เพื่อไทยเผย ผังทุจริตถุงมือยาง พบคนใกล้ชิดรัฐมนตรีเอี่ยวทุจริต
"ประเสริฐ" ซักฟอก "จุรินทร์" เปิดผังทุจริตถุงมือยาง พบมีการแต่งตั้งคนใกล้ชิดรัฐมนตรีเข้าไปนั่งเป็นประธาน อสค.
วันที่ 18 ก.พ. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายกรณีการจัดซื้อถุงมือยาง มูลค่าความเสียหาย 2,000 ล้านบาท โดยระบุว่าไม่ไว้วางใจให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.พาณิชย์ บริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริต และปกปิดการทำผิดของตนเองและพวกพ้อง
เมื่อ 14 ก.ย.2563 นายกรัฐมนตรี ได้ออกคำสั่งย้าย พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง องค์การคลังสินค้า (อสค.) ไปประจำรัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่ได้ดำเนินการเพิ่มเติม สวนทางกับคำแถลงนโนบายต่อรัฐสภา แม้จะมีกระทู้ถามเรื่องทุจริตถุงมือยาง ก็ไม่มีการยับยั้งการถ่ายเทเงินทุจริต 400 ล้านบาทจากบริษัทการ์เดียนโกลฟส์ จนไม่มีเงินที่จะอายัด ถือเป็นเจ้าพนักงานที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
นายประเสริฐ ระบุว่า กรณี พล.อ.ประยุทธ์ และนายจุรินทร์ ทำสัญญาลวงการซื้อถุงมือยางกับองค์การคลังสินค้า ส่งผลกระทบประเทศชาติอย่างร้ายแรง มูลค่าความเสียหาย 1 แสนล้านบาท และมูลค่าความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว 2,000 ล้านบาท พร้อมกันนี้ยังได้นำผังความเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งบุคคลและเตรียมมอบนโยบายเพื่อมาทำการทุจริต
นายประเสริฐ ระบุอีกว่า จากผังพบกลุ่มบุคคลใกล้ชิดกรณีทุจริตจัดซื้อถุงมือยาง นายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธานกรรมการ อคส. เคยเป็นอดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในปี 2561 และยังเป็นผู้ช่วย ส.ส.ของนายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อีกทั้งนายสุชาติ และนายจุรินทร์ เคยเข้ารับการอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงในปี 2558-2559 แสดงถึงความสัมพันธ์ที่มีระยะเวลายาวนาน
ทั้งนี้ ยังแต่งตั้งนายพีระ ตรีชดารัตน์ พี่ชายของนายสุชาติ เป็นที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ และแต่งตั้งนายสุชาติ เป็นประธาน อสค. เมื่อ 5 พ.ค.2563 และพบว่ามีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ เพราะจากบัญชีทรัพย์สินที่แสดงมีรายได้ปีละ 500,000 บาท มีทรัพย์สิน 170 ล้านบาท มีนาฬิกาหรู 9 เรือน และมีเงินให้กู้ยืม
ประเสริฐ กล่าวถึง พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ว่า ในอดีตเคยทำคดีและเป็นผู้กล่าวหานายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมือง ส่วนนายเกียรติขจร แซ่ไต่ บุคคลนี้เป็นผู้ประสานงานใน อสค. นายศรายุทธ สายคำมี อดีต บก.สายความมั่นคง และยังเป็นคนสนิทประธาน อสค. และสุดท้ายการ์เดียนโกลฟส์ ซึ่งเกี่ยวกับการเบิกเงินซื้อถุงมือยาง
ขณะที่นายสกล กิตติ์นิธิ อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ พบว่าบุคคลและเอกชนมีกระบวนการทุจริตถุงมือยาง โดยบริษัท KRENEX Law เพื่อขอสั่งซื้อถุงมือยางจำนวน 500 ล้านกล่อง ราคากล่องละ 230 บาท จากนั้น อสค. เจรจากับการ์เดียนโกลฟส์ กล่องละ 225 บาท แต่ต้องชำระเงินก่อน 2,000 ล้านบาท และ อสค.ทำสัญญา ให้กับเอกชนจำนวน 7 สัญญา คือ บ.ไทยสไมล์ เทรด จำกัด มูลค่า 11,700 ล้านบาท เมื่อ 25 ส.ค.2563 ราคากล่องละ 225 บาท แต่น่าตกใจ คือ บริษัทดังกล่าวดำเนินการเกี่ยวกับแปรรูปและถนอมผลไม้ ไม่เกี่ยวกับการค้าถุงมือยาง ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท
ส่วนบริษัท Galore Management LLC เป็นบริษัทในต่างประเทศ ไม่มีที่ตั้งบริษัทและไม่ปรากฎผู้มีอำนาจในสัญญา แต่ อสค.ทำสัญญามูลค่า 22,300 ล้านบาท เมื่อ 25 ส.ค.2563 ขณะที่ บริษัท KRENEX Law Offices,PLLC เป็นบริษัทในต่างประเทศไม่มีข้อมูลบริษัทและที่ตั้งบริษัท ไม่ปรากฎผู้มีอำนาจลงนามในสัญญา แต่ อสค.ทำสัญญา 115,000 ล้านบาท เมื่อ 25 ส.ค.63 โดยไม่มีการเรียกมัดจำจากผู้ซื้อ และไม่มีวัตถุประสงค์ในการซื้อขายถุงมือยาง