กระตุก"ไพศาล"อย่าบั่นทอนความสัมพันธ์อันดีของไทย-จีน
“อลงกรณ์”เตือน”ไพศาล”อย่าบั่นทอนมิตรภาพไทย-จีนโยงการส่งออกทุเรียนไทยกับนาโต้ ชี้เป็นปัญหาโควิดไม่ใช่การเมืองระหว่างประเทศ ยืนยันสัมพันธ์ไทย-จีนแน่นนำเข้าผลไม้ไทยอันดับ 1 จนครองมาร์เก็ตแชร์ตลาดผลไม้จีนกว่า 40% ทิ้งห่างชิลีและเวียดนามหลายเท่าตัว
กรณีนายไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรร โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง การส่งออกผลไม้ไทยนับล้านตันไปจีนส่อเดี้ยงโดยโยงเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ กรณีนาโต้ทำให้จีนกีดกันทุเรียนไทยนั้น
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้(Fruit Board)ได้เขียนเฟซบุ๊กส่วนตัตอบโต้ว่า ข้อเขียนของนายไพศาลที่โยงการเมืองระหว่างประเทศเรื่องนาโต้กับไทยเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้จีนกีดกันการส่งออกทุเรียนไทยนั้น ไม่เป็นความจริงและเป็นประเด็นที่จะส่งผลร้ายผลลบกระทบความสัมพันธ์และความร่วมมืออันดีระหว่างจีนกับไทย เพราะคุณไพศาลพยายามทำให้คนไทยเชื่อว่า จีนกีดกันหรือกลั่นแกล้งการส่งออกทุเรียนและผลไม้ไทยซึ่งจะก่อให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีระหว่างประขาชนของ 2 ประเทศ
“เรื่องด่านจีนและการขนส่งเป็นปัญหาโควิดไม่ใช่ปัญหานาโต้ และมาตรการซีโร่โควิดของจีนใช้กับทุกเมืองทุกมณฑลในประเทศจีนและทุกด่านทั้งทางบกทางน้ำทางอากาศรอบประเทศจีนไม่ใช่เฉพาะด่านลาวด่านเวียดนามที่ไทยต้องขนส่งผลไม้ผ่านด่านเหล่านั้น ทุกประเทศกระทบหมดทั้งพม่า ลาว เวียดนาม กัมพูชา ทั้งสมาชิกนาโต้และไม่ใช่นาโต้ ไม่มีประเทศใดได้สิทธิพิเศษ ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อนเวียดนามที่มีโควิดแพร่ระบาดมากขึ้นในช่วงนี้ ทางจีนก็ออกมาตรการเพิ่มจากเดิมที่ด่านจีน-เวียดนามเพื่อป้องกันโควิด”
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ข้อพิสูจน์ถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างจีนกับไทยโดยเฉพาะด้านการค้าและการส่งออกผลไม้รวมถึงทุเรียนไทย คือในปี 2564 จีนซื้อผลไม้ไทยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีที่ผ่านมากว่าแสนล้านบาท และคนจีนนิยมผลไม้ไทยมากกว่าทุกประเทศในโลก ทำให้ไทยเป็นแชมป์ส่งออกทุเรียนและผลไม้ไปจีนได้มากที่สุดกว่าทุกประเทศ สามารถครองส่วนแบ่งตลาดหรือมาร์เก็ตแชร์ในตลาดจีนได้กว่า 40 % อันดับ 2 คือชิลี 10%เศษ และอีนดับ 3 เวียดนาม 6% ถ้าโควิดไม่ระบาดหนักเหมือน 2 ปีที่ผ่านมาการส่งออกผลไม้ไทยไปจีนจะขยายตัวมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
ยิ่งกว่านั้นเมื่อปลายปี 2564 ทั้ง 2 ประเทศโดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ และรัฐมนตรี GACCของจีนได้ลงนามในพิธีสารเปิดด่านผลไม้เพิ่มอีกเป็น 16 ด่านมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ จากเดิมที่มีเพียง 6 ด่าน ข้อมูลเช่นนี้ตรงข้ามกับที่นายไพศาลบอกว่าจีนไม่พอใจไทยหรือกลั่นแกล้งไทยเพราะปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ
“นายไพศาลมีสิทธิ์วิจารณ์ทุกเรื่องแต่ต้องแม่นยำตรวจสอบข้อมูลให้ชัดแจ้งโดยเฉพาะประเด็นที่จะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับจีน รวมทั้งข้อมูลเรื่องระบบโลจิสติกส์ผลไม้ทั้งทางบกทางน้ำก็ให้ข้อมูลผิดๆ เช่น สถานีรถไฟดังดงของเวียดนามอยู่ห่างด่านรถไฟผิงเสียงเพียง 17 กิโลเมตร ไม่ใช่อยู่กลางประเทศเวียดนาม ห่างไกลพรมแดนกว่างสีตามที่นายไพศาลบอก ส่วนการขนส่งทางรถไฟสายใหม่จีน-ลาวนั้น ประเทศไทยเริ่มขนส่งข้าวเหนียว 20 ตู้คอนเทนเนอร์ไปมหานครฉงฉิ่งเมื่อ 27 มกราคมที่ผ่านมา ไม่ใช่ขนส่งไม่ได้ตามข้อเขียนของคุณไพศาล และการขนส่งทางรถไฟสายใหม่นี้จะสามารถบรรทุกผลไม้ตามพิธีสารที่เพิ่งลงนามได้ทันทีที่ด่านตรวจพืชที่ด่านรถไฟโมฮ่านเสร็จและด่านนี้อยู่ห่างจากสถานีเวียงจันทน์กว่า 400 กิโลเมตร ไม่ใช่ 100 กิโลเมตรตามที่นานไพศาลเขียน ก็ขอให้นายไพศาลทราบถึงข้อมูลเหล่านี้ต่อไปภายหน้าจะได้นำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องต่อไป” นายอลงกรณ์กล่าว
นายอลงกร์ กล่าวว่า รัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงเกษตร กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการต่างประเทศได้หารือความร่วมมือกับจีนอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องในประเด็นใหม่เพื่อเพิ่มศักยภาพและแก้ไขปัญหาการส่งออกผลไม้ในฤดูกาลผลิตปีนี้ ซึ่งจะยังได้รับผลกระทบจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของจีน เช่น 1)ขอให้ล้งไทยที่ผ่านกระบวนการอบรมหลักสูตร “ล้งปลอดโควิด-19” มี GMP Plus รับรอง ซึ่งอบรมไปแล้วกว่า 400 แห่ง สามารถผ่านด่านจีนได้โดยไม่ต้องเปิดทุกตู้ 2)การขนส่งบนเส้นทางรถไฟจีน-ลาวโดยการปิดตู้ที่ประเทศลาว และ ส่งไปคุนหมิงโดยไม่ต้องแวะตรวจที่ด่านโมฮ่านเพื่อให้สามารถส่งทุเรียนและผลไม้เศรษฐกิจอื่นๆหรือเร่งเปิดด่านตรวจพืชที่ด่านรถไฟโมฮ่านให้เร็วที่สุด 3)เสนอให้มีการประชุมหารือกับประเทศจีน ลาวและเวียดนามเพื่อตกลงมาตรการร่วมกันเรื่อง protocol ในการเปิด-ปิดด่านชายแดนต่าง ๆ และ 4)เสนอให้ด่านมี Green Lane สำหรับผลไม้ไทยเป็นการเฉพาะ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของฟรุ้ทบอร์ดได้ร่วมกับภาคเอกชนและเกษตรกรออก 18 มาตรการตั้งแต่ปีที่แล้วรวมทั้งมาตรการกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติพร้อมกับแนะนำผู้ส่งออกให้เตรียมพร้อมรับมือกรณีมีปัญหาด่านทางบกให้เตรียมการล่วงหน้าในการขนส่งทางเรือรวมทั้งการขนส่งทางอากาศสำหรับผลไม้เกรดพรีเมี่ยมตลอดจนการกระจายสินค้าไปยังตลาดอื่นๆและการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศรวมทั้งการแปรรูปสร้างค่าเพิ่ม.