“ชูวิทย์” ใช้สิทธิ์ต่อต้านการหาเสียง อ้างเป็นการต่อสู้ของ “ประชาชน”
“ชูวิทย์” ลุย ชูป้ายต่อต้านการหาเสียง พรรคภูมิใจไทย เตรียมบุก บุรีรัมย์ ทำลายคะแนนเสียงแบบกองโจร ชี้ ทำได้เพราะยังไม่ยุบสภา พร้อมเตรียมแจ้งความกลับ หลังถูกดำเนินคดีกรณีกล่าวหาว่าติดป้ายโจมตีพรรคที่อำนาจเจริญ ยัน ตนเองไม่ได้ติด ย้ำ ไม่กังวล ไม่กลัวถูกอุ้ม
เมื่อเวลา 11.00น.นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เดินทางมาที่ แยกเกษตร ซึ่งอยู่ห่างจากที่ตั้งของที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ประมาณ 600 เมตร เพื่อที่จะชูป้ายต่อต้านการหาเสียงของพรรคภูมิใจไทยในระหว่างที่รถขบวนหาเสียงของพรรค จอดอยู่จำนวน หลังจากทางพรรคได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขต และปล่อยรถหาเสียงลงพื้นที่ โดยนายชูวิทย์ได้นำป้ายคัดค้านมายื่นใส่รถหาเสียงแต่ละคันด้วย
จากนั้นนายชูวิทย์ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวใต้บีทีเอสสถานรเกษตรศาสตร์ โดยระบุว่า เมื่อพรรคภูมิใจไทยหาเสียงตนเองก็มีสิทธิ์ที่จะรณรงค์ต่อต้าน เพราะเป็นการต่อสู้ของประชาชน ส่วนพรรคการเมืองหากอยากจะหาเสียงก็หาเสียงต่อไป ต่างคนต่างทำหน้าที่ และตนเองไม่เคนพูดเรื่องส่วนตัว มีแต่พูดเรื่องที่เป็นประโยชน์ ที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านกัญชา และเรื่องของการซุกหุ้น
และตอนนี้ยังไม่ได้ยุบสภา จะมาใช้กฎหมายอะไรกับตนเอง เพราะตนเองก็เป็นประชาชน แล้วขณะนี้ยังไม่มี พ.ร.บ. เลือกตั้ง การที่ตนเองออกมารณรงค์ ก็ยังไม่มีปัญหา แต่หากมีพ.ร.บ.เลือกตั้งแล้ว ตนเองก็จะออกมาบอกว่า “รู้นะไม่ต้องเลือกพรรคไหน รู้นะว่าไม่ต้องเลือกพรรคบ้ากัญชา”
ส่วนการต่อต้านกัญชาเสรีหากใครเห็นด้วยกับกัญชาเสรีก็ให้โหวตให้พรรคภูมิใจไทย แต่หากใครไม่เห็นด้วย ก็ให้ไม่ต้องโหวตให้พรรคภูมิใจไทย
ส่วนกรณีที่ นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย กล่าวหาตนเองไปติดป้ายในช่วงเวลากลางคืน ยืนยันว่าใครจะไปติดในเวลากลางคืน และทำไมถึงไม่ถอดป้ายออก ถ้าแน่จริงให้มาสู้กันตัวต่อตัว ทั้งนี้ตนเองก็จะแจ้งความเรื่องทำลายป้ายคัดค้านรณรงค์ให้ยกเลิกกัญชาเสรี ที่นำไปติดในพื้นที่จ.อำนาจเจริญ เช่นกัน เพราะตนเองไม่ได้ไปติด แต่ไม่รู้ใครไปติด ดังนั้นเมื่อมีการไปแจ้งความ ตนเองก็จะไปแจ้งความกลับ ในข้อหา กลั่นแกลังให้ได้รับโทษทางอาญา
และการที่ตนเองออกมาต่อต้านกังวลเรื่องของการถูกล็อคตัวหรือถูกอุ้มบ้างหรือไม่ นายชูวิทย์บอกว่า ตนเองไม่กลัวและไม่ได้กังวล จะกังวล จะกลัวเรื่องอะไร เพราะสิ่งที่ทำเป็นประโยชน์กับสังคม และตนเองไม่ได้ไปพูดเรื่องส่วนตัว
ส่วนกรณีที่ถูกอ้างว่า รับงานกับคนที่ตกลงสัญญาไม่ได้นั้น นายชูวิทย์ บอกว่า “จะรับงานใครแล้วทำไมถึงไปถ่ายรูปกับบิ๊กป้อม แต่เกาะคนโน้นคนนี้ คิดหรอจะได้เป็นนายกฯ คนอย่างอนุทิน เป็นผู้รับเหมากลับไปทำผู้รับเหมาเหอะ คิดจะมาเป็นหัวหน้าพรรค ให้เท่ห์ๆแต่เรื่องเขากระโดง เรื่องรถไฟฟ้าเรื่องซุกหุ้น ว่าอย่างไร ซึ่งนี่เป็นเรื่องของข้อเท็จจริง
ทั้งนี้นายชูวิทย์ ยังระบุอีกว่า นายอนุทินไม่มีราคาเดิมเป็นพรรคเล็กคิดการใหญ่ แล้วจะมาเอาคะแนนในกรุงเทพมหานคร หากจะได้คะแนนก็ที่ จ.บุรีรัมย์ ดังนั้นยืนยันว่า ตนเองจะไปถล่มบุรีรัมย์แน่นอน และวิธีการถล่มของตนเองคือการถล่มแบบกองโจร โดยจะไปคนเดียว เช่นเดียวกับแยกเกษตรที่มีการปล่อยคาราวานหาเสียงมากันจำนวนมาก ตนเองก็มาคนเดียวเช่นกัน
ส่วนกรณที่นายอนุทินจะถูกยุบพรรคหรือไม่ นั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า ให้ไปตอบประเด็นที่ตนเองได้ยื่นต่อกกต.ให้ได้ก่อน เพราะตนเองมีหลักฐานทั้งหมด
นักข่าวถามถึงกรณีของนางสุขสมรวย เลขาฯรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่นายชูวิทย์จะออกมาแฉนั้น จะเป็นการรังแกผู้หญิงหรือไม่ โดยนายชูวิทย์ ยืนยันว่า ไม่ได้รังแกผู้หญิง ซึ่งสุขสมรวยเบื้องหลังนั้นคงต้องไปถามคุณสุทัศน์ เงินหมื่น แล้วจะรู้ว่านางสุขสำรวยเป็นอย่างไร
พร้อมยืนยันอีกว่า วันนี้ตนเองไม่จำเป็นต้องลงการเมือง ไม่ได้สังกัดพรรคไหน หากจะออกมาบอกว่าตนเองรับงานใครก็พูดไป แต่ที่แน่ๆ เบื้องหลังของนายอนุทิน คือนายเนวิน