยวของหาดใหญ่ไม่แตกต่างกันกับปีก่อนหน้านี้ เพราะประเด็นสำคัญคือภาวะเศรษฐกิจของประเทศมาเลเซีย

ด้านผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ มองว่าธุรกิจโรงแรมใน อ.หาดใหญ่ สามารถประกอบการยืนอยู่ได้ เนื่องจากมีการจัดเทศกาลท่องเที่ยวในลักษณะจัดเป็นโปรแกรมท่องเที่ยวกว่า 14 เทศกาลตลอดทั้งปี เช่น เทศกาลปีใหม่ เทศกาลตรุษจีน เทศกาลสงกรานต์ วันแรงงาน เทศกาลฮารีรายอ วิสาขบูชา ฮารีรายอฮัจญ์ เทศกาลกินเจ เทศกาลวิภาวดี วันคริสต์มาส วันชาติมาเลเซีย วันชาติสิงคโปร์

ทั้ง 14 เทศกาล จะมีเทศกาลใหญ่เพียง 3 เทศกาล คือ เทศกาลตรุษจีนสงกรานต์ และฮารีรายอ โดยช่วง 3 เทศกาลดังกล่าวจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาจำนวนมาก จนห้องพักทั้งหมดเต็ม 100% ส่วนเทศกาลท่องเที่ยวอื่นๆ ที่เหลือ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาน้อยกว่า โดยอัตราการเข้าพักจะอยู่ที่ระดับประมาณ 70-90%

ทั้งนี้ โดยเฉลี่ยแล้ว อ.หาดใหญ่ จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวทุกเทศกาลประมาณ 2 หมื่นคน โดยใช้เวลาท่องเที่ยวอย่างน้อยประมาณ 2 วัน มีการใช้จ่ายคนละประมาณ 6,000 บาท/วัน โดยช่วงเทศกาลจะเหมาะสมและนักท่องเที่ยวมีมาก จะต้องตรงกับวันศุกร์ ซึ่งจะได้เป็นวันหยุดยาวเสาร์-อาทิตย์

“ช่วงเทศกาลใหญ่จะทำให้ร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม ห้างสรรพสินค้าคึกคัก มียอดขายสูง อย่างเช่นร้านอาหารบางแห่งจะต้องสั่งอาหารล่วงหน้าถึง 2 วัน คือขนมไทย เช่น ขนมต้ม ข้าวหลาม ฯลฯ และตลอดไปจนถึง เนื้อไก่ เนื้อหมูแช่แข็ง เป็นต้น”

สำหรับช่วงเทศกาลสำคัญที่นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจ โรงแรมทั้งระดับ 4 ดาว 3 ดาว จนถึงระดับ 1-3 ดาว จะเต็มทั้งหมด ส่วนที่เหลือนอกจากเทศกาลใหญ่จะเต็มเฉพาะโรงแรม ระดับ 3 ดาว และ 4 ดาว ส่วนโรงแรมระดับ 1-3 ดาว จะยังมีห้องพักว่าง

ที่สำคัญช่วงเทศกาลสำคัญเหล่านี้ราคาห้องพักจะเป็นราคาปกติซึ่งไม่มีการลด ตั้งแต่คืนละ 1,000 บาท จนถึง 1,700 บาท นอกจากนี้หากเป็นเทศกาลที่มีวันหยุดยาว เช่น ปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์ และฮารีรายอ ก็จะบวกเพิ่มค่าเซอร์วิสชาร์จ 300-800 บาท

ขณะที่บางโรงแรมในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ได้มีกลยุทธ์สอดรับกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โดยจะมีค่าเซอร์วิสชาร์จเช่นเดียวกันกับช่วงเทศกาล แต่ราคาไม่สูง เพียง 200-300 บาท

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการเลือกตั้งและมีรัฐบาลใหม่ที่มี มหาเธร์ โมฮัมหมัด เป็นนายกรัฐมนตรี หลายฝ่ายมีความหวังว่าการเมืองมาเลเซียจะเข้มแข็งและส่งผลต่อการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งอาจต้องรอดูผลจากตัวเลขการท่องเที่ยวหาดใหญ่ในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ไปจนถึงช่วงต้นปีหน้า