กอ.รมน.แจงยังไม่‘เคอร์ฟิว'ชายแดนใต้
กอ.รมน.แจงมีประกาศให้อำนาจ แต่ยังไม่'เคอร์ฟิว'3จชต.-4อำเภอสงขลา
กอ.รมน.แจงมีประกาศให้อำนาจคงมาตรการเพื่อรักษาความสงบในพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร แต่ยังไม่'เคอร์ฟิว'3จชต.-4อำเภอสงขลา
พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(โฆษก กอ.รมน.) ชี้แจงกรณีเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่เรื่องการคงมาตรการเพื่อรักษาความสงบในพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร 9 อำเภอ ของ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างวันที่ 1 ธ.ค. 2562-วันที่ 30 พ.ย. 2563 โดยย้ำว่า เป็นการประกาศใช้พระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ตามมติ ครม. ที่เห็นชอบเมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา หรือพูดง่ายๆคือการต่ออายุการใช้กฎหมายนี้ตามวงรอบออกไปอีก 1 ปี
ส่วนที่มีการเผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 18 แห่ง พ.ร.บ.ความมั่นคงนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่การประกาศเคอร์ฟิวแต่อย่างใด
ด้าน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวย้ำว่า ไม่มีการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของสงขลา ตามที่มีการนำเสนอผ่านสื่อขณะนี้ ส่วนข้อกำหนดตามมาตรา 18 (2) เป็นเพียงการให้อำนาจตามความในมาตรา18 (2) ให้สามารถประกาศเคอร์ฟิวได้ แต่ยังไม่เคยมีการใช้อำนาจนั้น เพราะยังไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องใช้เคอร์ฟิว จึงขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก และเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน
ทั้งนี้เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 18 แห่ง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ระบุว่า ตามที่ได้มีประกาศพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในเขตพื้นที่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี, อ.จะนะ อ.นาทวี อ.เทพา และ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา, อ.เบตง จ.ยะลา และ อ.สุไหงโก-ลก อ.สุคิริน และ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ระหว่างวันที่ 1 ธ.ค.62 ถึงวันที่ 30 พ.ย.63 และมอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการนั้น
เพื่อให้สามารถป้องกัน ควบคุม และแก้ไขเหตุการณ์ในพื้นที่ที่ปรากฏเหตการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรดังกล่าว เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประสิทธิภาพ ผู้อำนวยการ กอ.รมน.โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 พ.ย.62 จึงออกข้อกำหนด ให้เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติการหรืองดเว้นการปฏิบัติการ เพื่อช่วยเหลือหรือสนับสนุนการดำเนินการในอำนาจหน้าที่ของ กอ.รมน.และพนักงานเจ้าหน้าที่ของ กอ.รม.
พร้อมทั้ง ห้ามบุคคลใดเข้าหรือให้บุคคลใดต้องออกจากบริเวณพื้นที่ อาคาร หรือสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของ กอ.รมน. และภายในระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ของ กอ.รมน., ห้ามบุคคลใดออกนอกเคหสถานในเวลาที่กำหนด, ห้ามนำอาวุธออกนอนกเคหสถาน, ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคม หรือการใช้ยานพาหนะ หรือต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ
นอกจากนั้น ให้บุคคลปฏิบัติหรืองดเว้นการปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใดอันเกี่ยวกับเครื่องมือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตามชนิด ประเภท ลักษณะการใช้ภายในบริเวณที่กำหนด เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของประชาชน
ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 1 ธ.ค.62 ถึงวันที่ 30 พ.ย.63